ฟื้นเศรษฐกิจต้องสปีดทุกเครื่องยนต์

บทบรรณาธิการ 6 พ.ย.
Reuters
บทบรรณาธิการ

การผ่อนคลายมาตรการคุมเข้ม การคิกออฟเปิดประเทศตามไทม์ไลน์ วันที่ 1 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา หนุนให้บรรยากาศโค้งสุดท้ายปลายปีนี้ดูดีขึ้น แม้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยยังค่อนข้างน้อย เทียบไม่ได้กับช่วงไฮซีซั่นของทุกปีก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ถือว่าภาคท่องเที่ยวที่หยุดชะงักมานานได้จุดสตาร์ต เป็นโอกาสที่ภาคธุรกิจจะนำมาขยายผลสร้างรายได้

สัปดาห์แรกของการเปิดรับต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดส ตรวจไม่พบโควิด ฯลฯ เข้าไทยโดยไม่ต้องกักตัว ผลตอบรับอาจยังไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เพราะแม้โควิดจะคลี่คลาย แต่นักท่องเที่ยว คนเดินทางทั่วโลก ยังวิตกกังวลว่าจะมีความเสี่ยง ยังต้องใช้เวลากว่าภาคท่องเที่ยวกับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องจะกระเตื้อง จำนวนนักท่องเที่ยว รายได้จากการท่องเที่ยวจะฟื้นเป็นปกติ ทางที่ดีคือต้องประคับประคองสถานการณ์ และควบคุมไม่ให้โควิดแพร่ระบาดระลอกใหม่

กลายเป็นบทเรียนว่าการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมผลักดันผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ให้เติบโต ต้องไม่หวังพึ่ง หรือให้น้ำหนักไปที่รายได้เพียงแหล่งใดแหล่งหนึ่ง โดยเฉพาะรายได้จากภายนอกอย่างภาคการท่องเที่ยว การส่งออก ซึ่งที่ผ่านมาถูกตั้งความหวังไว้ค่อนข้างสูง เมื่อต้องเผชิญกับวิกฤต ได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบโดยไม่ได้คาดหมายไว้ล่วงหน้า อย่างโรคติดเชื้อไวรัสโควิด รายได้เข้าประเทศลดฮวบลงจึงส่งผลกระทบในวงกว้าง

จากปี 2562 นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย 40 ล้านคน สร้างรายได้ 1.93 ล้านล้านบาท จากรายได้รวมภาคท่องเที่ยวทั้งหมด 3.01 ล้านล้านบาท หลังโควิดแพร่ระบาดปีเศษที่ผ่านมา ภาคการท่องเที่ยวไทยรายได้เกือบเป็นศูนย์ คือกรณีตัวอย่างตอกย้ำว่าหากต้องการให้เศรษฐกิจเติบโตยั่งยืน ภาครัฐ ภาคเอกชนต้องสร้างสมดุลแหล่งรายได้ใหม่ ให้จีดีพีขยายตัวได้ทั้งในสถานการณ์ปกติและไม่ปกติ

สำคัญสุดอยู่ที่เครื่องยนต์หลัก 4 เครื่อง ประกอบด้วยการลงทุนภาครัฐ การลงทุนภาคเอกชน การบริโภค และการส่งออก ทำงานได้อย่างเต็มที่ เพื่อขับเคลื่อนผลักดันเศรษฐกิจไปข้างหน้า ไม่เกิดอาการรวน แต่กว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา วิกฤตโควิด-19 ที่แพร่กระจายไปทั่วโลก ทำให้เศรษฐกิจทั้งภายในและนอกประเทศมีปัญหา หลายเครื่องยนต์แม้ไม่ดับสนิท แต่อ่อนแรง สตาร์ตติดยาก


สถานการณ์ขณะนี้ที่ค่อนข้างเอื้อ บรรยากาศหลังการเปิดประเทศเริ่มเป็นบวก จึงเป็นช่วงที่รัฐบาลต้องฉวยจังหวะต่อยอด บูสต์เศรษฐกิจ เร่งสปีดทุกเครื่องยนต์ ทั้งการลงทุนรัฐ ภาคเอกชน ให้เม็ดเงินหมุนเวียนเกิดการกระจายรายได้ พร้อมหนุนภาคส่งออกให้ขยายตัว ปลุกเศรษฐกิจประเทศให้ฟื้น ก่อนขุมทรัพย์ภาคท่องเที่ยวจะพลิกกลับมาอีกครั้ง