โควิดแจ้งเกิดกรุงไทย

กรุงไทย
สามัญสำนึก
สมถวิล ลีลาสุวัฒน์

จากความเชื่อและประสบการณ์กำลังถูกล้มล้างด้วยโควิด-19 เข้าอย่างจัง เพราะเคยเชื่อว่า “แบงก์กรุงไทย ”ใหญ่และเชยมาก

ทั้งเป็นนักช่วยเหลือด้านการเงินทุกรูขุมขน โดยเฉพาะรากหญ้า รากอ่อน ฐานราก แล้วแต่จะเรียก

เนื่องจากเป็นสถาบันการเงิน เป็นเครื่องมือของรัฐบาล ใครขาดเหลือก็ไม่พ้น 3 แบงก์รัฐ กรุงไทย-ออมสิน-ธ.ก.ส.

มาวันนี้ แบงก์สีฟ้าได้เปลี่ยนแล้ว เปลี่ยนจาก “หลังบ้าน” แบบชัดเจน ด้วยระบบ IT อันเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงแน่นกับข้อมูล หรือ data structure

ทำให้หลายคนคุ้นเคยกับบริการใหม่ ๆ ทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ, แอปถุงเงิน, แอปเป๋าตัง, โครงการคนละครึ่ง, เราเที่ยวด้วยกัน, เราไม่ทิ้งกัน, ชิมช้อปใช้ และแอปไทยชนะ

ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นโดยธนาคารกับรัฐ ทำให้รากหญ้าทันสมัยขึ้น ทว่า เบื้องหลังความสำเร็จนี้ มาจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีแพสชั่นด้านดิจิทัลเข้าสายเลือดทุ่มพัฒนาโครงการจนสำเร็จเปรี้ยงมาเป็นนวัตกรรมบ้าน ๆ ที่เข้าถึงข้อมูลประชากรได้มากที่สุด ทั้งแปรวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ทันจังหวะและเร็วขึ้น

ระบบหลังบ้านของ KT กรุงไทย ถูกวางเป็นมาสเตอร์แพลนยิ่งใหญ่ไว้แล้ว พอดีเกิดโควิด จึงกลายเป็นตัวผลักดันให้งานใหญ่ที่ซับซ้อนถูกเร่งเข้าสู่โลกใบใหม่ที่ไล่ล่ามาเป็นดิจิทัลเร็วขึ้น

การเปลี่ยนแปลงได้ผลักดันให้ “บริการ” ทุกอย่างของกรุงไทยดู “ไร้ขีดจำกัด”

วันก่อนน้องผู้หญิงข้างบ้านอายุ 30 ปีกว่า ๆ เธอเป็นแม่ค้ารุ่นใหม่ ขายของออนไลน์แบบตามใจฉัน คงมีเงินเก็บบ้างแล้ว มาถามว่า จะซื้อหุ้นกู้ พันธบัตร ผ่านแอปเป๋าตัง ดีมั้ย

ก็ตอบไปว่า ถ้ามีเงิน และมั่นใจก็ซื้อไปเถอะ ถ้าถูกโกงก็ให้ไปทวงกับพลเอกประยุทธ์ รัฐเขาค้ำประกัน

ซึ่งส่วนตัวก็ยินดีกับรัฐบาลและแบงก์กรุงไทยด้วยที่ทำสำเร็จ ทำให้ชาวบ้านเข้าถึงช่องทางการซื้อของยากให้เป็นของง่าย

ตอนนี้ธุรกรรมด้านอื่นก็เริ่มง่าย สะดวก อย่างการลงทะเบียน การยืนยันตัวตน เป็นการลดภาระทุกอย่างโดยสิ้นเชิง ประหยัดทั้งเวลา การเดินทาง และกระดาษเอกสาร

เพียงชีวิตนี้ขอแค่มีมือถือสมาร์ทโฟนดี ๆ หน่อย กับบัตรประชาชน บัตรเครดิต 1-2 ใบ กับใบหน้าที่ไม่ศัลยกรรมจนเปลี่ยนเป็นคนละคน รหัสลับประจำตัว เราก็สามารถใช้ชีวิต ซื้อขาย ชำระเงิน ในโลกออนไลน์ได้อย่างเต็ม ๆ แล้ว

แถมของใช้ ของกิน ส่งถึงหน้าบ้าน สะดวกไปหมด

โลจิสติกส์ถึงเติบโตระเบิด เห็นกลุ่มผู้ชายคนตกงานในซอยบ้านหันไปขับแกร็บ ไลน์แมน แฟลช ส่งอาหาร ส่งพัสดุกันเยอะมาก ข่าวว่ารายได้ดี ตกวันละพัน ถ้าขยัน

ส่วนใต้ถุนแฟลตในชุมชนซอยด้านในฝั่งถนนตากสิน ที่เคยเป็นพื้นโล่ง ที่ทิ้งขยะ ไม่มีใครอยากเดินผ่าน วันนี้กลายเป็นศูนย์ขนส่งเคอรี่ไปแล้ว แม่ค้า ร้านชำขายของได้ดีขึ้น เพราะมีพนักงานเข้า-ออกนับร้อย

นี่คือสภาพที่แปรเปลี่ยน สิ่งหนึ่งไป สิ่งใหม่มา

สถาบันการเงินถึงต้องเปลี่ยน ไทยพาณิชย์ก็เช่นกัน ต้องสร้างยานแม่ และเรือเร็ว คอยเก็บเกี่ยว “ตลาดใหม่” ให้เป็นโอกาส เหมือนแบงก์กรุงไทยกำลังเร่งตัวเอง

ว่าแต่ความเชยของ “หน้าบ้าน” กรุงไทยยังคงอยู่ แต่ไม่เป็นสาระมากนัก เพราะคนเปลี่ยนไปมาได้ แต่ระบบต้องเนี้ยบ เป๊ะ และโปร่งใส

อีกเรื่องความเชื่อ เคยเชื่อว่า บ้านจัดสรร คอนโดฯ อสังหาฯรายใหญ่ที่สะสมความแก่ จนเชย และขายแพงกว่าชาวบ้าน ไม่น่าจะขายได้ แต่เวลาผันผ่าน ทุกอย่างกลับพิสูจน์ว่า “ยิ่งแก่ยิ่งแพง” มีจริง เหมือนขิง “ยิ่งแก่ ยิ่งเผ็ด” ดีมานด์กลับเยอะ แถมทำยอดขาย กำไรได้ดี

สวนทางความเชื่อเราแต่เดิม เพราะเขาสร้างเนี้ยบ คือดีตั้งแต่ใต้ดิน จนถึงสิ่งที่มองไม่เห็น นั่นคือ ความน่าเชื่อถือ

ที่ยกตัวอย่างนี้ขึ้นมา เพราะมีที่มาที่ไป มีรุ่นน้องนักข่าวที่ผันตัวเองไปทำธุรกิจส่วนตัวแล้วรวยระเบิด


อยากซื้อบ้านใหม่หลังโต เลยเลือกแบรนด์ยักษ์ระดับเจ้าสัว แต่ที่สุดก็ขอคืน แล้วเปลี่ยนใจไปซื้อบ้านแบรนด์ใหญ่ทำเลใกล้กัน ราคาสูงกว่าหน่อยแทน น้องพอใจเพราะบ้านสร้างได้เนี้ยบมาก แม้เป็นแบรนด์เก่าแต่เก๋าจริง