บทนำ
เชื้อไวรัสปอดอักเสบโคโรน่าจากเมืองอู่ฮั่นประเทศจีน ที่ทั่วโลกหวาดผวาลามไม่หยุด แพร่ระบาดไปหลายประเทศรวมทั้งไทย เป็นปัจจัยเสี่ยงซ้ำเติมเศรษฐกิจภายในและนอกประเทศที่กำลังมีปัญหา ถึงขณะนี้ก็ยังคาดเดาได้ลำบากว่า กว่าเชื้อไวรัสร้ายจะถูกควบคุมสกัด หยุดการลุกลามลงได้ ต้องใช้ระยะเวลา 3-6 เดือนหรือยาวนานกว่านั้น
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- ดัน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” จับตาย้าย “ท่าเรือคลองเตย”
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
เงื่อนเวลาในการป้องกันแก้ไขวิกฤตจึงกลายเป็นตัวแปรทำให้เกิดความไม่แน่นอน ส่งผลกระทบการท่องเที่ยว การเดินทาง ฉุดจีดีพีของไทยในปีนี้ที่มีแนวโน้มขยายตัวต่ำอยู่แล้วให้ย่ำแย่ลงอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่กลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้ง 4 เครื่องยนต์สะดุดไม่เดินหน้า
เพราะหลังภาคการส่งออกเจอมรสุมซ้ำซ้อน การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก สงครามทางการค้า พิษค่าเงินบาทแข็งจนขยายตัวติดลบ การบริโภคภายในประเทศยังฟุบไม่ฟื้น ขณะที่ภาคเอกชนติดเบรกไม่ยอมขยับลงทุนเพิ่ม ล่าสุดการจัดซื้อจัดจ้าง การลงทุนภาครัฐซึ่งที่ผ่านมาทำงานอยู่เพียงเครื่องยนต์เดียวส่อวูบลงอีก
ผลพวงจากร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ติดล็อก ถูกยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ หลังพบว่ากระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรมี ส.ส.โหวตลงคะแนนโดยเสียบบัตรแทนกัน
ส่งผลให้งบฯปี 2563 ซึ่งล่าช้ากว่าปีปกติอยู่แล้ว 4 เดือน ต้องเลื่อนบังคับใช้ออกไปอีก 2 เดือน ทำให้การเบิกจ่ายเงินงบประมาณภาครัฐของหน่วยงานทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีปัญหา แถมปีนี้จะเหลือระยะเวลาเบิกจ่ายงบประมาณวงเงินรวม 3.2 ล้านล้านบาท เพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้น
เมื่อภาคการท่องเที่ยวและบริการ ความหวังใหม่ในการสร้างรายได้เข้าประเทศทดแทนยอดการส่งออกขาดหายไปอีก เพราะถูกกระทบจากไวรัสอู่ฮั่น นักท่องเที่ยวจีน นักท่องเที่ยวทั่วโลกพากันหยุดเดินทาง ไทยซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวลำดับต้น ๆ ของโลกจึงเจอทั้งความเสี่ยงและการสูญเสียโอกาส จนน่าห่วงธุรกิจท่องเที่ยวกับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งระบบ
ภายใต้ภาวะวิกฤตฉุกเฉิน หลากหลายปัญหายังคั่งค้างแก้ไม่ได้ และมีปัญหาใหม่มาซ้ำเติม รัฐบาลในฐานะผู้บริหารประเทศจึงต้องเร่งหาทางออก ปลดล็อกแต่ละปมด้วยการระดมทุกสรรพกำลังพลิกสถานการณ์จากลบเป็นบวกให้ได้
สำคัญที่สุดคือ ต้องใช้โอกาสนี้แสดงฝีมือความสามารถในการป้องกันแก้ไขสารพัดปัญหาให้ลุล่วง ปลุกเศรษฐกิจที่อ่อนแรงลงให้ฟื้น เรียกศรัทธาความเชื่อมั่นกลับคืนมาโดยเร็วที่สุด