หนุ่มเมืองจันท์ : ‘โควิด’ ผับ

บทความ โดย หนุ่มเมืองจันท์
คอลัมน์ Market-think
โดย สรกล อดุลยานนท์

วันนี้น่าจะอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านของการผ่อนคลายจากการล็อกดาวน์มาสู่การเปิดเมือง

ขณะที่หมอก็กลัวว่าจะเกิดการระบาดครั้งที่ 2

เตือนตลอดว่า “อย่าการ์ดตก”

แต่คนค้าขายและแรงงานระดับล่างกลัวการอดตายมากกว่า

เขามีเหตุผลอีกมุมหนึ่งทั้งเรื่องจำนวนคนติดเชื้อในประเทศ (ไม่รวมคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ) ตัวเลขเป็น 0 มาหลายวัน

และอุปกรณ์การแพทย์ที่เพียงพอรองรับคนป่วยจำนวนมาก

เขาอยากให้รัฐผ่อนคลายมากกว่านี้

เพราะการจับจ่ายใช้สอยมีเรื่อง “อารมณ์” มาเกี่ยวข้องด้วย

ถ้าทำให้ “ยาก” เกินไป คนก็ไม่ออกมาซื้อของ

หรือถ้าบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยไม่คล่องตัว การตัดสินใจซื้อก็ยากขึ้น

มาตรการอื่น ๆ เช่น เคอร์ฟิว ก็เช่นกัน

ให้เปิดโรงหนัง แต่เคอร์ฟิว 23.00 น.

วันทำงาน ช่วงที่คนดูเยอะที่สุด คือ รอบค่ำ

ถ้ากลัวว่าติดเคอร์ฟิว เขาก็ไม่ดู

ครับ หมอกับคนค้าขายมี “ไม้บรรทัด” แตกต่างกัน

สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตเห็น คือ วิธีการแก้ปัญหาแบบไทย-ไทย

จำได้ไหมครับว่า รัฐบาลพยายามคุมเข้มจำนวนคนเข้าห้าง ด้วยการใช้ “ไทยชนะ” เป็นตัวควบคุม

สแกนก่อนเข้า ออกก็สแกนอีกครั้ง

ถ้าเข้าศูนย์การค้า และเดินเข้าร้านต่าง ๆ สัก 10 ร้าน

เราจะต้องสแกนเข้า-ออก 20 ครั้ง

วันแรก ๆ จะเข้มมาก

แต่เจอเสียงบ่นจากผู้บริโภคเยอะเข้า เขาก็แก้ปัญหาด้วยวิธีการแบบไทย-ไทย

นั่นคือ ยังคงระบบการตรวจสอบอยู่

การวัดอุณหภูมิยังเข้มอยู่

แต่การสแกน “ไทยชนะ” จะปล่อย ๆ

ใครสแกนก็สแกน

ใครขี้เกียจหรือทำท่าสแกน แต่ไม่ได้สแกนจริง ก็ไม่ได้ว่าอะไร

ยิ่งตามร้านเล็ก ๆ ยิ่งปล่อย ๆ

เพราะทุกคนรู้สึกว่า ค่อนข้าง

ยุ่งยาก และที่สำคัญ คือ ปริมาณคนที่เข้าร้านน้อยมาก

รัฐบาลก็รู้ แต่ทำเป็นไม่รู้ ไม่เห็น

ไม่มีการตรวจเข้มเหมือนตอนแรก

ตอนนี้คนเดินห้างเยอะขึ้นเรื่อย ๆ

บรรยากาศการซื้อขายเริ่มกลับมา

ส่วนเรื่องการท่องเที่ยว ไม่ต้องเป็นห่วงเลยครับ

ถ้าเปิดให้เที่ยวเมื่อไร คนไทยเที่ยวแน่นอน

ปรากฏการณ์ “บางแสนแตก” วันก่อน ชัดเจนมาก

แสดงว่าคนไทยหิวทะเลมาก

พอมีวันหยุด 1 วัน เขาก็ไปเที่ยวทะเลใกล้ ๆ กัน

ถ้ารัฐบาลเปิดให้เที่ยวแบบเต็มที่

เมื่อไร รับรองคนไทยเที่ยวแหลกแน่นอน

ยังมีคนมีเงินที่เก็บกดเยอะเลยครับ

ตอนนี้คนเริ่มกังวลเรื่องไวรัส

โควิด-19 น้อยลง

เพราะถ้าไม่มีคนในประเทศติดเชื้อติดต่อกันสัก 14 วัน ก็แสดงว่าตอนนี้คนไทยในประเทศปลอดเชื้อ

เที่ยวได้สบายใจขึ้น

แต่สำหรับเรื่องนักท่องเที่ยวต่างประเทศ คงต้องรออีกพักหนึ่ง

เพราะตัวเลขการติดเชื้อของคนไทยที่เดินทางมาจากต่างประเทศยังมีทุกวัน

โอกาสจะเปิดประเทศให้นัก

ท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาคงยากหน่อย

เพราะไม่อยากให้เชื้อจากต่างประเทศเข้ามา

โรงแรม-รีสอร์ตที่เคยเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ต้องปรับแผนมาจับกลุ่มคนไทยได้แล้วครับ

เชื่อเถอะครับว่า เขาอั้นกันอยู่

กำลังซื้อยังมี

เพราะถ้ารอนักท่องเที่ยวต่างชาติคงอีกนาน

ส่วนผับหรือแหล่งบันเทิงยามค่ำคืน คงต้องกลั้นใจต่อไป เพราะคงจะเป็นคิวท้ายสุด

และถ้ารัฐบาลให้เปิดผับ แต่ต้องรักษา “ระยะห่าง”

บรรยากาศการเที่ยวคงจะแปลก ๆ

เพราะผับต้องแน่น ๆ ยิ่งแน่น คนยิ่งอยากเข้า

แต่นึกถึงผับยุคโควิดสิครับ

มีที่กั้นใส ๆ หรือให้แต่ละคนนั่งแบบสลับฟันปลา

แต่ละโต๊ะห่างกัน 2 เมตร

ห้ามตะโกนเสียงดัง

แค่จินตนาการเห็นภาพแบบนี้

ถ้าผมเป็นเจ้าของผับ

ตัดสินใจง่ายเลย

ปลายปีนี้ค่อยว่ากัน