“คลายล็อก-เปิดเมือง” จุดเปลี่ยนประเทศ

Photo by Lillian SUWANRUMPHA / AFP
บทบรรณาธิการ

กว่า 1 ปีที่ดำเนินมาตรการเข้มควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 แม้วิกฤตเริ่มคลี่คลาย ความจำเป็นในการปรับระดับมาตรการให้เศรษฐกิจกลับมาขับเคลื่อนมีมากขึ้น แต่ยังต้องตั้งการ์ดสูง ล่าสุดศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (2019) หรือโควิด-19 (ศบค.) เตรียมผ่อนคลายมาตรการเฟส 2 อีกระลอก วันที่ 1 ต.ค.นี้

ให้ 9 กิจการเปิดดำเนินการได้ภายใต้เงื่อนไข อาทิ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และวัยก่อนเรียน ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ แหล่งประวัติศาสตร์ โบราณสถาน ศูนย์วิทยาศาสตร์ฯ ศูนย์การเรียนรู้ หอศิลป์ กีฬาในร่ม ฟิตเนส ร้านทำเล็บ ร้านสัก นวดและสปาเพื่อสุขภาพ

โรงภาพยนตร์ การเล่นดนตรีในร้านอาหาร ฯลฯ และลดเคอร์ฟิวจากเดิม 21.00-04.00 น. เป็น 22.00-04.00 น.ต่อ 15 วัน พร้อมขยายการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 2 เดือน ถึง 30 พ.ย. 2564

ขณะที่การเปิดประเทศตามไทม์ไลน์ 120 วัน ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ประกาศซึ่งจะถึงกำหนด 15 ต.ค. แต่ศบค.มีมติคิกออฟเปิดเมือง 10 จังหวัด อาทิ กทม. ชลบุรี (พัทยา อ.บางละมุง อ.สัตหีบ) เชียงใหม่ (อ.เมือง อ.แม่ริม อ.แม่แตง อ.ดอยเต่า) ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน) เพชรบุรี (ชะอำ) ฯลฯ กับพื้นที่อื่นที่มีความพร้อมอีกหลายพื้นที่ 1-30 พ.ย.นี้

หากทุกอย่างเป็นไปตามไทม์ไลน์ เท่ากับนับถอยหลังปรับโหมดสู่การใช้ชีวิตวิถีใหม่ (new normal) เต็มรูปแบบ ประเทศไทยมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ ทุกภาคส่วนต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้สามารถอยู่ร่วมกับโควิดได้อย่างปลอดภัย ภายใต้แผนควบคุมโรคแนวใหม่ Smart Control and Living with COVID-19

เป็นการ “คลายล็อก-เปิดเมือง” เพราะความจำเป็นด้านเศรษฐกิจบีบบังคับ เหมือนกับที่หลายประเทศใช้เป็นทางเลือก แต่ต้องตระหนักว่าโอกาสจะมาพร้อมกับความเสี่ยงติดเชื้อ แพร่เชื้อ การตอกย้ำกฎเหล็ก 10 ข้อ โดยเฉพาะการยกระดับมาตรการป้องกันส่วนบุคคล เป็นการป้องกันแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention for COVID-19) การเร่งฉีดวัคซีน 70% ของจำนวนประชากรทั้งหมด ฯลฯ ยังจำเป็นอย่างยิ่ง

ความปกติใหม่จึงท้าทายตั้งแต่ระดับบุคคล องค์กร จนถึงระดับชาติ หากปรับตัวให้สอดรับกับวิถีที่เปลี่ยนไปได้เร็วเท่าใด จะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้เร็วเท่านั้น จากเสียงชื่นชมยินดีในฐานะประเทศที่รับมือโควิดได้ดีลำดับต้น ๆ ของโลก

แต่บริหารจัดการผิดพลาด วัคซีนผิดแผน ผู้ติดเชื้อ เสียชีวิตพุ่งขึ้นอันดับต้น ๆ แทน ถึงตอนนี้รัฐบาลอย่าพลาดซ้ำ ต้องนำพาทั้งองคาพยพไปข้างหน้า อย่าให้ช่วงเวลาแห่งการปรับเปลี่ยนฉุดประเทศถอยหลัง