คอลัมน์ Market-think โดย สรกล อดุลยานนท์
วันนี้น่าจะอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านของการผ่อนคลายจากการล็อกดาวน์มาสู่การเปิดเมือง
ขณะที่หมอก็กลัวว่าจะเกิดการระบาดครั้งที่ 2
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
เตือนตลอดว่า “อย่าการ์ดตก”
แต่คนค้าขายและแรงงานระดับล่างกลัวการอดตายมากกว่า
เขามีเหตุผลอีกมุมหนึ่งทั้งเรื่องจำนวนคนติดเชื้อในประเทศ (ไม่รวมคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ) ตัวเลขเป็น 0 มาหลายวัน
และอุปกรณ์การแพทย์ที่เพียงพอรองรับคนป่วยจำนวนมาก
เขาอยากให้รัฐผ่อนคลายมากกว่านี้
เพราะการจับจ่ายใช้สอยมีเรื่อง “อารมณ์” มาเกี่ยวข้องด้วย
ถ้าทำให้ “ยาก” เกินไป คนก็ไม่ออกมาซื้อของ
หรือถ้าบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยไม่คล่องตัว การตัดสินใจซื้อก็ยากขึ้น
มาตรการอื่น ๆ เช่น เคอร์ฟิว ก็เช่นกัน
ให้เปิดโรงหนัง แต่เคอร์ฟิว 23.00 น.
วันทำงาน ช่วงที่คนดูเยอะที่สุด คือ รอบค่ำ
ถ้ากลัวว่าติดเคอร์ฟิว เขาก็ไม่ดู
ครับ หมอกับคนค้าขายมี “ไม้บรรทัด” แตกต่างกัน
สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตเห็น คือ วิธีการแก้ปัญหาแบบไทย-ไทย
จำได้ไหมครับว่า รัฐบาลพยายามคุมเข้มจำนวนคนเข้าห้าง ด้วยการใช้ “ไทยชนะ” เป็นตัวควบคุม
สแกนก่อนเข้า ออกก็สแกนอีกครั้ง
ถ้าเข้าศูนย์การค้า และเดินเข้าร้านต่าง ๆ สัก 10 ร้าน
เราจะต้องสแกนเข้า-ออก 20 ครั้ง
วันแรก ๆ จะเข้มมาก
แต่เจอเสียงบ่นจากผู้บริโภคเยอะเข้า เขาก็แก้ปัญหาด้วยวิธีการแบบไทย-ไทย
นั่นคือ ยังคงระบบการตรวจสอบอยู่
การวัดอุณหภูมิยังเข้มอยู่
แต่การสแกน “ไทยชนะ” จะปล่อย ๆ
ใครสแกนก็สแกน
ใครขี้เกียจหรือทำท่าสแกน แต่ไม่ได้สแกนจริง ก็ไม่ได้ว่าอะไร
ยิ่งตามร้านเล็ก ๆ ยิ่งปล่อย ๆ
เพราะทุกคนรู้สึกว่า ค่อนข้าง
ยุ่งยาก และที่สำคัญ คือ ปริมาณคนที่เข้าร้านน้อยมาก
รัฐบาลก็รู้ แต่ทำเป็นไม่รู้ ไม่เห็น
ไม่มีการตรวจเข้มเหมือนตอนแรก
ตอนนี้คนเดินห้างเยอะขึ้นเรื่อย ๆ
บรรยากาศการซื้อขายเริ่มกลับมา
ส่วนเรื่องการท่องเที่ยว ไม่ต้องเป็นห่วงเลยครับ
ถ้าเปิดให้เที่ยวเมื่อไร คนไทยเที่ยวแน่นอน
ปรากฏการณ์ “บางแสนแตก” วันก่อน ชัดเจนมาก
แสดงว่าคนไทยหิวทะเลมาก
พอมีวันหยุด 1 วัน เขาก็ไปเที่ยวทะเลใกล้ ๆ กัน
ถ้ารัฐบาลเปิดให้เที่ยวแบบเต็มที่
เมื่อไร รับรองคนไทยเที่ยวแหลกแน่นอน
ยังมีคนมีเงินที่เก็บกดเยอะเลยครับ
ตอนนี้คนเริ่มกังวลเรื่องไวรัส
โควิด-19 น้อยลง
เพราะถ้าไม่มีคนในประเทศติดเชื้อติดต่อกันสัก 14 วัน ก็แสดงว่าตอนนี้คนไทยในประเทศปลอดเชื้อ
เที่ยวได้สบายใจขึ้น
แต่สำหรับเรื่องนักท่องเที่ยวต่างประเทศ คงต้องรออีกพักหนึ่ง
เพราะตัวเลขการติดเชื้อของคนไทยที่เดินทางมาจากต่างประเทศยังมีทุกวัน
โอกาสจะเปิดประเทศให้นัก
ท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาคงยากหน่อย
เพราะไม่อยากให้เชื้อจากต่างประเทศเข้ามา
โรงแรม-รีสอร์ตที่เคยเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ต้องปรับแผนมาจับกลุ่มคนไทยได้แล้วครับ
เชื่อเถอะครับว่า เขาอั้นกันอยู่
กำลังซื้อยังมี
เพราะถ้ารอนักท่องเที่ยวต่างชาติคงอีกนาน
ส่วนผับหรือแหล่งบันเทิงยามค่ำคืน คงต้องกลั้นใจต่อไป เพราะคงจะเป็นคิวท้ายสุด
และถ้ารัฐบาลให้เปิดผับ แต่ต้องรักษา “ระยะห่าง”
บรรยากาศการเที่ยวคงจะแปลก ๆ
เพราะผับต้องแน่น ๆ ยิ่งแน่น คนยิ่งอยากเข้า
แต่นึกถึงผับยุคโควิดสิครับ
มีที่กั้นใส ๆ หรือให้แต่ละคนนั่งแบบสลับฟันปลา
แต่ละโต๊ะห่างกัน 2 เมตร
ห้ามตะโกนเสียงดัง
แค่จินตนาการเห็นภาพแบบนี้
ถ้าผมเป็นเจ้าของผับ
ตัดสินใจง่ายเลย
ปลายปีนี้ค่อยว่ากัน