จับตามูลค่า ‘บิตคอยน์’ พุ่ง สวนกระแสเศรษฐกิจโลก

ชีพจรเศรษฐกิจโลก
ไพรัตน์ พงศ์พานิชย์

ความเคลื่อนไหวของมูลค่า “บิตคอยน์” สกุลเงินดิจิทัลสำคัญของโลก เรียกความสนใจของนักลงทุนและนักวิชาการด้านนี้มาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ต่อเนื่องมาจนถึงต้นปี 2021

เพราะมูลค่าของบิตคอยน์ที่พุ่งขึ้นไปถึง 20,000 ดอลลาร์ต่อบิตคอยน์ เมื่อตอนปลายปีที่ผ่านมา พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องทะลุ 33,000 ดอลลาร์ต่อบิตคอยน์ ก่อนที่จะลดลงเล็กน้อยอยู่ในขณะนี้ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่ได้ต่อเนื่องและน่าทึ่งอย่างมาก เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับมูลค่าเมื่อต้นปี 2020

เดือนมีนาคมปีที่แล้ว ขณะที่โควิด-19 เริ่มการแพร่ระบาดขนานใหญ่ในซีกโลกตะวันตก บิตคอยน์ปั่นป่วนอย่างหนัก มูลค่าของเงินดิจิทัลสกุลนี้ลดฮวบลงถึงราว 50% ในระยะเวลาเพียง 2 วัน มูลค่าลดลงต่ำกว่า 4,000 ดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นภาวะผันผวนในตลาดเงินและตลาดทุนในเวลานั้นได้เป็นอย่างดี

พอถึงสิ้นปี คริปโตเคอเรนซี อย่างบิตคอยน์ยังสามารถส่งท้ายปีด้วยมูลค่าที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 300% ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกของปี 2021 มูลค่าบิตคอยน์เพิ่มขึ้นต่อเนื่องอีก 10.62% ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมพุ่งพรวดเป็น 605,000 ล้านดอลลาร์

ผลก็คือ นักลงทุนหลายคนเริ่มหันมาจับตามองตลาดเงินดิจิทัลกันตาเป็นมัน

นักวิเคราะห์มองว่า สถานการณ์ของบิตคอยน์ หรือคริปโตเคอเรนซีโดยรวม ได้รับประโยชน์จากการที่เริ่มมีหน่วยงานที่มีตัวตน เป็นที่ยอมรับเข้ามาทำหน้าที่กำกับดูแลมูลค่าและประเมินความเสี่ยงของคริปโตเคอเรนซีกันมากขึ้น อาทิ “ฟิโก คริปโตเคอเรนซี” ที่เป็นโซลูชั่นเพื่อประเมินความเสี่ยงสำหรับบรรดาธนาคารต่าง ๆ พร้อมกันนั้นก็เริ่มมีหน่วยลงทุนสถาบันเข้ามาลงทุนและให้การสนับสนุนเพิ่มมากขึ้น

เมื่อเดือน พ.ย. กองทุน “กุกเกนไฮม์ มาโคร ออพโพจูนิตี ฟันด์” บริษัทการลงทุนยักษ์ใหญ่ระดับ 2 แสนล้านดอลลาร์ ออกแถลงการณ์ว่า กำลังมองหาช่องทางลงทุนในบิตคอยน์มากถึง 10% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของบริษัท

“เพย์พาล” ที่รู้จักกันดี ก็ช่วยให้สถานะของบิตคอยน์ และคริปโตเคอเรนซีอื่น ๆ มั่นคงขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ด้วยการประกาศยอมรับเงินสกุลดิจิทัลในการชำระเงินออนไลน์ ซึ่งเท่ากับเป็นการเปิดทางให้ผู้ใช้บริการของเพย์พาล สามารถซื้อ, ขาย และถือเงินคริบโตเคอเรนซีไว้ในมือได้นั่นเอง

นอกจากนั้นยังมีนักลงทุนทรงอิทธิพลอื่น ๆ อย่างเช่น “ริค ไรเดอร์” กรรมการผู้จัดการและประธานคณะเจ้าหน้าที่ลงทุนของแบล็กร็อก บริษัทบริหารสินทรัพย์ใหญ่ที่สุดของโลก ที่แวดวงนักลงทุนทั่วโลกรู้จักกันดีในฐานะ “ขาใหญ่” ของวงการ ก็ออกมาแสดงความชื่นชมต่อบิตคอยน์ว่า มีศักยภาพเพียงพอในการทดแทน “ทองคำ” ได้ และแสดงความมั่นใจว่า บิตคอยน์จะมีความมั่นคงอยู่ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ก็อดมีผู้ตั้งข้อสังเกตไม่ได้ว่า ถึงแม้จะแสดงความชื่นชมออกมาเช่นนั้น แต่จนกระทั่งถึง พ.ย.ที่ผ่านมา ไรเดอร์ก็ยังไม่ได้เพิ่มบิตคอยน์เข้าไว้ในพอร์ตลงทุนของตนเองแต่อย่างใด

นักสังเกตการณ์บางคนบอกว่า แม้มูลค่าของบิตคอยน์พุ่งพรวดพราดให้เห็นแบบนี้ สถานการณ์แวดล้อมก็ยังไม่เหมาะกับการลงทุนในบิตคอยน์ หรือคริปโตเคอเรนซีทั้งหลาย โดยเฉพาะภายใต้วิกฤตโควิดที่เงินลงทุนมีค่ายิ่งเช่นในเวลานี้

เหตุผลสำคัญก็คือ คริปโตเคอเรนซี ขึ้นชื่อในแง่ของการ “เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว” โดยเฉพาะในช่วงหลายปีมานี้ยิ่งเห็นได้ชัดว่า ยิ่งตื่นเต้นมากแค่ไหนก็ยิ่งผิดหวังได้มากเท่านั้น

ตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือเมื่อปี 2017 ซึ่งเป็นครั้งหลังสุดที่มูลค่าบิตคอยน์เคยทะยานขึ้นไปอยู่ใกล้ ๆ กับ 20,000 ดอลลาร์ แต่ในปีถัดมา มูลค่าของบิตคอยน์ก็ทรุดฮวบลงมากถึงกว่า 80% เลยทีเดียว

แม้ว่าในเวลานี้ บรรดาผู้สันทัดกรณีเกี่ยวกับบิตคอยน์ก็ยังแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเชื่อว่าบิตคอยน์จะมีมูลค่าสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไปอีก แต่อีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งรวมทั้ง “โคลด เอิร์บ” อดีตผู้จัดการพอร์ตลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์ของทีดับเบิลยูซี ที่เชื่อว่ามูลค่าของบิตคอยน์ในเวลานี้สูงเกินจริง


เอิร์บเชื่อว่า มูลค่าที่ 33,000 ดอลลาร์ต่อบิตคอยน์ นั้นอาจเกินจริงมากกว่า 50% ด้วยซ้ำ มูลค่าที่แท้จริงของบิตคอยน์ในเวลานี้ควรจะอยู่ที่ราว ๆ 12,000 ดอลลาร์ เท่านั้น