บิ๊กเกม บิ๊กเพลเยอร์

คอลัมน์ สามัญสำนึก

โดย ดิษนีย์ นาคเจริญ

ความร่วมมือระหว่างกลุ่มเซ็นทรัลกับแพลตฟอร์มด้านการขนส่งแบบออนดีมานด์ “แกร็บ” (GRAB) นับเป็นบิ๊กดีลล่าสุดที่น่าตื่นเต้น และสะท้อนให้เห็นภาพของการปรับตัวรับมือความเปลี่ยนแปลงของโลก (และ “ผู้บริโภค” ที่ไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป) อันเป็นผลมาจากเทคโนโลยีดิสรัปชั่นที่ถาโถมเข้าใส่ธุรกิจต่าง ๆ ในช่วงหลายปีมานี้ได้อย่างชัดเจน ที่แม้แต่ยักษ์ค้าปลีกระดับประเทศอย่างกลุ่มเซ็นทรัลก็ยังไม่สามารถอยู่เฉยได้

ดีลนี้กลุ่มเซ็นทรัลใช้เงิน 200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 6,000 ล้านบาท เพื่อเข้าถือหุ้นใน “แกร็บ ประเทศไทย” แบบไม่มีอำนาจควบคุมในสัดส่วนที่มีนัยสำคัญ

และถือเป็นอีกสเต็ปในการเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัล ในการมุ่งไปสู่การเป็นผู้นำ “ดิจิทัลไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์ม” ของไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ “นิวเซ็นทรัล นิวอีโคโนมี” (New Central, New Economy) ที่ประกาศไว้เมื่อปลายปีที่ผ่านมา

พลังความสามารถของ “แกร็บ” ในโลกออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์ม “ดิจิทัล” คือสิ่งที่กลุ่มเซ็นทรัลซึ่งมีความแข็งแกร่งในโลกออฟไลน์ด้วยเครือข่ายค้าปลีก และโรงแรมที่มีอยู่ทั่วประเทศต้องการ และเชื่อว่าหากเชื่อมกันได้แบบไร้รอยต่อจะทำให้ลูกค้าและคู่ค้าของทั้งคู่ได้ประโยชน์

และมีบริการที่ได้เห็น เช่น บริการส่งอาหารจากร้านอาหารและแบรนด์ในเครือกลุ่มเซ็นทรัล ผ่าน “แกร็บฟู้ด” ตามด้วย

บริการรับส่งสินค้าสำหรับธุรกิจในเครือกลุ่มเซ็นทรัล และพาร์ตเนอร์ผ่านแกร็บเอ็กซ์เพรส หรือต่อไปลูกค้าที่เข้าพักในโรงแรมของเครือเซ็นทรัลหรือนักท่องเที่ยวในศูนย์การค้าจะได้สิทธิพิเศษในการใช้บริการ “แกร็บแท็กซี่” เป็นต้น

“ทศ จิราธิวัฒน์” ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มเซ็นทรัล บอกว่า ถือเป็นความร่วมมือในเชิงกลยุทธ์ครั้งสำคัญ หากเซ็นทรัลและแกร็บเชื่อมโยงกันได้จะทำให้ลูกค้าของทั้งคู่เข้าถึงบริการได้ทุกรูปแบบในทุกที่ทุกเวลา และเชื่อว่าในฐานะที่เป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกและบริการ ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานสูงที่สุด

ประกอบกับสินค้าของกลุ่มเซ็นทรัล 90% ยังผลิตในไทย นอกจากจะมีส่วนช่วยผลักดันให้ประเทศก้าวไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ด้วยการนำเทคโนโลยีมาทำให้การค้าขายก้าวทันโลกแล้วยังเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทย และเป็นประโยชน์กับทุกคนได้ด้วย

“กลุ่มเซ็นทรัล 70 ปีแล้ว เรามีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศไทย ลูกค้าทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงสาขาของเซ็นทรัล และโรบินสันได้ภายในครึ่งชั่วโมง และด้วยความสามารถของแกร็บในฐานะแพลตฟอร์มดิจิทัลจะทำให้ในอนาคตเราจะไปหาลูกค้าได้ภายในครึ่งชั่วโมงทั่วประเทศด้วยเช่นกัน เหมือนเป็นทูเวย์ ทำให้เรามูฟจากฟิซิคอลแพลตฟอร์มไปสู่ดิจิทัลไลฟ์สไตล์”

“แอนโทนี่ ตัน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง “แกร็บ” กล่าวว่า ความร่วมมือในฐานะพันธมิตรกับกลุ่มเซ็นทรัลแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในพันธสัญญาของแกร็บที่มีต่อประเทศไทย รวมถึงคนไทยในการสร้างโอกาสทางอาชีพและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจให้ประเทศไทยผ่านแพลตฟอร์มของแกร็บ

“กลุ่มเซ็นทรัลเป็นกลุ่มบริษัทชั้นนำด้านค้าปลีก บริการ และไลฟ์สไตล์ จะช่วยเร่งการเติบโตในบริการต่าง ๆ ของแกร็บ ไม่ว่าจะเป็นการส่งอาหาร, การส่งพัสดุ และการเรียกรถโดยสาร ทั้งตอกย้ำเป้าหมายในการเป็นแอปพลิเคชั่นที่ตอบสนองความต้องการในทุกวันของคนในประเทศ และทำให้แกร็บขับเคลื่อนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ก้าวไกลได้มากยิ่งขึ้นด้วย ดังคำกล่าวที่ว่า ถ้าอยากไปเร็วไปคนเดียว ถ้าอยากไปได้ไกลต้องไปด้วยกัน (If you want to go fast, go alone. If you want to go far, go together.)

บิ๊กมูฟระหว่างกลุ่มเซ็นทรัล และแกร็บจึงถือเป็นก้าวสำคัญที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่ง แต่จะทำให้กลุ่มเซ็นทรัลก้าวไปสู่การเป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงลูกค้าแบบออมนิ

แชนเนลในทุกช่องทางเพื่อสร้างประสบการณ์พิเศษที่ไม่เหมือนใคร หรือ “เซ็นทรัล-เอ็กซ์พีเรียนซ์” ได้หรือไม่…


โปรดติดตาม