อโหสิกรรม ฉลองสงกรานต์

ภาพ : การ์ตูนขุนพล

คอลัมน์ สามัญสำนึก โดย สมถวิล ลีลาสุวัฒน์

วันปิดต้นฉบับครั้งนี้ พิเศษหน่อยคือ ต้องปิดล่วงหน้า เพราะหยุดฉลองสงกรานต์ ขึ้นปีใหม่ไทย เป็นช่วงหยุดยาว คนนิยมเดินทางท่องเที่ยว กลับบ้านเกิด ไปกินข้าวกับพ่อกับแม่ อีกกลุ่มบินเที่ยวเมืองนอก คงต้องขอบคุณอานิสงส์จากค่าบาทแข็ง

เทศกาลปีนี้ต่างจากทุกปี เพราะสถานการณ์บ้านเมืองและเศรษฐกิจโดยรวมยังไปไม่สุด หลังเลือกตั้ง 2019  สภาพการเมืองไทยเหมือนคนหลังพิงฝา ใช้ปากเป็นอาวุธ สาดกันไปมา ฟังแล้วปวดท้องเสีย ผู้คนเริ่มยี้และแหยง เหมือนบัวแล้งน้ำ ที่ต้องรอ “รัฐบาลใหม่” ชูช่อ

“ปัญหาชาติ” ยังคงดำรงต่อไป ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลายเป็น “มนุษย์พอผ่าน” ทำหน้าที่ไม่สุดความสามารถ ไม่ไปตามครรลอง แถมชื่นชมกันเองในหมู่พวก ทำให้ “ปัญหาที่แท้” ลอยฟูฟ่อง ฟันเฟืองที่ขยับเคลื่อน ไปได้ด้วยแรงลมธรรมชาติ ไม่ใช่ฝีมือ บริษัทเอกชนรู้อยู่ และกลัวเศรษฐกิจเผาจริง

โลกหมุนไปตามความคิด เราต้องคิดบวกเข้าไว้ โดยอโหสิกรรมให้หมด

ก่อนหยุดสงกรานต์ ได้พบ “คุณสรรค์ สุขุขาวดี” วิศวกรวัยเกษียณ ณ หมู่บ้านประชาชื่น ย่านซอยสามัคคี

แม้เฉียดวัย 70 แต่สุขภาพ น้ำเสียง แววตา ยังคงเปี่ยมไปด้วยพละกำลังแบบคนคิดดี มีความเฮลตี้ และสร้างสรรค์

“ชีวิตผมดีทุกวันนี้ ต้องขอบคุณพ่อแม่ ครอบครัว และกัลยาณมิตร ที่หล่อเลี้ยงกายใจให้สุขและสมบูรณ์”

พร้อมเอ่ยถึง “นายคนแรก” ในชีวิตการทำงานที่เสียไป ซึ่งเป็นรุ่นพี่ วิศวกรไฟฟ้า จุฬาฯ “คุณรุ่งโรจน์ ศรีประเสริฐสุข” อดีตอธิบดีกรมการบินพาณิชย์ และประธานบอร์ดองค์การโทรศัพท์ฯ ในยุคเปลี่ยนผ่าน ที่พร่ำสอน ให้ประสบการณ์ มุมมองที่เหนือชั้นในรูปแบบของความเป็นคนดี ทำทุกอย่างเพื่อส่วนรวม สมัยรับราชการที่กรม

พร้อมเอ่ยถึง “เพื่อนเรียน” คนแรก “อนันต์ อัศวโภคิน” ผู้ก่อตั้งแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แม้ AI จะไล่ล่า แลนด์ฯก็ยังไม่ตกยุค เพราะบริษัทให้ความสำคัญกับเรื่องคนและคุณภาพ

คนที่ 2 “บุญคลี ปลั่งศิริ” จากพนักงานรัฐวิสาหกิจ สู่ “มืออาชีพ” องค์กรใหญ่ คุมคนคุมเงินมหาศาล โดยใช้ความขยันและสมองอันปราดเปรื่อง สร้างตัวเองได้อย่างน่าชื่นชม

คนที่ 3 “ทิฆัมพร เปล่งศรีสุข” เจ้าพ่อ แอล.พี.เอ็น.ฯ ที่ชวนมาเป็น “มืออาชีพ” สร้างโครงการ สร้างองค์กร LPN

“ชีวิตคนเราไม่ซับซ้อนอะไรหรอก นอกจากตัวหลอกล่อ ไม่ว่าเราจะเป็นอะไร เราต้องมีเป้าหมาย ทำให้ดีและทำให้สุด อย่าเป็นคนครึ่ง ๆ กลาง ๆ อย่าเป็นมนุษย์พอผ่าน”

ทุกวันนี้ เขารอให้ถึงวันศุกร์ที่เป็น “วันสุข” เพื่อบึ่งรถไปอัมพวา แล้วคว้าไมค์ร้องเพลงขับกล่อมลูกค้าในร้านอาหารบ้านทองโบราณ ที่ไม่ได้ขายทอง ซึ่งเป็นธุรกิจส่วนตัว

“สมัยหนุ่มก็บู๊นะ เคยพาลูกบ้านไปกระทรวงมหาดไทยเพราะแนวทางด่วนปากเกร็ด-บางปะอินผ่ากลางหมู่บ้าน ในฐานะประธานหมู่บ้าน 2 สมัย ต้องไฟต์เต็มที่ และเป็นโครงการแรก ๆ ที่ชาวบ้านได้รับค่าเวนคืนอย่างเป็นธรรม” 

มาวันนี้ สภาพโครงการยังดูดี แม้จะผ่านไปหลายสิบปี

ล่าสุด คุณเพียงใจ หาญพาณิชย์ คุณแม่ของคุณอนันต์ มอบถนนภายในโครงการให้กับรัฐ แล้วอัพเกรดสาธารณูปโภค ทั้งมีข่าวว่า รัฐจะตัดถนนใหม่ทะลุหลังหมู่บ้านไปแจ้งวัฒนะ

เท่ากับเปิดมิติใหม่แห่งโครงข่ายคมนาคมในโซนเหนือ

เท่ากับชุบชีวิตบ้านเก่าให้ดูดี มีมูลค่า

เหมือนชุบชีวิตคนวัยเกษียณให้ดูหนุ่มสาวอีกครั้ง

“บ้านที่ผมอยู่ เป็นโครงการแรก ๆ ที่คุณเพียงใจพัฒนาขึ้น ถือเป็นหมู่บ้านต้นแบบ คือ อยู่แล้วดี มีความสุข”

เราสุขคนเดียวไม่พอ ต้องให้คนในครอบครัว และเพื่อนบ้าน สุขไปด้วย ถึงจะครบถ้วน

“อย่าเป็นคนเรื่องมาก อย่าเยอะในทุกเรื่อง เราต้องไม่เห็นแก่ตัว ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร มีปัญหาต้องช่วยกัน ยึดกฎไว้ แต่อย่าแหกซะเอง คนก็เจริญ ชุมชนก็เจริญ”

เช่นเดียวกับบ้านเมือง

แต่อะไรที่ควบคุมไม่ได้ เพราะอะไรก็ไม่รู้ ก็ให้อโหสิกรรม ให้ปล่อยวาง ปล่อยผ่าน ชีวิตคนล้วนต้องจากลา จะจากเป็นจากตาย เวลาเป็นผู้กำหนด

มนุษย์พึงทำให้ดี ทำให้ถูก คือ ดีที่สุด