คอลัมน์

รื้อ กม.ต่างด้าวเจตนารมณ์ต้องคงเดิม

บทบรรณาธิการ

การชะลอบังคับใช้ พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ผ่านมาเกือบครึ่งทางแล้ว วันที่ 31 ธ.ค. 2560 มาตรการชั่วคราวเพื่อแก้ไขข้อขัดข้องในการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะสิ้นสุดลง

จากนั้น 1 ม.ค. 2561 คนต่างด้าวที่ทำงานต้องห้าม หรือทำงานโดยไม่มีหนังสือแจ้งนายทะเบียน นายจ้างที่รับแรงงานต่างด้าวทำงานต้องห้าม ทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต ทำงานไม่ตรงกับที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต หรือรับคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานกับตนเข้าทำงาน ฯลฯ จะมีโทษทั้งปรับทั้งจำคุก

ควบคู่กับการใช้อำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 ชะลอบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉบับนี้ออกไปชั่วคราว นอกจาก หัวหน้า คสช.มีคำสั่งให้ นายจ้างกับแรงงานต่างด้าวใช้โอกาสนี้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเข้ารายงานตัวที่ศูนย์รับแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว ตามประกาศกระทรวงแรงงานแล้ว ได้ให้กระทรวงแรงงานเร่งแก้ไขกฎหมายดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 120 วันด้วย

ล่าสุด มีแรงงานต่างด้าวเข้ารายงานตัวที่ศูนย์รับแจ้งฯรวม 8 แสนคน ขณะนี้อยู่ระหว่างคัดกรองก่อนเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์สัญชาติ ออกพาสปอร์ต วีซ่า ฯลฯ โดยประเทศต้นทาง คือ เมียนมา กับกัมพูชา ส่วนลาวมีนโยบายให้แรงงานลาวกลับประเทศทั้งหมด หากต้องการกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทย ต้องเข้ามาภายใต้บันทึกความเข้าใจ (MOU) เท่านั้น

ส่วนความคืบหน้าในการแก้ไข พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว คณะทำงานที่มี นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน กำลังเร่งดำเนินการ ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จเร็วที่สุด

สาระสำคัญที่ปรับแก้ คือ การพิจารณาปรับลดบทลงโทษนายจ้าง ตามข้อเสนอของ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ฯลฯ ที่ชี้ว่าบทลงโทษรุนแรงเกินไป

อย่างไรก็ตาม มีปัญหาตามมาว่าโทษที่เหมาะสมพอดีอยู่ตรงไหน เพราะแม้บทลงโทษรุนแรงจะส่งผล กระทบต่อผู้ประกอบการ นายจ้าง แต่ถ้าโทษต่ำเกินไป การป้องปรามแรงงานผิดกฎหมายก็คงไร้ผล เพราะผู้กระทำผิดไม่รู้สึกเกรงกลัวหรือหลาบจำ

ทางออกจึงอยู่ที่ทำอย่างไรให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพ รัฐสามารถจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว แก้ปัญหาค้ามนุษย์ แรงงานทาสอย่างได้ผล ซึ่งอาจทำได้โดยให้ร่างกฎหมายที่จะปรับแก้ใหม่ยังคงหลักการในการแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าวทั้งระบบ ควบคู่กับการป้องปรามผู้กระทำผิด ความมั่นคงทางด้านแรงงาน เศรษฐกิจ สังคม จึงจะเกิดขึ้น