จีนบูมเที่ยวในประเทศ 10 จุดหมายปลายทางยุคโควิด

ท่องเที่ยวจีน
นอกรอบ

พิเชษฐ์ ณ นคร

ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการของไทยที่มีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย รายได้เข้าประเทศจากการท่องเที่ยวที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปีกลายเป็นแหล่งรายได้ใหม่ นอกเหนือจากรายได้หลักที่มาจากภาคการส่งออกซึ่งอยู่ในระดับกว่า 70% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โควิด-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลกตั้งแต่ต้นปี 2563 ทำให้ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติ และรายได้จากการท่องเที่ยวลดลงจนเกือบเป็นศูนย์ ทั้งนี้ จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทย 39.9 ล้านคน รายได้ 1.9 ล้านล้านบาท ปี 2563 ยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงเหลือแค่ 6.7 ล้านคน ลดลง 83.2% เมื่อเทียบกับยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยปี 2562

สำหรับปี 2564 (มกราคม-ตุลาคม 2564) ข้อมูลจากกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยรวม 2.06 แสนคน ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน 6.2 พันคนเท่านั้น สาเหตุมาจากการแพร่ระบาดของโควิดทั่วโลกวิกฤตรุนแรงตั้งแต่ต้นปี เกือบทุกประเทศออกมาตรการคุมเข้มการเดินทางเข้า-ออกประเทศ และเมื่อโควิดคลี่คลาย แม้หลายประเทศจะผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

ขณะเดียวกันก็เปิดเมือง เปิดการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่บางประเทศยังคุมเข้มป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเข้มงวดของทางการจีนที่ชูนโยบายโควิดต้องเป็นศูนย์

ประกอบกับโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ “โอไมครอน” แพร่เชื้อได้เร็วกว่าสายพันธุ์อื่น 2-5 เท่า กำลังแพร่ระบาดในกว่า 90 ประเทศทั่วโลก แม้ความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์อื่น แต่ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกและวิตกกังวลไปทั่ว ขณะที่ความคาดหวังว่าภาคการท่องเที่ยวและบริการจะกลับมาฟื้นตัวอาจต้องใช้เวลายาวนานขึ้น

นอกจากสถานการณ์โควิดยังเป็นตัวแปรสำคัญที่จะชี้ชะตาอนาคตภาคท่องเที่ยวทั้งระบบของไทยแล้ว นโยบายในการควบคุมดูแลการเดินทางเข้า-ออกของแต่ละประเทศซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวหลักของไทยก็มีส่วนอย่างมาก อย่างกรณีจีน ซึ่งเวลานี้ทางการจีนมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ ส่งผลให้พฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีนเปลี่ยนแปลงไป โดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการท่องเที่ยวหันไปท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น

“ไชน่า เดลี่” สื่อจีนรายงานการจัดอันดับแหล่งท่องเที่ยว 10 อันดับแรกแหล่งท่องเที่ยวจุดหมายปลายทางยอดนิยมของคนจีนในการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งเผยแพร่ในการประชุมสุดยอดวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีน ประจำปี 2564 ท่ามกลางสถานการณ์โควิด คนจีนเลือกแหล่งท่องเที่ยวแหล่งไหนบ้างเป็นจุดหมายปลายทาง ขอนำมาถ่ายทอดต่อดังนี้

อันดับ 10 สะพานข้ามแม่น้ำ Yingwuzhou Yangtze สะพานข้ามแม่น้ำแยงซีเกียง ในเมืองหวู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก ระยะทาง 850 เมตร มีสองช่วงติดต่อกัน ออกแบบเป็นสะพานแขวน ก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดใช้เมื่อปี 2557 โดยเฉพาะช่วงกลางคืนมีการประดับประดาไฟอย่างสวยงาม

อันดับ 9 การท่องเที่ยวเยี่ยมชมสวนสัตว์ในหนานจิง มณฑลเจียงซู สวนสัตว์ขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่จัดแสดง ประกอบด้วยพื้นที่สำหรับเยี่ยมชมนก เขตสัตว์ร้าย สัตว์กินพืช สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ สัตว์ป่าหายาก สัตว์ป่าที่ได้รับการคุ้มครอง พื้นที่การแสดงของสัตว์ ฯลฯ

