แพ้คดีโฮปเวลล์หมื่นล้าน…บทเรียนซ้ำซาก

โครงการโฮปเวลล์(แฟ้มภาพ)

บทบรรณาธิการ

โครงการก่อสร้างทางรถไฟยกระดับในกรุงเทพมหานคร หรือโฮปเวลล์ ยังตามหลอกหลอนคนไทยไม่จบ แม้จะปิดตำนานก่อสร้างมานานนับ 10 ปี และต่อทุบทิ้งตอม่อเคลียร์พื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ตั้งแต่เมื่อ 5-6 ปีก่อน

ล่าสุด 22 เมษายน 2562 ศาลปกครองสูงสุด ได้พิพากษากลับคำพิพากษาศาลปกครองกลาง โดยมีคำสั่งให้บังคับคดีตามคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ ให้รัฐชดใช้ค่าเสียหายให้กับ บจ.โฮปเวลล์ 11,888 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีเป็นการสิ้นสุดคดีความข้อพิพาทอภิมหาโปรเจ็กต์ที่ดำเนินมายาวนาน จนกลายเป็นโครงการมหากาพย์ต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ ทั้งในแง่ระยะเวลาที่เกิดกรณีพิพาทขัดแย้งระหว่างรัฐ กับ บจ.โฮปเวลล์ ผู้ได้รับสัมปทาน และมูลค่าความเสียหายที่ภาครัฐต้องจ่ายให้กับเอกชนซึ่งเป็นคู่สัญญา

เป็นข่าวร้ายหลังเทศกาลสงกรานต์ วันปีใหม่ไทย สำหรับประชาชนคนไทยในฐานะผู้เสียภาษี เพราะจู่ ๆ ต้องร่วมแบกรับภาระหนี้ที่ภาครัฐจะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับยักษ์บริษัทต่างชาติรายนี้ ซ้ำรอยข้อพิพาทจากการให้สัมปทาน การทำสัญญาว่าจ้างโครงการขนาดใหญ่ที่มักมีสารพัดปัญหาตามมาขณะเดียวกันเมื่อคดีเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการ หรือมีการฟ้องร้องในชั้นศาล ส่วนใหญ่จบลงโดยหน่วยงานรัฐเป็นฝ่ายแพ้ความ ต้องควักเงินงบประมาณจ่ายเป็นค่าชดเชย

เพราะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบตั้งแต่เริ่มต้น แถมจนแต้มกับข้อโต้แย้งที่เอกชนหยิกยกขึ้นต่อสู้ซ้ำคดีเก่า ๆ อาทิ หน่วยงานรัฐส่งมอบพื้นที่ล่าช้า การบอกเลิกสัญญาโดยมิชอบ หรือรัฐเป็นฝ่ายละเมิดสัญญา

น้อยครั้งที่จะเป็นฝ่ายชนะคดี ทั้ง ๆ ที่ภาครัฐมีบุคลากรพร้อมสรรพ ทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาชีพ นักกฎหมาย อัยการ ฯลฯ แต่ไม่เคยนำบทเรียนความพ่ายแพ้มาปรับแก้ไข ป้องกันไม่ให้หน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจตกเป็นเบี้ยล่าง หาทางอุดช่องโหว่ตั้งแต่ขั้นตอนการจัดทำรายละเอียดขอบเขตงาน (TOR) การยกร่างสัญญาที่จะทำกับภาคเอกชน ฯลฯ

ขณะที่รัฐบาลทุกยุคสมัยไม่ว่าประชาธิปไตยเต็มใบ ไม่เต็มใบ ไม่เคยมียุคใดป้องกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด แม้จะรู้ว่าสาเหตุหลักมาจากการทุจริตประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง ที่เห็นแก่ได้ มุ่งประโยชน์ส่วนตนมากกว่ารักษาผลประโยชน์ประเทศ

ถึงยุคนี้ แม้ไม่อาจคาดหวังได้เช่นเดียวกันว่า รัฐบาลจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุดจะแก้ปมค่าโง่ซ้ำซากได้ แต่ต้องจับตานักการเมือง พรรคการเมืองที่ชูนโยบายแก้ปราบโกงว่าพูดจริงทำจริง หรือแค่วาทกรรมหาเสียง

คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่.. ศาลปกครองสูงสุดพิพากษากลับให้โฮปเวลล์ชนะคดี รัฐชดใช้ 11,888 ล้านพร้อมดอกเบี้ย