“รีโอเพ่น” เศรษฐกิจ หยุด…วัคซีนการเมือง

vaccine
Photo by REUTERS
คอลัมน์ สามัญสำนึก
พัฒนพันธุ์ วงษ์พันธุ์

“วัคซีนการเมือง” ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดการเลื่อนฉีดออกไปในหลายพื้นที่ สร้างทั้งความสับสน และความผิดหวังให้กับคนที่มีนัดหมายล่วงหน้า

ตอกย้ำถึงความวิตกกังวล ไทม์ไลน์วัคซีนทั้ง 100 ล้านโดส ที่นายกรัฐมนตรีประกาศเป็นวาระแห่งชาติ สุดท้ายจะเป็นไปตามกำหนดเวลาหรือไม่

จะว่าไปแล้ว สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทยมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แม้การแพร่ระบาดในโรงงาน ในแคมป์ก่อสร้างจะยังน่ากลัว แต่เมื่อดูจากค่าเฉลี่ย 7 วันย้อนหลังพบว่า ตัวเลขผู้ป่วยลดลง 13% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า หลังจากมีการปูพรมฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตอบรับกับ “ศักยภาพ” การฉีดวัคซีนที่เกิดขึ้นของไทย วันที่พีกสุด (8 มิ.ย. 2564) ทำได้ถึง 4.7 แสนโดส และมีแนวโน้มทำได้มากกว่านี้อย่างไม่ยากเย็น มีข้อแม้เพียง “ถ้า…ไม่มีปัญหาเรื่องวัคซีนการเมืองเข้ามากวนใจ”

บรรดานักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯของไทยมองถึงภาพการ “รีโอเพ่น” ที่ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ คล้ายกับที่เกิดขึ้นกับอิสราเอล สหรัฐอเมริกา รวมถึงประเทศต่าง ๆ ในยุโรป

จริงอยู่ ถึงแม้ประเทศเหล่านี้จะ “รีโอเพ่น” ไปแล้ว แต่ต้องระมัดระวังกันอย่างเต็มที่ ยกตัวอย่าง อังกฤษ ที่จู่ ๆ สายพันธุ์เดลต้าที่มีจุดกำเนิดจากประเทศอินเดีย ทำให้ผู้ป่วยเพิ่มจำนวนขึ้นอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่มีเปอร์เซ็นต์การฉีดโดสแรกขึ้นไปถึง 62%

ชี้ให้เห็นว่าถึงอย่างไร เราก็ยังต้องอยู่กับ “โควิด” กันไปแบบนี้

บ้านเราแม้กระแส “รีโอเพ่น” จะยังไม่ปรากฏภาพให้เห็นชัดเจน แต่รับรู้ในแวดวงธุรกิจว่านี่คือเดิมพันสำคัญอะไรที่เตรียมไว้ได้ล่วงหน้าก็ต้องทำ โดยเฉพาะเรื่องของวัคซีน ช่องทางไหนที่เปิดโอกาส ต้องส่งพนักงานไปเข้าคิวฉีด เพื่อเตรียมความพร้อม

ค่ายรีเทลยักษ์ยอมรับว่า มีนโยบายให้พนักงานส่วนที่ต้องให้บริการลูกค้าโดยตรงหาวิธีฉีดวัคซีนให้ทั่วถึงที่สุด เท่าที่จะทำได้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า รวมถึงตัวพนักงานเอง

หลังจากโดนโควิดถล่มตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว จากนั้นระลอกที่ 2 ในช่วงปลายปี และรอบล่าสุดตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา ซึ่งหนักหนาที่สุด

บริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ส่งสัญญาณถึงบรรดาทีมงานให้เตรียมความพร้อม เพราะงานที่ทำต้องสัมผัสกับผู้คนจำนวนมาก ไม่ต่างจากเชนโรงแรมใหญ่ ๆ ที่แทบเป็นนโยบายภายในไปแล้วว่า พนักงานทุกคนต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้

นอกเหนือจากเรื่องการฉีดวัคซีนให้กับพนักงานอย่างทั่วถึง บรรดาทีมงานด้านการตลาดขะมักเขม้น เตรียมสารพัดแคมเปญเพื่อรับกับบรรยากาศการเปิดเมือง

ที่กังวลกันก็คือ ไทมิ่งที่เหมาะสม

“ไม่จำเป็นต้องเป็นคนแรกที่โดดลงมา แต่ต้องพร้อมตลอดเวลา เมื่อคนออกมาใช้จ่าย เพราะถ้าเร็วไป กระแสอาจตีกลับ หรือถูกทัวร์ลงได้ง่าย ๆ กลายเป็นเราไม่รู้จักเวลา คิดแต่เรื่องขายของ”

แน่นอนทุกคนอยากให้ธุรกิจการค้ากลับมาให้เร็วที่สุด เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้า อยากเห็นผู้คนออกมาใช้ชีวิตตามปกติ ร้านรวงเปิดให้บริการ เปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว แต่ไม่มีใครที่สามารถคาดเดาอนาคตล่วงหน้า ดูง่าย ๆ โควิดรอบนี้ ทุกคนคิดว่าเดี๋ยวก็จะผ่านไป เหมือน 2 ครั้งก่อนหน้า แต่กลายเป็นรอบที่โดนหนักที่สุด

ในโลกความเป็นจริง ในขณะที่กลุ่มหนึ่งกำลังเตรียม “รีโอเพ่น” อีกกลุ่มใหญ่ ๆ โดยเฉพาะเอสเอ็มอี อยู่ในภาวะที่ไปต่อไม่ไหว ยอมล่าถอยยกธงขาว กลุ่มนี้ไม่ได้มีน้อย ๆ

ฝากถึงบรรดานักการเมือง อยากเล่นการเมือง อยากเอาชนะคะคาน ก็ว่ากันไปในสนามเลือกตั้ง ในเวทีการเมือง อย่าเอา “วัคซีน” มาพันกับเรื่อง “การเมือง”

เพื่อจะได้ “รีโอเพ่น” กันจริง ๆ สักที