บทบรรณาธิการ
กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมากระเตื้อง ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้านอาหาร ฯลฯ คึกคักขึ้น หลังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ให้หลายกิจการเปิดให้บริการได้ตามปกติภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด รวมทั้งคลายล็อกการเดินทางข้ามจังหวัดโดยเฉพาะในโซนสีแดงเข้มพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด
เป็นการปรับมาตรการตามข้อเรียกร้องและความต้องการของภาคธุรกิจก็จริง แต่สิ่งที่ได้รับการสนองตอบโดยรัฐบาลผ่อนกฎกติกาให้มากกว่าที่คาดหวัง ทั้งยังให้มีผลในทางปฏิบัติทันทีตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2564
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
แม้แต่ภาคเอกชนก็แปลกใจและค่อนข้างเซอร์ไพรส์ ขณะเดียวกันการรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดย ศบค.ที่ยอดผู้ติดเชื้อปรับลดลงต่อเนื่อง แม้เป็นเรื่องน่ายินดีแต่ไม่วายถูกตั้งข้อสงสัย
ถ้าหากการแพร่ระบาดของโควิดคลี่คลาย สถานการณ์ในภาพรวมมีแนวโน้มดีขึ้น การลดลงของผู้ป่วย ผู้เสียชีวิต ไม่ได้ถูกปรับลด หรือกดซ่อนตัวเลข
ด้วยเหตุผลทางการเมืองที่ตรงกับช่วงเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสภาเหมือนที่ถูกตั้งข้อสังเกต ต้องถือเป็นข่าวดี เป็นเรื่องที่คนไทยทั้งประเทศตั้งตารอ
เพราะแม้การสู้ศึกโควิดยังอีกยาวไกล หรือคนทั้งโลกอาจต้องอยู่กับโควิดไปตลอด แต่ถ้าสถานการณ์ดีขึ้น การใช้ชีวิต การทำงาน การดำเนินธุรกิจกลับมาเป็นปกติเร็วเท่าใด ภาคธุรกิจ เศรษฐกิจจะฟื้นได้เร็วเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ภาครัฐต้องให้ความสำคัญในการสร้างสมดุลระหว่างการแก้วิกฤตเศรษฐกิจกับการป้องกันความเสี่ยงด้านสุขภาพ การผ่อนคลายล็อกจึงต้องควบคู่กับการเร่งฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ทั่วโลกกำลังจับตาโควิดสายพันธุ์ “มิว” (Mu) ที่พบครั้งแรกในโคลัมเบียเมื่อเดือน ม.ค. 2564 ก่อนแพร่ระบาดในอเมริกาใต้หลายประเทศ รวมทั้งยุโรป
และล่าสุดพบในญี่ปุ่น และองค์การอนามัยโลก (WHO) ชี้ว่า เป็นโควิดกลายพันธุ์ที่ต้านทานวัคซีนได้ดี ขณะที่ภาคธุรกิจต่างหวั่นเกรงจะเกิดการระบาดระลอก 5 หลังรัฐผ่อนมาตรการเข้ม
การคลายล็อก เปิดให้ธุรกิจหลายสาขากลับมาให้บริการตามปกติ เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ กิจกรรมทางสังคม การพบปะของผู้คน การรักษาระยะห่าง และตั้งการ์ดสูงยังจำเป็น หน่วยงานองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ภาคประชาชน จึงต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามกฎ
เหนือสิ่งอื่นใดต้องไม่ฝ่าฝืน เพราะเห็นแก่ได้ หรือความสะดวกสบายเฉพาะหน้า แต่ต้องตระหนักว่า ถ้าผ่อนคลายล็อกแล้วการ์ดตก วัคซีนไม่มา จะยิ่งเปิดจุดเสี่ยงให้โควิดกลับมาระบาดระลอก 5 กับโควิดสายพันธุ์มิวเข้ามาแพร่ระบาดในประเทศ