เห็นผลจริง ผลิตบุคลากรให้มีอาชีพ

แฟ้มภาพ

คอลัมน์ ชั้น 5 ประชาชาติ

โดย วิไล อักขระสมชีพ

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้มีโอกาสเดินทางไปทำข่าวพิธีเปิดสำนักงานผู้แทนของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) ที่พนมเปญ ประเทศกัมพูชา เพื่อให้บริการทางการเงินแก่ผู้นำเข้าและส่งออกทั้งไทยและต่างประเทศ

วันนี้ เมืองหลวงแห่งนี้ได้พัฒนาและขยายตัวไปอย่างรวดเร็วตามกระแสโลกดิจิทัลเหมือนกัน และที่เป็นสัญลักษณ์ประเทศพัฒนา คือ มี “ร้านกาแฟสด” เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ดโดยเฉพาะของไทย แม้แต่อเมซอนของ ปตท. ก็ยังเข้าไปเปิดหลายสาขา

แม้ราคากาแฟจะสูง แต่ก็จะเห็นมีคนเมืองขี่มอเตอร์ไซค์แวะเวียนมาซื้อกันเข้าออกไม่น้อย และจะเห็นเด็กนักเรียนเดินกันตามท้องถนนมากมายขึ้น วิถีชีวิตของผู้คนในเมืองนี้ก็มีโทรศัพท์มือถือกันไม่น้อย

ไกด์ท้องถิ่นเล่าว่า ร้านกาแฟแถวสถานศึกษาโรงเรียนกลางเมืองจะคึกคักมาก เนื่องจากรัฐบาลมีงบฯน้อย จึงให้โรงเรียนเปิดให้ครูทำการสอนได้เพียงครึ่งวันเช้าเท่านั้น และครึ่งวันบ่ายก็เลิกเรียน ซึ่งเด็ก ๆ ส่วนใหญ่ก็จะไปเข้าร้านกาแฟ หรือร้านที่มีไวไฟให้ใช้กัน เพราะเด็ก ๆ และเยาวชนกัมพูชาในเมืองหลวงก็จะใช้วิธีการเรียนรู้ผ่านทางเน็ตกันเป็นส่วนใหญ่

โลกของการศึกษาไม่ได้จำกัดอยู่แค่โรงเรียนหรือสถานศึกษาเหมือนในอดีตแล้ว แต่อยู่บนโลกดิจิทัลที่สามารถใช้ค้นหาและศึกษาผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้ เป็นอีกช่องทางให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ได้ไม่น้อย สำหรับประเทศที่กำลังพัฒนาอย่างกัมพูชา

เมื่อเดินทางข้ามมาอีกเมืองที่เป็นเมืองท่องเที่ยวและเป็นเมืองมรดกโลก นั่นคือ “เมืองเสียมราฐ” ก็จะพบกับอีกโลกของความเป็นเมืองโบราณเมืองเก่าแก่ ถนนหนทางยังเป็นฝุ่นแดงอยู่เช่นเดิม วิถีชีวิตแบบชาวบ้าน ตัดกับภาพนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินไปมา และ EXIM BANK ก็ได้พาแวะชมกิจการโรงแรมจินตมณี ซึ่งเป็นลูกค้าของ EXIM BANK เอง และเจ้าของโรงแรมนี้ก็เป็นคนไทย คือ “สุคนธ์ ชาญปรีดา” กรรมการผู้จัดการ บริษัท จินตมณี จำกัด โดยที่มาที่ไป คือ นายสุคนธ์ ได้มาเป็นอาสาสมัครและเห็นโอกาสทำธุรกิจโรงแรม จึงได้เริ่มต้นทำธุรกิจนี้ขึ้นมา และเมื่อกิจการดีมีโอกาส จึงได้ตั้ง “มูลนิธิจินตมณี” ขึ้นมาเมื่อปี 2547 เพื่อให้ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนและคนท้องถิ่นในเมืองนี้ในการพัฒนาการศึกษาและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากโรงแรมจะถูกแบ่งมาให้กับมูลนิธิจินตมณี รวมกับเงินบริจาคจากผู้ที่มาพักและองค์กรภาครัฐและเอกชนต่าง ๆ ที่สนใจเข้าร่วมสนับสนุนกิจกรรมของมูลนิธิ โดยจะไม่มีการนำเงินบริจาคไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายส่วนกลางในการบริหารจัดการมูลนิธินี้หรือค่าใช้จ่ายพนักงานด้วย เพราะทางโรงแรมจินตมณี จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายดังกล่าวทั้งหมดเอง

ในการเยี่ยมชมกิจการของมูลนิธิจินตมณี ทางมูลนิธิได้ให้เด็กที่ได้รับทุนการศึกษารุ่นก่อน ๆ ต่างขึ้นมาแชร์ประสบการณ์ชีวิต ซึ่งเด็กที่ขึ้นมาเล่า จะพูดถึงพื้นฐานครอบครัวที่ยากจน พ่อแม่แตกแยก จะมีสังคมพ่อหรือแม่เลี้ยงเดี่ยวกับลูกมาก เรื่องเรียนไม่ต้องพูดถึง และต้องทำงานกันตั้งแต่เด็ก หากแต่โชคดีได้เข้ามาทำงานโรงแรมแห่งนี้ และมีโอกาสได้ทุน

จากมูลนิธิ ให้เข้าอบรมวิชาชีพการโรงแรม หลังจบการอบรม ทำให้ได้ทำงานที่โรงแรมแห่งนี้มีรายได้ที่ดีขึ้น เรียกว่า “เห็นผลจริง ๆ” เด็ก ๆ เยาวชนเหล่านี้ ต่างบอกว่า มีชีวิตที่ดีขึ้น และสามารถเลี้ยงดูพ่อแม่และครอบครัวของตัวเอง และพวกเขามองไปถึงข้างหน้าว่า อยากให้ลูก ๆ ได้รับโอกาสที่ดีกว่าเขา

ขณะที่ EXIM BANK ก็ได้เข้ามาร่วมสนับสนุนโครงการด้านการศึกษาให้กับมูลนิธิจินตมณีในลักษณะทุนการศึกษา 10 ทุน รวม 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับเด็กเยาวชนที่ยากไร้และสนใจประกอบอาชีพในธุรกิจโรงแรม สามารถนำมาใช้เป็นค่าเล่าเรียนและฝึกฝนทักษะด้านการโรงแรม ครอบคลุมการประกออาหาร รวมถึงทักษะด้านการใช้ภาษาอังกฤษ คอมพิวเตอร์ และการใช้ชีวิตผ่านโครงการด้านศึกษาของมูลนิธิจินตมณี

โดยหลักสูตรการอบรมและปฏิบัติจริงเป็นระยะเวลา 10 เดือน ก็จะได้งานในธุรกิจบริการและการโรงแรมในกัมพูชากัน 100% แน่ ซึ่งช่วยลดปัญหาการขาดแคลนบุคลากรในธุรกิจโรงแรมของกัมพูชาด้วย

นับเป็นอีกหนึ่งวิธีของการให้แก่ผู้ที่ด้อยโอกาสกว่าเรา การให้โอกาสทางการศึกษาทางวิชาชีพหรือการทำมาหากิน ถือเป็นการสร้างคนสร้างงานเห็นผลจริง