คอลัมน์ ชั้น 5 ประชาชาติ โดย ก้อย ประชาชาติ
เมื่อสัตว์เลี้ยง…กลายเป็นลูกรัก จึงไม่ต้องแปลกใจ ถ้าธุรกิจสัตว์เลี้ยงมูลค่าตลาดจะโตสะพรั่งกว่า 2.9 หมื่นล้าน และที่สำคัญ เป็นธุรกิจที่ขยายตัวกว่า 10% ต่อเนื่องทุกปี
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- หุ้นไทยดิ่งหนัก ตลาดหลักทรัพย์ออก Statement ชี้แจง
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
ขณะเดียวกัน เทรนด์การเลี้ยงสัตว์ไม่ได้มีเพียงสัตว์เลี้ยงธรรมดาพื้น ๆ ทั่วไป อย่างสุนัข แมว กระต่าย หรือกระรอกเท่านั้น แต่ยังหลากหลายและแปลกใหม่มากขึ้นทุกปี ไม่ว่าจะเป็น กิ้งก่าทะเลทราย แมงมุม งู เหยี่ยว นกฮูก หรือนกอินทรี เป็นต้น
และเมื่อเป็น “ลูกรัก” การเลี้ยงดู ฟูมฟักพัฒนาการการเติบโต หรือการรักษาพยาบาลยามเจ็บป่วย จึงทุ่มเทและเต็ม 100%เรียกได้ว่าแทบไม่ต่างไปจากลูกน้อยที่ต้องดูแล เสมือนเป็นคนในครอบครัว หรือเป็นลูกมากกว่าการเป็นสัตว์เลี้ยง
สอดคล้องกับผลวิจัยของศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า ปัจจุบันการมีครอบครัวของเมืองไทยเริ่มลดลง คนโสดมากขึ้น หรือคนแต่งงานแล้วแต่ไม่มีลูก รวมถึงสังคมกำลังก้าวเข้าสู่ยุคของคนสูงอายุเพิ่มจำนวนมากขึ้นและหันมาเลี้ยงสัตว์ ให้ความรักและเป็นเพื่อนคลายเหงา
ซึ่งเหตุผลเหล่านี้ล้วนต่างผลักดันให้อุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงแสนรักเติบโตไม่หยุดปีที่ผ่านมา ตัวเลขธุรกิจสัตว์เลี้ยงมีมูลค่ากว่า 2.93 หมื่นล้านบาท ครอบคลุมทั้งกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์, กลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลสัตว์ เวชภัณฑ์ และยาสำหรับสัตว์เลี้ยง และกลุ่มธุรกิจบริการสปา โรงแรม นวด และผ่อนคลายสร้างความเอ็นเตอร์เทนเมนต์ให้กับบรรดาสัตว์เลี้ยง เป็นต้น
ซึ่งต้นทุนค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงลูกรักเหล่านี้ ล้วนต่างผลักดันให้ตลาดขยายตัวทุกปี โดย Pet Lover ยอมทุ่มเทให้กับสัตว์เลี้ยง ไม่เพียงค่ารักษาพยาบาล ค่าอาหาร อาหารเสริม ค่าผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ของเล่นฝึกทักษะ ยิ่งถ้าอยากให้มีระเบียบวินัยในการใช้ชีวิตประจำวันร่วมกับครอบครัวก็ต้องส่งเข้าโรงเรียน ไปเพิ่มทักษะที่ศูนย์ฝึก อยากสุขภาพดีก็ส่งไปว่ายน้ำ ไปสปา ซึ่งค่าใช้จ่ายแต่ละคอร์สตั้งแต่หลักพันยันหลักหมื่น
ยังไม่รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เทรนด์ของคนรักสัตว์ สะท้อนผ่านทิศทางเดียวกับการดูแลลูกรัก เห็นได้ชัดจากแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นที่ดีไซน์ให้กับทั้งคนและสัตว์เลี้ยงสามารถสวมใส่ในธีมเดียวกัน
และกลุ่มธุรกิจที่มีอัตราเติบโตก้าวกระโดด คือ กลุ่มธุรกิจบริการสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น โรงพยาบาลสัตว์ สระว่ายน้ำ สปา บริการรับฝากสัตว์เลี้ยง บริการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสัตว์เลี้ยง รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวและที่พักต่าง ๆ เริ่มเปิดรับสัตว์เข้ามาอยู่ร่วมกับเจ้าของได้
และเมื่อเทียบในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศที่มีการเติบโตสูง 3 อันดับแรกของธุรกิจสัตว์เลี้ยง ได้แก่ ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย โดยเฉพาะในเมืองไทย การเลี้ยงสุนัขและแมวมีจำนวนนำโด่งมากกว่า 11 ล้านตัว
จึงไม่ต้องแปลกใจ จากปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลให้ธุรกิจสัตว์เลี้ยงมีการเติบโตขึ้นต่อเนื่องตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
