แก้เงื่อนไขใช้ที่ดิน ส.ป.ก. อย่าเอื้อกลุ่มทุน

แฟ้มภาพประกอบข่าว

บทบรรณาธิการ

การแก้ปัญหาการใช้ที่ดินในพื้นที่ ส.ป.ก.เพื่อประโยชน์ในกิจกรรมอื่นนอกเหนือจากเกษตรกรรมยังไม่ได้ข้อยุติ แม้ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะใช้อำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ ปี 2557 แก้ล็อกชั่วคราว ไม่ให้กระทบการลงทุน

พร้อมกำหนดให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแล ยกร่างเงื่อนไขหลักเกณฑ์ในการอนุญาตให้ใช้ที่ดิน ส.ป.ก. โดยให้ออกเป็นกฎกระทรวง ซึ่งขณะนี้การดำเนินการคืบหน้าไปมาก และอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้ปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ นักลงทุน คำสั่งตามมาตรา 44 ได้เปิดให้กลุ่มผู้ผลิตปิโตรเลียม เหมืองแร่ ผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานลม ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่ ส.ป.ก. ก่อนมีคำสั่งดังกล่าว ยื่นคำร้องขอใช้ประโยชน์ในพื้นที่ ส.ป.ก. และให้สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินไปพลาง ๆ ก่อนได้

รวมทั้งให้ผู้ที่ได้รับสัมปทานปิโตรเลียม แต่ยังไม่ได้รับความยินยอมให้ใช้พื้นที่ ส.ป.ก. ยื่นคำขอใช้ที่ดินในเขต ส.ป.ก. และให้สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินดังกล่าวในระหว่างรอการอนุญาตหรือยินยอมได้ จนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

ล่าสุด การพิจารณาร่างกฎกระทรวง กับระเบียบในการอนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดิน ส.ป.ก. เพื่อทำเหมืองแร่ สำรวจและขุดเจาะปิโตรเลียม ติดตั้งกังหันลม หรือกิจการอื่นนอกเหนือจากการเกษตร ยังมีปัญหาบางประเด็นที่หน่วยงานภาครัฐและเอกชนเห็นแตกต่างกัน โดยเฉพาะการกำหนดอัตราค่าตอบแทน ค่าเยียวยา และค่าชดเชย ที่ผู้ประกอบการต้องจ่ายให้กับเกษตรกร จึงต้องเร่งหาข้อสรุปร่วมกันให้ได้

โจทย์ใหญ่คือจะกำหนดกฎกติกาการใช้ประโยชน์ที่ดิน ส.ป.ก.ในกิจกรรมอื่น ๆ อย่างไร ไม่ให้ขัดเจตนารมณ์ หรือหลักการ พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักในการจัดสรรที่ดินให้กับเกษตรกร คนยากไร้ และผู้ไม่มีที่ดินอยู่อาศัยทำกิน

ขณะเดียวกันจะกำหนดค่าตอบแทนการใช้ที่ดิน กับค่าเยียวยา และค่าชดเชยการสูญเสียโอกาส ในระดับเท่าใดจึงจะเหมาะสมเป็นธรรม ไม่ให้เกษตรกรถูกเอารัดเอาเปรียบ

ที่ต้องตระหนักและให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คือ ต้องไม่กำหนดเงื่อนไขในลักษณะที่เอื้อ หรือเปิดกว้างให้ภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม กลุ่มทุน ฯลฯ ฉวยโอกาสลดต้นทุนด้วยการใช้ขอเช่าที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน แทนที่จะหาซื้อที่ดินจากเอกชน หากเป็นอย่างนั้นนอกจากเกษตรกรจะเสียโอกาส และทำให้รัฐเสียหายแล้ว สาธารณชนก็คงไม่อาจยอมรับได้