คอลัมน์ สามัญสำนึก โดย อิศรินทร์ หนูเมือง
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
การผลักให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ขึ้นศาล ต่อสู้คดี “จำนำข้าว”
เป็นยุทธศาสตร์การเมืองของ “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้มีบารมีเหนือพรรคเพื่อไทย
ขณะที่นักการเมืองกว่า 500 คน จากทุกพรรคการเมืองแทบไม่ได้ออกอากาศ โผล่หน้า พบปะฐานเสียง
แต่เกือบ 3 ปีที่ผ่านมา แทบทุกสัปดาห์ “ยิ่งลักษณ์” ได้ปรากฏตัวในอีเวนต์การเมืองหน้าศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง พร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทย-อยู่กลางมวลชนเสื้อแดง
“ยิ่งลักษณ์” เคยมีโอกาส “หนี” แต่เธอไม่ไป
เพราะถ้าหนี เท่ากับ “ชินวัตร” ทั้งตระกูล “แพ้” ทางการเมือง
แต่การอยู่สู้ ได้ทั้งเก็บคะแนนมวลชน-สะสมแต้มสำหรับลุ้นชิงโชคในการเลือกตั้งครั้งหน้า
เพราะลึก ๆ แล้ว “ฝ่ายทักษิณ” ยังหวังว่า การแพ้-ขาดทุนในศาล จะเป็นกำไรทางการเมืองในอนาคต
ดังนั้น “คดี” จึงเป็น “ราคา” ที่ “ยิ่งลักษณ์” ต้องจ่ายเป็นเดิมพันให้ตระกูล “ชินวัตร” และ “พรรคเพื่อไทย”
ทั้ง 11 คดีของ “ยิ่งลักษณ์”
ทั้ง 6 คดี ของ “ทักษิณ”
คดีของนายพานทองแท้ ชินวัตร และนางมณฑาทิพย์ โกวิทเจริญกุล (น้องสาวทักษิณ) คนละ 1 คดี
เป็นภาระ-พันธะ และมรดกทางการเมือง ที่พี่-น้อง “ชินวัตร” ต้องบรรจุไว้เป็นวาระของพรรค
มากกว่าตำแหน่ง “อดีตนายกรัฐมนตรี” เธอจึงเป็นวีรสตรี ในขั้วการเมืองฝ่ายก้าวหน้า
เช่นเดียวกับเมื่อ 6 ปีก่อน (2554) ในฐานะธิดาคนเล็กของตระกูล “ชินวัตร” เธอถูกเลือกจาก “ทักษิณ” และพี่-น้องในบ้าน เป็น “มติพรรค” ให้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ หมายเลข 1
ด้วยเหตุผลทางการเมือง “ยิ่งลักษณ์..ชื่อนี้เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย”
หลังจากที่เธอออกเดินสายเป็นตัวตาย-ตัวแทน “ทักษิณ” ตั้งแต่ยุคหลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549
สั่งสมมวลชน-สะสมแต้มด้วย “น้ำตา” ทุกเวทีอีเวนต์ การเมืองล่วงหน้า และได้ชิงโชค-ได้ชัยชนะในการเลือกตั้ง ช่วง 49 วันแห่งการหาเสียง
เธอแสดงกิจกรรมทางการเมืองผ่านการ “พูด” ด้วยสคริปต์ทีมเดียวกับ “ทักษิณ”
เมื่อ “ทักษิณ” พูดถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ทำนองว่า “ถ้าใครที่โกรธเกลียดผม หากได้กลับไทยจะแวะไปหา ถ้าท่านให้ผมคุย ผมคุย”
ในสนามเลือกตั้ง “ยิ่งลักษณ์” พูดผ่านสื่อว่า หากเธอได้พบกับ พล.อ.เปรม เธอจะ “ขอคำแนะนำ..คงไม่กล้าที่จะบอกว่าคุย”
วาระการเมืองในใจ-ความฝันของหญิงวัย 44 มีในสคริปต์ 3 เรื่อง อาทิ ปัญหาปากท้องประชาชน-สามัคคีปรองดองและนำประเทศกลับสู่ประชาธิปไตย
ปฐมเหตุที่ลากเธอเข้าวงการเมืองคือ “ปฏิวัติ 2549” และ “ชาวบ้านคิดถึงพี่ชาย-ทักษิณ”
กุนซือทักษิณ-มือร่างสคริปต์ชี้แนวแบบคำต่อคำ เธอกล่าวว่า “มีคนคิดถึงนโยบายเก่า…ครอบครัวชินวัตรเป็นหนี้ประชาชน”
เธอปราศรัยเปิดบริสุทธิ์การเมือง ที่พรรคเพื่อไทย ด้วยคำ “แก้ไข ไม่แก้แค้น”
แม้ไม่ได้พูดตรง ๆ ว่าแค้นใคร แต่คู่ขัดแย้งที่ไม่อาจปฏิเสธคือ เครือข่ายอำนาจรัฐประหาร 2549 ที่เป็น เงา-หัวขบวนฝ่ายอนุรักษนิยม
หลังขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี “ยิ่งลักษณ์” ได้พบหน้า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ต่างกรรม-ต่างวาระ 5 ครั้ง ในรอบ 3 ปี แต่วาระปรองดอง-แก้ไข-ไม่แก้แค้น ถูกทำให้เงียบลง
ขณะที่วาระ “นิรโทษกรรมสุดซอย” กระหึ่มขึ้น ทำให้แนวรบของฝ่ายอนุรักษนิยม-อำมาตย์เก่า-ใหม่ ร่วมวงชัตดาวน์ “ยิ่งลักษณ์” ทั้งถูกถอดถอน-ห้ามเล่นการเมือง 5 ปี-ยึดทรัพย์ แถมเตรียมพิพากษาโทษจำคุก 1-10 ปี
6 ปีในดงการเมือง “ยิ่งลักษณ์” ทุกจังหวะก้าว จังหวะคิด
เธอมี “ทักษิณ” และพี่น้อง “ชินวัตร” เป็นพันธกิจ
เวลานี้เธอเหมือนจะแพ้-แต่พรรคพวก-พี่น้อง “ชินวัตร” ยังลุ้นแต้มชนะทางการเมือง