ถามกับเขียน

คนทำงาน
คอลัมน์ ชั้น 5 ประชาชาติ
สาโรจน์ มณีรัตน์

จริง ๆ แล้วพอทำงานผ่านไปสักระยะ จนกลายเป็นรุ่นใหญ่ในสถานที่ทำงาน มักจะมีน้อง ๆ ชอบถามอยู่เสมอว่า…เกษียณแล้วไปทำอะไร ?

วางแผนชีวิตหลังเกษียณบ้างหรือไม่ ?

จริง ๆ คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบของพวกเขา ทำให้เรารู้สึกอะไรเหมือนกัน จนต้องมานั่งคิดต่อว่า…เออ…นั่นดิจะทำอะไร ?

เพราะตลอดชีวิตตั้งแต่ทำงานมาจนถึงตอนนี้มีความสามารถอยู่ 2 อย่าง

หนึ่ง ถาม

สอง เขียน

น่าจะมีเท่านี้จริง ๆ หรือถ้าจะมีมากกว่านี้คงเป็นเรื่องของความรู้ในงาน การวิเคราะห์อย่างเป็นเหตุเป็นผล และการฟังผู้คนอย่างตั้งใจ ซึ่งผมไม่รู้ว่าสิ่งที่มีมาจากการทำงานสื่อมวลชน 30 กว่าปีจะนำไปใช้ได้กับชีวิตหลังเกษียณหรือไม่

ผมไม่รู้จริง ๆ

และไม่รู้ด้วยว่าจะนำความสามารถที่มีไปต่อยอดอะไรได้บ้าง ? นอกจากเขียนลงเฟซบุ๊ก ทำเพจ หรือสร้างบล็อกขึ้นมา แต่ก็อีกแหละใครจะอ่าน ?

เพราะเราชอบเขียนเล่าอะไรยืดยาว ทั้งเรื่องที่เล่าก็เกี่ยวกับอดีตทั้งสิ้น เราไม่ใช่ดารา ศิลปิน นักร้อง ใครเล่าจะติดตาม ปรากฏว่าหลายคนเห็นด้วย และหลายคนไม่เห็นด้วย พวกฝ่ายที่เห็นด้วยบอกว่าพี่เขียนอะไรตั้งเยอะแยะ ทั้งในคอลัมน์ต่าง ๆ พ็อกเกตบุ๊กอีก และนิตยสารอีกหลายฉบับ

ลองเอาสิ่งที่เคยเขียนมาทำการคัดเลือกเสียหน่อย จากนั้นจึงนำลงตามบล็อกที่สร้างขึ้น เพื่อให้คนติดตาม ผม, หนู, เรา, ดิฉันเชื่อว่าข้อเขียนของพี่มีคนติดตามอย่างแน่นอน

สำหรับพวกที่ไม่เห็นด้วยบอกว่า…พี่ก็ใช้ประสบการณ์ของพี่รับจ้างเขียนประวัติให้กับนักธุรกิจสิ เพราะเดี๋ยวนี้มีหลายคนอยากมีประวัติชีวิตตระกูลของตัวเอง เพื่อเขาจะได้แจกจ่ายให้รุ่นลูกรุ่นหลาน หรือไม่ก็ใช้แจกในงานพระราชทานเพลิง หรืองานศพ ตอนนี้มีกลุ่มคนสนใจด้านนี้เยอะขึ้น พี่ลองดู

ผมฟังแล้วก็คิดว่าสิ่งที่พวกเขาแนะนำล้วนเป็นเรื่องดีทั้งสิ้น เพราะอยู่ใน 2 เรื่องที่ผมถนัดคือถามกับเขียน แต่ก็อีกแหละ ทุกอย่างยังลอยอยู่ในสายลม ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ทั้ง ๆ ที่น้อง ๆ เหล่านั้นแนะนำว่าก็ลองทำในช่วงที่ใกล้เกษียณนี่แหละดี

เสมือนเป็นการปูทางไปในตัว

ผมฟังแล้ว แนวทางที่น่าจะเป็นไปได้ก่อนคือทำบล็อกขึ้นมาเพื่อให้คนติดตามอ่านในเรื่องที่เขาสนใจ แต่อีกแหละผมเองไม่มีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสักเท่าไหร่ ถ้าจะทำจริง คงต้องหาน้อง ๆ มาช่วย ซึ่งผมมองว่าเป็นเรื่องท้าทายอยู่เหมือนกัน

ไม่ว่าจะรุ่ง หรือร่วง

แต่อย่างน้อยก็ได้ทำ และเป็นคำตอบให้กับคนที่ชอบถามว่า…เมื่อเกษียณแล้วจะทำอะไร ?

