ฟื้นฟูการบินไทยต้องถอยคนละก้าว

แฟ้มภาพ
บทบรรณาธิการ

เกือบหนึ่งปีหลังศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ บมจ.การบินไทย ตั้งแต่ 27 พ.ค. 2563 วันที่ 19 พ.ค.นี้ จะมีการประชุมเจ้าหนี้เพื่อให้ความเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ.การบินไทย ที่ถูกเลื่อนพิจารณาจากสัปดาห์ก่อนมาเป็นสัปดาห์นี้ ถือเป็นนัดชี้ชะตาว่าจะได้เริ่มต้นนับหนึ่งฟื้นฟูกิจการ หรือการโหวตแผนยังยืดเยื้อ

แม้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า การประชุมเจ้าหนี้ในวันดังกล่าวที่ประชุมน่าจะโหวตเห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการ หลังมีการปรับแก้ไขความต้องการของเจ้าหนี้หลายประเด็น อย่างการเพิ่มอำนาจให้มีสิทธิถอดถอนผู้บริหารแผน ส่งตัวแทนร่วมเป็นผู้บริหารแผน แต่หลายเรืื่องยังมีตัวแปรก่อให้เกิดความไม่แน่นอน

ขณะที่ข้อเรียกร้องที่ต้องการให้ บมจ.การบินไทย คืนกลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจ กับการให้รัฐใส่เงินเพิ่ม ค้ำประกันเงินกู้ ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ยืนยันว่า ยังจะไม่สนับสนุนด้านการเงินจนกว่าที่ประชุมเจ้าหนี้จะไฟเขียวแผนฟื้นฟู และการบินไทยเดินหน้าฟื้นฟูกิจการได้ตามแผน

เป็นธรรมดาที่การฟื้นฟูกิจการองค์กรขนาดใหญ่ หนี้สินล้นพ้นตัวกว่า 4 แสนล้านบาทไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ในเชิงธุรกิจโอกาสที่รายได้จะพลิกกลับมาหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ภาคการท่องเที่ยวฟื้นมีความเป็นไปได้ แต่เจ้าหนี้กลุ่มที่ต้องใส่เงินเพิ่ม รวมทั้งภาครัฐในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ย่อมต้องคิดหนัก และต้องการหลักประกันความมั่นใจ

หลักใหญ่คือให้แผนฟื้นฟูกิจการผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมเจ้าหนี้ และศาลมีคำสั่งเห็นชอบ เพราะจะมีผลผูกพันตามกฎหมายทุกฝ่าย ขณะที่ผู้บริหารแผนก็ต้องดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ ให้ธุรกิจเดินหน้าต่อ มีรายได้เพียงพอชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ขณะเดียวกันก็ไม่ทำให้ส่วนรวมและประเทศชาติเสียหาย

อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าการฟื้นฟูกิจการจะสำเร็จหรือล้มเหลว นอกจากแผนฟื้นฟูกิจการต้องชัดเจนและเป็นไปได้ในทางธุรกิจแล้ว ลูกหนี้ เจ้าหนี้ต้องถอยคนละก้าว ยอมเฉือนเนื้อเพื่อรักษาชีวิต และร่วมมือกันให้การทำธุรกิจของ บมจ.การบินไทย สามารถดำเนินไปตามแผน

ที่สำคัญต้องป้องกันไม่ให้การเมือง กลุ่มผลประโยชน์เข้ามาแทรกแซง เป็นตัวแปรทำให้กระบวนการฟื้นฟูกิจการ การปรับโครงสร้างองค์กร การหารายได้ รวมทั้งการเคลียร์หนี้กว่า 4 แสนล้านบาทสะดุด มีปัญหาซ้ำ วันประชุมเจ้าหนี้การบินไทยเพื่อโหวตให้ความเห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการนัดที่สอง 19 พ.ค.นี้

จึงเป็นอีกวาระหนึ่งที่สาธารณชนต้องจับตามอง เพราะเป็นวันชี้ชะตาว่าสายการบินแห่งชาติจะไปทิศทางไหน จะรอดพ้นวิกฤตหรือยิ่งสุ่มเสี่ยง