ยิ่งลักษณ์ เหมือนจะแพ้

คอลัมน์ สามัญสำนึก โดย อิศรินทร์ หนูเมือง

 

การผลักให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ขึ้นศาล ต่อสู้คดี “จำนำข้าว” 

เป็นยุทธศาสตร์การเมืองของ “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้มีบารมีเหนือพรรคเพื่อไทย

ขณะที่นักการเมืองกว่า 500 คน จากทุกพรรคการเมืองแทบไม่ได้ออกอากาศ โผล่หน้า พบปะฐานเสียง

แต่เกือบ 3 ปีที่ผ่านมา แทบทุกสัปดาห์ “ยิ่งลักษณ์” ได้ปรากฏตัวในอีเวนต์การเมืองหน้าศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง พร้อมแกนนำพรรคเพื่อไทย-อยู่กลางมวลชนเสื้อแดง

“ยิ่งลักษณ์” เคยมีโอกาส “หนี” แต่เธอไม่ไป

เพราะถ้าหนี เท่ากับ “ชินวัตร” ทั้งตระกูล “แพ้” ทางการเมือง

แต่การอยู่สู้ ได้ทั้งเก็บคะแนนมวลชน-สะสมแต้มสำหรับลุ้นชิงโชคในการเลือกตั้งครั้งหน้า

เพราะลึก ๆ แล้ว “ฝ่ายทักษิณ” ยังหวังว่า การแพ้-ขาดทุนในศาล จะเป็นกำไรทางการเมืองในอนาคต

ดังนั้น “คดี” จึงเป็น “ราคา” ที่ “ยิ่งลักษณ์” ต้องจ่ายเป็นเดิมพันให้ตระกูล “ชินวัตร” และ “พรรคเพื่อไทย”

ทั้ง 11 คดีของ “ยิ่งลักษณ์”

ทั้ง 6 คดี ของ “ทักษิณ”

คดีของนายพานทองแท้ ชินวัตร และนางมณฑาทิพย์ โกวิทเจริญกุล (น้องสาวทักษิณ) คนละ 1 คดี

เป็นภาระ-พันธะ และมรดกทางการเมือง ที่พี่-น้อง “ชินวัตร” ต้องบรรจุไว้เป็นวาระของพรรค

มากกว่าตำแหน่ง “อดีตนายกรัฐมนตรี” เธอจึงเป็นวีรสตรี ในขั้วการเมืองฝ่ายก้าวหน้า

เช่นเดียวกับเมื่อ 6 ปีก่อน (2554) ในฐานะธิดาคนเล็กของตระกูล “ชินวัตร” เธอถูกเลือกจาก “ทักษิณ” และพี่-น้องในบ้าน เป็น “มติพรรค” ให้สมัคร ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ หมายเลข 1

ด้วยเหตุผลทางการเมือง “ยิ่งลักษณ์..ชื่อนี้เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย”

หลังจากที่เธอออกเดินสายเป็นตัวตาย-ตัวแทน “ทักษิณ” ตั้งแต่ยุคหลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549

สั่งสมมวลชน-สะสมแต้มด้วย “น้ำตา” ทุกเวทีอีเวนต์ การเมืองล่วงหน้า และได้ชิงโชค-ได้ชัยชนะในการเลือกตั้ง ช่วง 49 วันแห่งการหาเสียง

เธอแสดงกิจกรรมทางการเมืองผ่านการ “พูด” ด้วยสคริปต์ทีมเดียวกับ “ทักษิณ”

เมื่อ “ทักษิณ” พูดถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ทำนองว่า “ถ้าใครที่โกรธเกลียดผม หากได้กลับไทยจะแวะไปหา ถ้าท่านให้ผมคุย ผมคุย” 

ในสนามเลือกตั้ง “ยิ่งลักษณ์” พูดผ่านสื่อว่า หากเธอได้พบกับ พล.อ.เปรม เธอจะ “ขอคำแนะนำ..คงไม่กล้าที่จะบอกว่าคุย” 

วาระการเมืองในใจ-ความฝันของหญิงวัย 44 มีในสคริปต์ 3 เรื่อง อาทิ ปัญหาปากท้องประชาชน-สามัคคีปรองดองและนำประเทศกลับสู่ประชาธิปไตย

ปฐมเหตุที่ลากเธอเข้าวงการเมืองคือ “ปฏิวัติ 2549” และ “ชาวบ้านคิดถึงพี่ชาย-ทักษิณ”

กุนซือทักษิณ-มือร่างสคริปต์ชี้แนวแบบคำต่อคำ เธอกล่าวว่า “มีคนคิดถึงนโยบายเก่า…ครอบครัวชินวัตรเป็นหนี้ประชาชน” 

เธอปราศรัยเปิดบริสุทธิ์การเมือง ที่พรรคเพื่อไทย ด้วยคำ “แก้ไข ไม่แก้แค้น”

แม้ไม่ได้พูดตรง ๆ ว่าแค้นใคร แต่คู่ขัดแย้งที่ไม่อาจปฏิเสธคือ เครือข่ายอำนาจรัฐประหาร 2549 ที่เป็น เงา-หัวขบวนฝ่ายอนุรักษนิยม

หลังขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี “ยิ่งลักษณ์” ได้พบหน้า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ต่างกรรม-ต่างวาระ 5 ครั้ง ในรอบ 3 ปี แต่วาระปรองดอง-แก้ไข-ไม่แก้แค้น ถูกทำให้เงียบลง

ขณะที่วาระ “นิรโทษกรรมสุดซอย” กระหึ่มขึ้น ทำให้แนวรบของฝ่ายอนุรักษนิยม-อำมาตย์เก่า-ใหม่ ร่วมวงชัตดาวน์ “ยิ่งลักษณ์” ทั้งถูกถอดถอน-ห้ามเล่นการเมือง 5 ปี-ยึดทรัพย์ แถมเตรียมพิพากษาโทษจำคุก 1-10 ปี

6 ปีในดงการเมือง “ยิ่งลักษณ์” ทุกจังหวะก้าว จังหวะคิด

เธอมี “ทักษิณ” และพี่น้อง “ชินวัตร” เป็นพันธกิจ

เวลานี้เธอเหมือนจะแพ้-แต่พรรคพวก-พี่น้อง “ชินวัตร” ยังลุ้นแต้มชนะทางการเมือง