ส่วนเรื่องเขียนประวัติชีวิตคน จริง ๆ แล้วในอดีตผมเคยทำมาบ้าง แต่มีข้อเสียอยู่นิดหนึ่งคืองานต้องใช้เวลา ทั้งจากการสัมภาษณ์ ถอดเทป เขียน ยิ่งถ้าคนที่เราสัมภาษณ์เป็นนักธุรกิจชั้นนำ เขาจะมีเวลาให้เราค่อนข้างน้อย

หรือบางทีถ้าเขามีเวลาจริง ก็ต้องสัมภาษณ์กันเป็นวัน ๆ ซึ่งผมคิดว่า…เราใช้เวลามากเกินไป

เนื่องจากสมองของคนเรามีความสนใจฟังเรื่องราวต่าง ๆ ประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น ถ้าเกินจากนั้น ผมรู้สึกว่ารับไม่ไหว แทบไม่อยากถาม และไม่อยากจดจำในสิ่งที่เขาเล่ามา ก็เลยทำให้ไม่สนุก และไม่อยากทำ

สำคัญไปกว่านั้นเมื่อเขียนเสร็จมีการแก้ไขเยอะมาก

ตัวเขาเองไม่เท่าไหร่

แต่เลขานุการ

ลูกหลานค่อนข้างเรื่องเยอะ อยากเอาตรงโน้นออก เพิ่มตรงนี้หน่อย ที่สุดผมจึงไม่ค่อยอยากรับงานประเภทนี้ เพราะกว่าจะได้เงินเหนื่อยมาก

ไม่สนุกเลย แถมเงินก็ไม่ได้เยอะแยะเท่าไหร่ เลยไม่ค่อยอยากทำ

แต่กระนั้น ผมก็ไม่ตัดหนทางไปเสียทีเดียว พยายามคิดอยู่หมือนกันว่าเราจะไปหาคอนแท็กต์นี้จากที่ไหนได้บ้าง จึงนับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ สำหรับอนาคตในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ เพราะในกลุ่มเพื่อนพี่น้องที่ผมคบกันอยู่ 4-5 คนในทุกวันนี้ ต่างทยอยเกษียณกันไปทีละคน

คนแรกตอนนี้เที่ยวกับครอบครัวอย่างเดียว

คนที่สองจะเกษียณในปีหน้า เขาวางแผนว่าคงกลับบ้านต่างจังหวัดไปใช้ชีวิตเงียบ ๆ อยู่ที่นั่น ส่วนคนที่สามจะเกษียณในปี 2565 ก็วางแผนว่าจะไปอยู่กับลูก ๆ ในต่างประเทศ เพราะครอบครัวของเขาไปบุกเบิกธุรกิจล่วงหน้าก่อนแล้ว

คนที่สี่จะเกษียณในปี 2566 ก็วางแผนว่าจะทำธุรกิจอะไรเล็ก ๆ ที่บ้านต่างจังหวัด

ส่วนผมเป็นคนที่ห้าจะเกษียณในปี 2567 ก็อย่างที่บอกกล่าวกันมา เพราะนอกจากจะมีทางเลือกดังที่เล่าให้ฟังแล้ว ผมมีความต้องการที่จะขึ้นเหนือล่องใต้เพื่อไปในสถานที่ที่อยากไป ผมว่าบ้านเรามีสถานที่น่าเที่ยวมากมาย

สมัยก่อนไปเพียงหนึ่งถึงสองวันก็กลับแล้ว จึงพอเห็นความงามของสถานที่เหล่านั้นบ้าง แต่ถ้าไปอีกครั้งตอนหลังเกษียณ ผมกะว่าจะเก็บรายละเอียดให้หมด จะเลือกใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ หาอากาศดี ๆ อาหารดีราคาถูก ห้องพักไม่แพง ก็น่าจะทำให้เราใช้ชีวิตหลังเกษียณมีความสุขขึ้น

คิด ๆ แล้วก็น่าสนุก และน่าจะทำให้มีความสุขนะครับ

แต่ในความเป็นจริงจะทำได้สักเรื่องหนึ่งหรือเปล่าไม่ทราบ

ถึงวันนั้นค่อยว่ากันอีกที ?