เกมการเมืองเดิมพันประเทศ-เศรษฐกิจ

by Jonathan KLEIN / AFP
บทบรรณาธิการ

การประชุมรัฐสภา หลังราชกิจจานุเบกษาออกประกาศพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมวิสามัญแห่งรัฐสภา พ.ศ. 2563 ตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2563 เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ทางการเมืองที่กำลังจะเริ่มขึ้นต้นสัปดาห์นี้จึงถือเป็นช่วงเวลาสำคัญและมีความหมาย เพราะไม่ใช่แค่ได้เห็นแนวโน้มว่าการเมืองจะลงเอยอย่างไร การหาทางออกในรัฐสภายุติข้อขัดแย้งได้หรือไม่ แต่เกี่ยวโยงถึงเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง

การเรียกประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญครั้งนี้ จึงเป็นที่จับตาและถูกหลายฝ่ายคาดหวังว่า จะเป็นเวทีในการอภิปราย พูดคุยเจรจาหลากหลายประเด็นที่เป็นปัญหา ช่วยให้บรรยากาศทางการเมืองผ่อนคลาย ข้อเรียกร้อง 3 ข้อของกลุ่มคณะราษฎร 2563 จะถูกหยิบยกขึ้นพิจารณา จนได้ข้อสรุปเป็นทางออกตามกระบวนการประชาธิปไตย ถ้าหากทุกฝ่ายทำตามสิทธิ หน้าที่ และเปิดกว้างรับฟังความเห็นที่แตกต่าง

แม้ในทางปฏิบัติคงไม่สามารถมุ่งหวังผลสัมฤทธิ์ได้มาก แต่อย่างน้อยการถอยคนละก้าว ทำตามกติกา เท่ากับต่างฝ่ายต่างหยุดสุมไฟ ทำให้อุณหภูมิการเมืองไทยที่กำลังร้อนระอุเย็นลงบ้าง สมาชิกรัฐสภาไม่ว่าจะเป็น ส.ส., ส.ว. จึงต้องตระหนักและเร่งเดินหน้าภารกิจที่คนทั้งประเทศรอคอยและคาดหวังส.ส.-ส.ว.ทั้งสภาเกือบ 750 คนต้องทำหน้าที่เต็มกำลังความสามารถ

สมกับที่มักประกาศกล่าวอ้างเป็นตัวแทนประชาชน ขณะที่คณะรัฐมนตรีกับพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล ควรใช้โอกาสนี้ถกหารือให้ได้ทางเลือกเป็นทางออกจากวิกฤต แสดงความจริงใจในการพิจารณาข้อเรียกร้อง ไม่ใช่ทำเพื่อพวกพ้องหรือใครคนใดคนหนึ่ง

ประเด็นใดที่เห็นว่าปรับแก้ไขแล้วจะเป็นผลดีต่อส่วนรวมและประเทศชาติ ต้องเร่งดำเนินการโดยไม่ซื้อเวลา หรือบ่ายเบี่ยง เป็นการแสวงหาจุดร่วมที่ทั้ง 2 ฝ่ายยอมรับได้ ส่วนข้อใดที่ยังเห็นต่าง หรือไม่สามารถตอบสนอง ก็ต้องชี้แจงทำความเข้าใจทั้งกับกลุ่มผู้ชุมนุม สาธารณชน โดยยึดหลักการเหตุผลเป็นที่ตั้ง

ที่สำคัญฝ่ายรัฐบาลต้องไม่พยายามเอาชนะเพราะต้องการจะรักษาอำนาจหรือสถานะ อาศัยเสียงข้างมาก โดยไม่ยอมรับฟังเสียงข้างน้อย เช่นเดียวกับพรรคฝ่ายค้านที่ต้องสร้างมิติใหม่ คัดค้านท้วงติงหรือเห็นต่างอย่างมีเหตุมีผล ไม่มุ่งแต่จะช่วงชิงความได้เปรียบในทางการเมือง และคะแนนเสียงในขณะที่สถานการณ์กำลังสุกงอมเพราะหากเป็นอย่างนั้นจะทำลายบรรยากาศประนีประนอม ทำให้ปมขัดแย้งแบ่งฝักแบ่งฝ่ายขยายวงกว้าง

การเจรจาหาทางออกร่วมกันในแนวทางสันติยิ่งเป็นไปได้ยาก สุ่มเสี่ยงที่การคิดต่างเห็นต่างจะนำไปสู่ความรุนแรง ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่ไม่พึงปรารถนา สมาชิกรัฐสภาจึงต้องทำหน้าที่อย่างสมเกียรติ ให้สาธารณชนประจักษ์ว่าสามารถเป็นที่พึ่ง หยุดเล่นเกมการเมืองโดยมีประเทศกับเศรษฐกิจไทยเป็นเดิมพัน