คอลัมน์สามัญสำนึก สมปอง แจ่มเกาะ
ช่วงนี้ “รัฐบาลลุงตู่” งานยุ่งอีนุงตุงนังจริง ๆ
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- ราคาทองวันนี้ (17 เม.ย. 67) ปรับ 8 ครั้ง ขึ้น 450 บาท รูปพรรณบาทละ 42,150 บาท
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
ไหนจะเรื่องไวรัสโควิด-19
ไหนจะต้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง
ไหนจะเรื่องการเมือง แก้-ไม่แก้รัฐธรรมนูญ
เฉพาะแค่ 2-3 เรื่องนี้ก็ออกอาการ งอมพระราม แล้ว
ล่าสุดยังมาเจอปัญหาเรื่องม็อบเข้าอีก ซึ่งงานนี้คงไม่จบง่าย ๆ ส่วนจะลากยาวกันแค่ไหน หรือลุกลามไปมากน้อยเพียงใดก็สุดที่จะคาดเดาเหตุการณ์ในอนาคตได้
ช่วงนี้ได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกับนักธุรกิจน้อยใหญ่หลายคนหลายท่าน ตั้งแต่ระดับเอสเอ็มอี
ไปจนถึงเจ้าของธุรกิจพันล้านคุยทั้งเรื่องเศรษฐกิจ-ปากท้อง-การเมือง-ม็อบ
ทุกคนล้วนออกอาการส่ายหน้าเอามือกุมขมับเพราะนี่ก็เหลืออีกแค่ 2 เดือนเศษ ๆ ก็จะสิ้นปีแล้ว
เวลาที่เหลืออยู่คงทำอะไรไม่ได้มาก ขอแค่ประคับประคองให้ผ่านปีนี้ไปให้ได้เท่านั้นเป็นพอ ปีหน้าฟ้าใหม่ค่อยว่ากันอีกทีหลายคนมองข้ามชอตไปปีหน้าแล้ว
หลายคนเก็บเงินสด ใส่ตู้เซฟไว้ เพราะไม่รู้วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
การกระตุ้นเศรษฐกิจและการจับจ่ายในประเทศของรัฐบาลยังเป็นการแก้ปัญหาแบบพายเรือในอ่าง วนไปวนมา
ไม่ต้องอื่นไกล โครงการ “ช้อปดีมีคืน” ที่คณะรัฐมนตรีเพิ่งเคาะและจะเริ่มตั้งแต่ 23 ตุลาคม และยิงยาวไปจนถึงสิ้นปี 31 ธันวาคม 2563 หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ โครงการช็อปช่วยชาติที่เคยทำมาแล้วถึง 5 ครั้ง ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
ที่น่าเป็นห่วงก็คือ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ-กำลังซื้อ
ปีนี้สาหัสกว่าช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมามาก
สะท้อนจากภาพของข่าวการปิดโรงงาน การเลิกจ้างงาน ฯลฯ ที่มีให้เห็นอย่างมากมายตั้งแต่ต้น ๆ ปี จนถึงทุกวันนี้ก็ยังมีเป็นระลอก ๆ
หรือแม้แต่มนุษย์เงินเดือนที่วันนี้อาจจะยังมีงานทำ
รับเงินเดือนทุกเดือน ก็ต้องกระเหม็ดกระแหม่ใช้จ่ายอย่างประหยัด เพราะเงินในกระเป๋าไม่เพิ่ม โอทีไม่มีทำ โบนัสไม่ต้องพูดถึง
จะมีคนสักกี่หยิบมือที่สนุกสนานกับการจับจ่ายเพื่อแลกกับเงินลดหย่อนภาษีที่จะได้คืนมา
หรือแม้แต่โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่รัฐบาลพยายามจะปลุกให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น
โดยรัฐยอมสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้ตั้ง 40% ที่จะสิ้นสุดโครงการในปลายเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้
แต่ด้วยจำนวนตัวเลขคนที่เข้าร่วมโครงการและคนที่มาใช้สิทธิยังห่างไกลเป้าเหลือเกิน จึงต้องขยายโครงการนี้ออกไปจนถึงสิ้นเดือนมกราคมปีหน้า
นี่คือตัวอย่างที่สะท้อนอะไรได้อย่างมากมาย
ถามใครหลายคนว่าอยากช็อปปิ้ง อยากไปเที่ยวทะเลเที่ยวภูเขามั้ย ?
ทุกคนล้วนมีความอยากเป็นพื้นฐานของปุถุชนคนธรรมดา
แต่วันนี้เงินในกระเป๋ามีจำกัด ภาระค่าใช้จ่ายมีบานเบอะ แถมอนาคตในวันข้างหน้าก็ไม่แน่นอน อะไรที่ไม่จำเป็นรอได้ก็รอไปก่อนนาทีนี้ขออิ่มท้องไว้ก่อน จะได้มีแรงต่อสู้กันต่อไป เรื่องช็อปปิ้ง เรื่องท่องเที่ยว เบรกไว้ก่อน
ส่วนบรรดาผู้ประกอบการเอสเอ็มอี แม้แบงก์ชาติจะมีซอฟต์โลนก้อนใหญ่มาช่วยบรรเทาความเดือดร้อน แต่กว่าจะกู้มาได้เลือดตากระเด็น ทั้ง ๆ ที่โปรไฟล์แจ่มแจ๋วไม่มีประวัติด่างพร้อย เข้าเกณฑ์ที่แบงก์ชาติกำหนดทุกข้อ
แต่ไปนั่งคุยกับแบงก์คนปล่อยกู้ แบงก์กลับเรียกหลักทรัพย์ค้ำประกันเพิ่มอย่างมหาโหด สู้ไม่ไหวต้องหันหลังกลับเดินออกจากประตู หรือในส่วนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตอนนี้ก็ต้องวิ่งกันตัวเป็นเกลียวผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ที่เพิ่งจบลงไป ไตรมาส 2 ว่าหนักแล้ว ไตรมาส 3 อาจจะสาหัสกว่า จะมีสักกี่รายที่จะฝ่าด่านอรหันต์นี้ไปได้
ถูลู่ถูกัง…อยู่กันต่อไปครับพี่น้อง
คงต้องทำใจ…