อาหารอันโอชา “แฮมทาโร่”

คอลัมน์ สามัญสำนึก
อิศรินทร์ หนูเมือง

ของอร่อยที่สุดก็คือ ภาษีประชาชน…คือท่อนฮุกของเพลง “แฮมทาโร่” ที่นักเรียน-นักศึกษาใช้เป็นเครื่องมือในการนัดแฟลชม็อบและเคลื่อนไหวไปสู่การ “ยุบสภา”

ภายใต้สถานการณ์ที่ประเทศไทยไม่มีข่าวดีด้านเศรษฐกิจมานานกว่า 6 เดือนแล้ว

8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2563 การจัดเก็บรายได้จากภาษีต่ำกว่าคาดถึง 2.18 แสนล้านบาท

กรมสรรพากรเก็บภาษีต่ำกว่าเป้าไปถึง 1.39 แสนล้านบาท

กรมสรรพสามิตรายได้หายไปราว 7 หมื่นล้านบาท

กรมศุลกากรรายได้หด 8,516 ล้านบาท

เฉพาะในเดือนพฤษภาคมเดือนเดียวเก็บรายได้หลุดเป้าไปแล้ว 1 แสนล้านบาท

ไม่นับรวมรายได้ที่มาจากรัฐวิสาหกิจที่ต่ำกว่าเป้าไป 1.5 หมื่น

ขณะที่การปรับ ครม.ประยุทธ์ 2/2 จะมีนายธนาคาร-สายกฎหมายขึ้นมาคุมทีมรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลผสม 20 พรรค ซึ่งขณะนี้มี 2 รองนายกรัฐมนตรีจากพรรคอันดับ 2-3

คุมเชิงอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล ทั้ง อนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทย และ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ จากประชาธิปัตย์

ทั้ง 2 คนกำกับ-กอดกระทรวงพาณิชย์-เกษตรฯ และคมนาคม-การท่องเที่ยวฯไว้แน่นหนา

ไม่ว่าจะเป็นไปตามโผที่ว่า “ปรีดี ดาวฉาย” ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ต้องควบรองนายกรัฐมนตรี

การบริหารเศรษฐกิจคนใหม่แบบ 3 พรรค 3 ทีม ยังต้องใช้บริการ-บารมีนายกรัฐมนตรีกุมบังเหียนต่อไป

ไม่ว่าใครจะไป-จะมาต้องเผชิญหน้ากับภารกิจ-ขวากหนามที่รอดักหน้าอยู่หลายดอก ภายใต้สถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19

ทั้งต้องสางโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจรากหญ้า ภายใต้วงเงินกู้ 400,000 ล้านบาท มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั้งในระบบ-นอกระบบให้ถึงฝั่งแหล่งเงินทุน

เงินทองต้องใช้ตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 พ.ศ. 2563 วงเงิน 500,000 ล้านบาท

ไม่นับรวม “ขุมทรัพย์พลังงาน” อันอยู่ในเก้าอี้กระทรวงที่มีราคาและค่างวด ทั้งแผนการลงทุนด้านพลังงานกว่า 200,000 ล้านบาทในปี 2563 เช่น การลงทุนสำรวจและผลิตปิโตรเลียม การรื้อถอนแท่นผลิตปิโตรเลียม LNG hub การก่อสร้างท่ารับก๊าซธรรมชาติเหลว

โครงการปรับปรุงระบบสายส่งไฟฟ้าให้พร้อมรองรับพลังงานหมุนเวียน การศึกษาความเป็นไปได้ของการเชื่อมโยงสายส่งไฟฟ้ากับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อการขายไฟฟ้าในอนาคต

การลงทุนของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รวมถึงการ
ขับเคลื่อนโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก และแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าประเทศ ฉบับปรับปรุง (PDP 2018 Rev.1)

การลงทุนภาครัฐซึ่งจะเป็นหัวใจของการฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563-2564 รอคนมาผลักดัน-ขับเคลื่อนทั้งการปักหมุด-ลงเสาเอกในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มูลค่ารวมกว่า 6 แสนล้านบาทที่ผ่าน ครม.ไปแล้ว

อีกแผนที่นักการเมืองจ้องตาไม่กะพริบ คือ เมกะโปรเจ็กต์การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (โครงการ PPP) กว่า 90 โครงการ มูลค่าการลงทุนกว่า 1 ล้านล้านบาท

หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ รัฐมนตรีเศรษฐกิจทีมใหม่ ต้องตั้งต้นจากฐานภาษี-รายได้ที่ตกต่ำ-และความยุ่งเหยิงในการสั่งการให้เป็นไปตามแผนลงทุนนับล้านล้าน


ภาษี-เงินหลวงที่เป็นอาหารอันโอชาตามคำเสียดสีของม็อบนักเรียน “แฮมทาโร่” กำลังเผยโฉมหน้า