กระดุมเม็ดแรก “SCB EASY 3.0”

คอลัมน์ ชั้น 5 ประชาชาติ โดย เชอรี่ ประชาชาติ [email protected]

ไม่เฉพาะธุรกิจแท็กซี่, สื่อสิ่งพิมพ์, ท่องเที่ยว, โรงแรม ฯลฯ ที่กำลังอยู่ในภาวะกระอักกระอ่วนจากพัฒนาการของเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค แต่รวมไปถึงธุรกิจอื่น ๆ อีกมาก รวมถึงธุรกิจธนาคารต่างกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญเช่นกัน ที่ต่อไปจะมีคู่แข่งหน้าใหม่ ๆ จากหลายวงการกระโดดเข้ามาแข่งด้วย ไม่ได้แข่งกับคู่แข่งในธุรกิจเดียวกันแบบเดิมอีกต่อไป

การปรับตัว เตรียมความพร้อม จึงเป็นสิ่งที่ทุกองค์กรเร่งสปีดกันอย่างเต็มที่

ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา “แบงก์ไทยพาณิชย์” ขยับใหญ่ โดยลงทุนมากถึง 4,000 ล้านบาท ยกเครื่อง “ดิจิทัลแพลตฟอร์ม” ด้วยเทคโนโลยีที่ดีที่สุด เพื่อให้ระบบมีความเสถียร ปลอดภัย และรองรับการขยายตัวอย่างรวดเร็วในอนาคต ควบคู่ไปกับการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ลูกค้า พร้อมกับประกาศว่าจะยกระดับไปสู่การเป็น “ธนาคารที่น่าชื่นชมที่สุด” (The Most Admired Bank) ในฐานะ “ไลฟ์สไตล์แบงกิ้ง” ที่พร้อมเป็นทุกอย่างเพื่อผู้ใช้งานในยุคดิจิทัล นำร่องด้วยการเปิดตัวแอปพลิเคชั่น SCB EASY เวอร์ชั่น 3.0

“ธนา เธียรอัจฉริยะ” รักษาการ Chief Marketing Officer ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า การปรับปรุงแอปพลิเคชั่น SCB EASY โฉมใหม่ในครั้งนี้ก็เพื่อให้มีความเป็นดิจิทัลไลฟ์สไตล์แบงกิ้งมากขึ้น โดยนำความต้องการของลูกค้ามาเป็นตัวตั้ง และหาเทคโนโลยีมารองรับ เนื่องจากผู้บริโภคในปัจจุบันมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับสมาร์ทโฟน และมองว่าการทำธุรกรรมที่ธนาคารเป็นเรื่องน่าเบื่อ เสียเวลาในการเดินทาง และมีความยุ่งยากในการต้องกรอกเอกสารต่าง ๆ

“ถ้าเราติดกระดุมเม็ดแรกถูก เม็ดต่อ ๆ ไปก็จะไม่ผิด กระดุมเม็ดแรกเปรียบได้กับวิธีคิด ถ้าวิธีคิดถูก การทำงานก็จะถูกตามไปด้วย กระดุมเม็ดแรกสำหรับเรา คือการยอมรับก่อนว่า การทำธุรกรรมที่ธนาคารสำหรับผู้บริโภคเป็นเรื่องน่าเบื่อ ถ้ายอมรับก็คิดต่อได้ว่า เราจะทำยังไงให้สิ่งเหล่านี้เปลี่ยนไป การนำเทคโนโลยีมาใช้ ต้องเลือกที่ตอบโจทย์ลูกค้า มากกว่าเลือกที่จะนำเทคโนโลยีใหม่มาให้ลูกค้าใช้”

“ธนา” ย้ำว่า หัวใจสำคัญของธุรกิจธนาคารในยุคนี้ คือการเข้าใจความต้องการที่หลากหลาย และพฤติกรรมอันซับซ้อน รวมถึงสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ลูกค้า ควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยี

“เราไม่ได้มองว่ากำลังแข่งกับแบงก์อื่น แต่ที่น่ากลัวคือ เฟซบุ๊ก, ไลน์ และกูเกิล ที่มีฐานลูกค้า 30-40 ล้านคนในมือ ที่จะมาแย่งลูกค้ากลุ่มนี้จากแบงก์มากกว่า เราจึงต้องปรับปรุง พัฒนาบริการของเราให้ดีขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ของลูกค้าให้ดีที่สุด”

สำหรับจุดเด่นของแอปพลิเคชั่น SCB EASY เวอร์ชั่นใหม่ จะเริ่มตั้งแต่การออกแบบหน้าตาแอปพลิเคชั่นที่ดูสวยงามน่าใช้มากขึ้น สามารถปรับเปลี่ยนเมนูโปรดที่ใช้บ่อยได้ตามความต้องการของลูกค้าแต่ละคน ทั้งมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น Cardless ATM บริการกดเงินจากตู้เอทีเอ็มไทยพาณิชย์ โดยไม่ต้องใช้บัตรเอทีเอ็ม (ฟรีค่าธรรมเนียมในการกดเงินข้ามเขตถึงสิ้นปีนี้) พร้อมด้วยสิทธิพิเศษ และส่วนลดต่าง ๆ (Easy Bonus) เป็นครั้งแรกที่ให้ลูกค้าโดยไม่ต้องสะสมคะแนน รวมถึงมี Easy App Protection การคุ้มครองความเสียหายในวงเงินสูงสุด 1 แสนบาท เป็นต้น

การเปิดตัวแอปพลิเคชั่นในครั้งนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้น ต่อไปจะมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ และความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจทยอยออกมาอีกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งดิจิทัลแพลตฟอร์มที่นำมาใช้เป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่มีความยืดหยุ่น และความปลอดภัยสูงที่สุด จึงมีความคล่องตัวในการพัฒนาบริการใหม่ ๆ รองรับการเติบโตของจำนวนผู้ใช้งานในอนาคตได้เป็นอย่างดี

นอกจากเงินลงทุน 4,000 ล้านบาท ยังใช้ทีมงานจากทั่วโลกมากถึง 367 คน และใช้เวลาในการพัฒนาแพลตฟอร์มทั้งหมดขึ้นมานานกว่า 10 เดือน

ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า ในปี 2559 คนไทยทำธุรกรรมทั้งการโอนเงินและชำระเงินค่าบริการต่าง ๆ ผ่านโมบายแบงกิ้งเพิ่มเป็น 20.8 ล้านบัญชี จาก 13.92 ล้านบัญชีในปี 2558 และเชื่อว่าอีกไม่นาน ธุรกรรมทางการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือจะกลายเป็นธุรกรรมหลักของธนาคาร โดย “ไทยพาณิชย์” ตั้งเป้าเพิ่มผู้ใช้งานแอปพลิเคชั่นจากปัจจุบัน 4 ล้านคน เป็น 8 ล้านคนในปีหน้า และเพิ่มเป็น 10 ล้านคนในปี 2563 จากจำนวนบัญชีธนาคารที่มีอยู่ 14 ล้านบัญชี