คอลัมน์สามัญสำนึก
อิศรินทร์ หนูเมือง
1.2 ล้านล้านบาท คือวงเงินรวมในแพ็กเกจ กระตุ้นเศรษฐกิจ วาระขึ้นปีที่ 6 ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
8.8 แสนล้าน คือวงเงินที่รัฐบาลยุค คสช. 5 ปี ใช้ไปเพื่ออัดฉีดผู้มีรายได้น้อย
3.1 แสนล้าน คือมาตรการแจกเงินล่าสุด
1.7 แสนล้านบาท คือวงเงินที่ รมว.คลังจะดึงจากรัฐวิสาหกิจเพื่อเร่งลงทุน-กระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน
8 หมื่นล้านบาท คือวงเงินขององค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่น ที่ รมว.มหาดไทยหมายมั่นปั้นมือจะเปิดกระเป๋าออกมาใช้เพื่อให้ถึงมือฐานเสียงรากหญ้า
5 ยอดเงินนี้จะมีผลต่อการ “ขาดดุล” งบประมาณต่อเนื่องไปอีก 10 ปี
เมื่อ ครม.เศรษฐกิจนัดแรกเคาะจ่ายเงินเร่งด่วนตามที่หาเสียงไว้กว่า 316,000 ล้านบาท
ทั้งให้ชดเชยเกษตรที่โดนภัยแล้ง-กู้ฉุกเฉิน-แจกเงินช็อปปิ้ง ท่องเที่ยว คนละ 1,000 บาท
จัดแจงให้ธนาคารออมสินจับมือกรุงไทยจัดเงิน 5,2000 ล้าน ปล่อยกู้ดอกเบี้ยพิเศษสำหรับซื้อบ้านผู้มีรายได้น้อย
อัดเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ+เงินเพิ่ม on top อีก 500 บาท เฉลี่ยรายละ 700-1,500 บาท ช่วยเด็ก-คนชรา ใช้งบประมาณกว่า 20,000 ล้านบาท
แถมพักชำระหนี้กองทุนหมู่บ้านอีก 1 ปี
กลุ่มเอสเอ็มอีก็ได้สินเชื่อพิเศษ วงเงินรวมแสนล้าน (ถ้ากู้ผ่าน)
ประกันรายได้สินค้าเกษตร ทั้งข้าว 15,000 บาท/ตัน ยาง 60 บาท/กก. ปาล์ม 4 บาท/กก. อีกเกือบแสนล้านก็คงตามมา
จากนี้ไปการเติมเงินใน “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” คงมีอีกต่อเนื่อง
จาก 4 ปีก่อนหน้านี้รัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์” สมัยที่ 1 ตั้งไข่ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ”
ในปีแรก (2559) ใช้งบประมาณ 17,469 ล้านบาท ให้ผู้มาลงทะเบียน 7,715,359 คน
ปีถัดมา 2560 เปิดลงทะเบียนเพิ่มเติม ผู้ได้รับสิทธิเพิ่มขึ้น เป็น 11.4 ล้านคน ใช้เงิน 42,509.82 ล้านบาท
ปีที่ 3 กวาดผู้มีรายได้น้อยเพื่อแจก “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” เพิ่มอีก 3.1 ล้านคน ยอดผู้ถือบัตรทะลุ 14.5 ล้านคน
ก่อนการเลือกตั้ง 1 ปี จัดตั้ง “กองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม” ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 46,000 ล้านบาทต่อปี
118 วันก่อนวันเลือกตั้ง รัฐบาล “เติมเงิน” ใน “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” เกือบ 2 แสนล้าน ทั้งบรรเทาภาระค่าไฟ-ค่าน้ำประปา เงินให้ฟรี 500 บาท ค่าเดินทางไปรักษาพยาบาล 1,000 บาท ช่วยจ่ายค่าเช่าบ้าน 400 บาท/เดือน
ยังมีการ “แจกเพิ่ม” ให้ชาวสวนยาง 1,303,331 ราย ไร่ละ 1,800 บาท ตั้งงบฯบ้าน 1 ล้านหลัง 60,000 ล้านบาท แจกบำนาญข้าราชการเพิ่มเป็น 10,000 บาท/เดือน
1 เดือนสุดท้ายก่อนสิ้นปีที่ผ่านมา ครม.ใช้มาตรการภาษี-ให้เงินผู้มีรายได้น้อย อุดหนุนสินค้าเกษตรอีก 9,438 ล้านบาท
5 ปีงบประมาณ “พล.อ.ประยุทธ์ 1” ใช้จ่ายงบประมาณผ่านนโยบายการคลัง-การตั้งงบฯกลางปีเพิ่มเติมเพื่อกลุ่มเศรษฐกิจฐานรากผ่านนโยบายไทยนิยมยั่งยืน มาตรการประชารัฐ ไปถึง 878,506.26 ล้านบาท
1 ปีก่อนเลือกตั้งใช้งบฯเพื่อผู้มีรายได้น้อย ทะลุสูงสุด 372,127.26 ล้านบาท
20 ปีที่ผ่านมา ปัจจัยชี้ขาดในการชนะเลือกตั้ง 4 ครั้ง คือแจกจ่ายสไตล์ “ประชานิยม”
“ประชานิยม” ต้นตำรับที่ทำให้พรรค “ฝ่ายทักษิณ” ได้รับชัยชนะเลือกตั้ง เป็นครั้งที่ 5
แต่ “ประชานิยม” ในคราบ “นโยบายประชารัฐ” กลับส่งผลต่อชัยชนะทางการเมืองให้ “ฝ่ายบิ๊กตู่” ได้จัดตั้งรัฐบาล
14.5 ล้านเสียง คือลูกค้าและพันธะ “ประชานิยม-ประชารัฐ” ที่รัฐบาลต้องใช้เงินงบประมาณแผ่นดินเป็นหัวจ่าย
หากฝ่าย “พล.อ.ประยุทธ์” ต้องการชัยชนะทางการเมืองเป็นครั้งที่ 2
แพ็กเกจที่อ้างว่าแจกเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ “สไตล์ประชารัฐ” ที่ฉีกทุกกระเป๋าของรัฐยังเป็นคำตอบอันโอชะ