อันดับ 8 ทางม้าลายแห่งความรัก ที่อุทยานเหอเจียง เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ถูกตกแต่งสีสันให้เป็นทางม้าลายที่มีลักษณะเฉพาะ มีพื้นหลังขนาดใหญ่สีแดง มีหัวใจสองดวงอยู่ตรงกลาง เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ถูกนำมาบอกเล่า พูดถึงอย่างแพร่หลายในสื่อโซเชียล

อันดับ 7 กุ้ยหลิน สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังเขตชมวิวแม่น้ำลี่เจียง ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเขตปกครองตนเองกว่างสีจ้วง พื้นที่ 2,000 ตารางกิโลเมตร เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่มีทัศนียภาพสวยงาม และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์

อันดับ 6 ถนนภูเขา 18 โค้ง สาย Lijiang-Ninglang จากลี่เจียงไปยังทะเลสาบ Luguhu ในลี่เจียง มณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน สำหรับทางโค้งทั้ง 18 โค้งบนถนนสายดังกล่าวที่ถือเป็นเส้นทางที่อันตรายเป็นช่วงระหว่างลี่เจียงถึงลูกูหู บริเวณทะเลสาบ แม่น้ำ Jinsha ระยะทางยาว 20 กิโลเมตร ระดับถนนมีขนาดความสูงต่ำต่างกันกว่า 1,000 เมตร ท่ามกลางธรรมชาติพันธุ์พืชที่หลากหลาย เป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวได้ตื่นตาตื่นใจ

อันดับ 5 เมืองหางโจว นอกจากเป็นเมืองแห่งมรดกทางวัฒนธรรม มีสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจจำนวนมาก ปัจจุบันหางโจว ในมณฑลเจ้อเจียงได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งนวัตกรรม อย่างการใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงในการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะ โดยมณฑลเจ้อเจียงกำลังได้รับการผลักดันให้เป็นศูนย์นวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนานาชาติภายในปี 2035 ใช้อุปกรณ์เสมือนจริงที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะ 10 ปีจากนี้ไป

อันดับ 4 ปักกิ่ง พระราชวังต้องห้าม กรุงปักกิ่งสร้างในรัชสมัยจักรพรรดิหย่งเล่อแห่งราชวงศ์หมิง ใช้เป็นที่ประทับของจักรพรรดิในสมัยราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิงรวม 24 รัชกาล ภายในพระราชวังประกอบด้วยพระตำหนักและห้องต่าง ๆ มากถึง 9,999 ห้อง ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 720,000 ตารางเมตร ถือเป็นโบราณสถานและสิ่งก่อสร้างที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของจีน

อันดับ 3 ซานย่า ท่าเรือสำราญ บริเวณชายฝั่งทะเลซานย่า ในมณฑลไห่หนาน ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นฮาวายแห่งประเทศจีน ที่เต็มไปด้วยรีสอร์ตระดับหรู โรงแรม สนามกอล์ฟ และแหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่

อันดับ 2 Chongqing หรือนครฉงชิ่ง เมืองใหญ่อันดับ 8 ของจีน ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายทั้งย่านเมืองเก่า ย่านบันได 18 ขั้น แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ สถานที่ประวัติศาสตร์ ช็อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ แสงไฟบนถนนในนครฉงชิ่ง ในยามค่ำคืน

ส่วนอันดับ 1 ไหโข่ว หรือ Haikou เมืองหลวงของมณฑลไห่หนาน ทางตอนใต้ของจีน เมืองท่องเที่ยวหลักบริเวณชายฝั่งทะเลทางเหนือสุดของเกาไหหลำ มีแหล่งช็อปปิ้ง สถานบันเทิง สนามกอล์ฟ โรงแรมหรูระดับ 4-5 ดาว เป็นเมืองท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพชั้นนำ ท่าเรือการค้าเสรีไห่หนาน ฯลฯ

หากการแพร่ระบาดโควิด “โอไมครอน” ยังน่าห่วง กว่านักท่องเที่ยวจีนจะกลับมารอบใหม่อาจต้องรออีกยาว