
คอลัมน์ ชั้น 5 ประชาชาติ โดย สาโรจน์ มณีรัตน์
กครั้งที่เดินทางออกต่างจังหวัด ไม่ว่าจะถูกเชิญไป หรือไปด้วยตัวเอง ผมมักจะหาสถานที่เก๋ ๆ เพื่อนั่งกินข้าว จิบกาแฟ หรือพูดคุยอย่างกันเอง สบาย ๆ คนไม่ต้องมากมาย
เพื่อจะได้คุยสะดวก
สถานที่เหล่านี้ ถ้าจะว่าไปค่อนข้างหายากสักหน่อย แต่ก็ไม่ถึงกับหาไม่ได้เลย เพราะบางแห่งอาจอยู่ไกลจากผู้คน บางแห่งต้องโทร.จองล่วงหน้าถึงจะได้ไปได้กิน
หรือได้พักผ่อน
เพราะเขาไม่ได้เปิดต้อนรับผู้คนแบบสาธารณะ ประเภทใครไปก็ได้ ใครกินก็ได้ หรือใครต้องการพักผ่อนก็ได้ เพราะเจ้าของธุรกิจเขาไม่ได้ต้องการเงินขนาดนั้น
ทำแค่พอมีความสุข
ทำแค่ลูกค้าเฉพาะ ที่ต่างมีรสนิยมคล้าย ๆ กัน เพื่อจะได้มีความอิ่มเอมในสิ่งที่เสพเหมือน ๆ กัน ซึ่งใครจะเชื่อล่ะว่าแนวโน้มร้านอาหารแบบนิชมาร์เก็ต
กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
และไม่เฉพาะแต่ในมหานครกรุงเทพเท่านั้น
หากในต่างจังหวัดก็เริ่มมีร้านทำนองนี้
เกิดขึ้นมากด้วย
ผมไม่ทราบว่ามาจากเหตุผลใด ?
แต่ถ้าจะให้วิเคราะห์ ผมเชื่อว่าร้านอาหารแบบนิชมาร์เก็ตน่าจะเกิดขึ้นจากอิทธิพลของโลกโซเชียลส่วนหนึ่ง ที่ต่างแนะนำผ่านเฟซบุ๊กว่าร้านอาหารร้านนี้บรรยากาศดี
อาหารอร่อย
บริการดี
ราคาไม่แพง
แถมมีรสนิยมเฉพาะ เพราะเจ้าของร้านเป็นสถาปนิก, วิศวกร, อาร์ติสต์, นางแบบ, สจ๊วต หรือแอร์โฮสเตส และอื่น ๆ อีกหลายอาชีพ ที่ล้วนต่างมีเรื่องเล่า (storytelling) จนทำให้คนที่อ่านคำแนะนำจากเฟซบุ๊กรู้สึกอยากมาทันที
หรือไม่ก็ร้านอาหารแห่งนี้เคยเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์บุคคล ประวัติศาสตร์สถานที่ และประวัติศาสตร์เชิงมุขปาฐะ จนทำให้ผู้ที่รับรู้เรื่องราวต่างรู้สึกอยากมาเช็กอินสักครั้ง เพราะไม่เพียงจะทำให้ตัวเองรู้สึกเท่ ยังดูเป็นคนร่วมสมัย และมีรสนิยมด้วย
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ แม้จะไม่เกี่ยวอะไรกับร้านอาหารเลย เพราะอย่างที่ทุกคนทราบกัน การขายอาหารของร้านต่าง ๆ พระเอก-นางเอกส่วนใหญ่คือเมนูของร้านอาหารนั้น ๆ
ให้อยู่ไกลแค่ไหนก็ต้องไปกิน
แต่ปัจจุบัน อาหารไม่ใช่พระเอก-นางเอกอีกต่อไปแล้ว เพราะสิ่งที่ผสมปนเปไปกับร้านอาหารนิชมาร์เก็ตจะต้องมี storytelling เจือปนอยู่ด้วย
ทั้งยังจะต้องมีสไตล์การตกแต่งร้านแบบเฉพาะทาง ดูเก๋ไก๋
ไม่ว่าจะเป็นทรงไทย, ทรงยุโรป, ชิโน-โปรตุกีส หรือจะออกแนวละตินอเมริกาก็ตาม ทั้งนั้นเพื่อให้ลูกค้ามี
โอกาสเช็กอิน แชร์สถานที่ และอัพเดตรูปขึ้นเฟซบุ๊ก
เพื่อบอกพรรคพวกว่าตัวเองอยู่ที่นี่
กินอาหารร้านนี้
เพื่อยั่วยวนให้พรรคพวกของตัวเองมากดไลต์ และมาคอมเมนต์ในมุมต่าง ๆ จนทำให้เพื่อนหลายคนพลอยอิจฉา และแชร์ส่งต่อไปยังเพื่อนกลุ่มอื่น ๆ ให้ทราบ
แต่ทั้งนั้นร้านอาหารเหล่านี้จะต้องเป็นจริงดั่งที่เขาเล่าด้วย
หากไม่ได้เรื่องหรือไม่มีความเป็นจริงเจือปนอยู่เลย เขาก็หลอกลูกค้าที่มีโอกาสพลัดหลงเข้ามาเพียงครั้งสองครั้งเท่านั้น ส่วนที่เหลือเขาไม่มาหรอก
เพราะรู้สึกว่าถูกหลอก
ผมจึงค่อนข้างเชื่อว่าหากใครจะทำร้านอาหาร, บูติคโฮเทล หรือโฮสเทลอะไรก็ตามที่จับลูกค้าเฉพาะทางจะต้องครบเครื่องด้วยเรื่องราวที่ผมบอกมา รับรองได้ว่าสิ่งที่คุณทำจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
แต่ราคาอย่าแพงมากขอให้สมเหตุสมผล
มีความเป็นธรรมต่อลูกค้า
และมีบริการอย่างดีเยี่ยม พวกเขาจะไม่ไปไหนหรอกครับ รับรองเขาต้องมาหาคุณอย่างแน่นอน เพราะจากประสบการณ์ของผมในการเดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ มากมาย
ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ผมเห็นมานักต่อนักแล้วว่าเรื่องของ storytelling ใช้ได้ผลจริง ๆ
ขอให้มีเรื่องราวบอกกล่าวให้นักชิม, นักท่องเที่ยวไปบอกเล่าต่อในเฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์, อินสตาแกรม และไลน์ได้อย่างไม่รู้จบ รับรองสิ่งที่คุณทำ จะถูก
พูดถึงในโลกออนไลน์อย่างไม่รู้เบื่อ จนอาจดังภายในชั่วข้ามคืน
เพราะฉะนั้น ใครที่คิดจะทำร้านอาหารแบบนิชมาร์เก็ต ลองนำประสบการณ์จากสิ่งที่ผมเล่าให้ฟังไปลองทำดู เผื่อบางทีคุณอาจจะประสบความสำเร็จเหมือนกับพวกเขาบ้าง
ยิ่งในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ด้วย
เพราะทุกคนอยู่ในภาวะชะงักงัน แต่ถ้าเราลงทุนก่อน ทำก่อน โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก่อนก็ย่อมมีอยู่เช่นกัน
ลองดูนะครับ ?