4.5 หมื่นล้านเข้ากระเป๋าใคร

พลเอกประยุทธ์-นายกรัฐมนตรี
บทบรรณาธิการ

“ชิม ช้อป ใช้” เฟสใหม่ภายใต้ชื่อโครงการ “คนละครึ่ง” มาตรการกระตุ้นการบริโภค กระตุ้นเศรษฐกิจ กำลังจะถูกนำมาใช้อีกครั้ง โดยกระทรวงการคลังจะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ในเดือนตุลาคม 2563 ตามมติคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ (ศบศ.)

รูปแบบโครงการจะแจกเงินให้ผู้ลงทะเบียนคนละ 3,000 บาท จำนวน 15 ล้านคนผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ของธนาคารกรุงไทย สำหรับการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้า โดยรัฐบาลจะช่วยจ่าย 50% ของราคาสินค้า วันละ 100-250 บาท รวมแล้วไม่เกินวงเงินรายละ 3,000 บาท ระยะเวลาทั้งสิ้น 3 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2563

กลุ่มเป้าหมายเป็นคนไทยอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียนขอรับสิทธิ และแม้เคยได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาจากมาตรการอื่น ๆ มาแล้ว อาทิ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ชิม ช้อป ใช้ เฟส 1-3 โครงการเราไม่ทิ้งกัน โครงการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกร ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ฯลฯ ก็ไม่ถูกตัดสินให้เข้าร่วมโครงการนี้

เป็นอีกครั้งหนึ่งที่รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เลือกใช้วิธีแจกเงินตรงถึงมือกลุ่มเป้าหมาย กระตุ้นให้เกิดการจับจ่าย ช่วยลดผลกระทบและบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์เศรษฐกิจและวิกฤตโควิด

มีทั้งเสียงขานรับและคำวิพากษ์วิจารณ์ท้วงติงจากหลายฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการหว่านแจกเงินบ่อยครั้งเหมือนแจกยาสามัญประจำบ้าน เนื่องจากผู้ได้รับสิทธิจำนวนมากอาจไม่ใช่กลุ่มคนที่เดือดร้อน เท่ากับใช้จ่ายเงินที่ได้จากการจัดเก็บภาษีไม่เหมาะสมคุ้มค่า ผู้มีรายได้น้อย คนที่เดือดร้อนจริง อาจตกหล่นไม่สามารถเข้าถึง

ที่กำลังถูกจับตามอง คือ ร้านค้าที่รัฐบาลจะเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ จากเดิมที่จะโฟกัสเฉพาะร้านค้ารายย่อย หาบเร่ แผงลอย ให้เม็ดเงินจากการจับจ่าย กระจายสู่ผู้ประกอบอาชีพอิสระกลุ่มนี้ แต่ล่าสุดมีความพยายามผลักดันให้ร้านสะดวกซื้อ ผู้ประกอบการรายใหญ่ ได้สิทธิเช่นเดียวกับรายย่อย โดยไม่ฟังเสียงทัดทานท้วงติง

หากเป็นอย่างนั้นก็น่าห่วงว่าเม็ดเงิน 4.5 หมื่นล้านบาทที่รัฐบาลหว่านให้จะตกถึงมือกลุ่มที่เดือดร้อน ได้รับผลกระทบรุนแรงถึงขั้นที่รัฐจำเป็นต้องควักเงินงบประมาณที่มีจำกัดมากน้อยแค่ไหน เพราะต้องไม่ลืมว่างบฯ ที่ทุ่มลงไป 4.5 หมื่นล้านบาท สร้างภาระหรือก่อหนี้ให้คนรุ่นลูกรุ่นหลานต้องแบกรับ

ไม่แปลกที่นโยบายแจกเงินจะมองว่าเบี่ยงเบน ไม่ได้ช่วยคนเดือดร้อนจริง ถ้าหาบเร่ แผงลอยได้อานิสงส์น้อยนิด แต่เงินก้อนโตไปอยู่ในกระเป๋ารายใหญ่