การเมืองเพื่อชาติ

รูปถ่าย ครม.
แฟ้มภาพ : Thaigov.
บทบรรณาธิการ

การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ บวกกับนโยบายปลดล็อกดาวน์ให้ธุรกิจกลับมารีสตาร์ต ส่งผลด้านบวกทำให้ประชาชน ผู้ประกอบการ นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น

กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เคยหยุดชะงักเริ่มกระเตื้อง แม้ยังไม่คึกคักเหมือนที่ผ่านมา แต่ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศให้คืนสู่ภาวะปกติเร็วขึ้น

ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่ภาคธุรกิจ สถานประกอบการกลับมาเปิดดำเนินการ แม้ต้องยึดแนวปฏิบัติด้านสุขอนามัยตามวิถีใหม่แบบนิวนอร์มอล เช่นเดียวกับประชาชนทั่วไปที่ได้กลับมาทำงาน ใช้ชีวิตประจำวันตามปกติอีกครั้ง พร้อมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและรักษาระยะห่างทางสังคมตามกฎ

ปลดล็อกเศรษฐกิจจากการถูกแช่แข็ง เริ่มมองเห็นทิศทางว่าหลังวิกฤตคลี่คลายสถานการณ์ในภาพรวมทั้งประเทศจะดีขึ้น การบริโภค การจับจ่าย ที่ซบเซาจะค่อย ๆ ฟื้น ธุรกิจ การค้า การลงทุนได้เดินหน้า แม้อีกนานกว่าโควิดจะหมดไปจากโลกนี้

แต่หากทุกฝ่ายตั้งการ์ดสูงป้องกันความเสี่ยง โอกาสที่เชื้อไวรัสจะย้อนมารอบใหม่คงเป็นไปได้ยาก ขณะเดียวกันนอกจากธุรกิจภาคเอกชน ประชาชนต้องร่วมแรงร่วมใจพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสและความท้าทาย ปลุกเศรษฐกิจที่ทรุดหนักให้โงหัวแล้ว รัฐบาลในฐานะผู้บริหารจัดการประเทศก็มีส่วนสำคัญยิ่ง

หากรัฐบาลทำหน้าที่อย่างแข็งขัน กระทรวงเศรษฐกิจเสาหลักทั้งด้านการเงินการคลัง การผลิต เกษตร การค้า การลงทุน ฯลฯ บูรณาการทำงานราบรื่นไม่สะดุดขัดขา จะหนุนกิจกรรมทางธุรกิจ เศรษฐกิจ ช่วยร่นระยะเวลาพลิกสถานะจีดีพีจากติดลบให้มาเป็นบวก

อย่างไรก็ตาม เกมการเมืองในพรรคพลังประชารัฐ พรรคแกนนำรัฐบาลที่ปะทุขึ้นกลางวิกฤต จากที่หลายกลุ่มหลายก๊กเปิดศึกแย่งชิงอำนาจ นอกจากจะสะเทือนสถานะรัฐบาลแล้ว ยังทำให้สาธารณชนเสื่อมศรัทธาความเชื่อมั่นเพราะภายใต้สถานการณ์ที่ทั่วโลกรวมทั้งไทยกำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ เศรษฐกิจที่โคม่าเจอโควิดถล่มซ้ำ ประชาชน ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมเดือดร้อนถ้วนหน้า แทนที่รัฐบาลจะแก้วิกฤตได้เต็มที่ รัฐมนตรีทุ่มเทเวลาทำงานได้เต็มกำลังความสามารถ ก็ต้องพะว้าพะวังเคลียร์ปมการเมือง

บทสรุปจะออกหัวออกก้อยอย่างไร รัฐบาลชุดนี้ถึงคราวต้องปรับเปลี่ยนผลัดใบหรือไม่ยังต้องจับตา แต่เวลานี้เสียงเรียกร้องให้รัฐบาล นักการเมืองทำเพื่อประเทศชาติ นึกถึงประชาชนเจ้าของคะแนนเสียงเลือกตั้งกำลังดังกระฉ่อน