งบประมาณ 2566 ไม่ใช่เกม

คอลัมน์ : บทบรรณาธิการ

แม้จะมีกระแสวิตกอยู่บ้างว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2566 ตั้งวงเงินประมาณเอาไว้ 3,185,000 ล้านบาท คิดเป็น 17.79% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี จนรัฐบาลโจมตีฝ่ายค้านว่า จ้องเล่นเกมการเมืองกับเรื่องนี้

แต่ความมั่นใจของบุคคลสำคัญในรัฐบาล บวกกับปัจจัยหนุนจากพรรคร่วมรัฐบาลที่กำกับดูแลกระทรวงต่าง ๆ ทั้งหมด ล้วนได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่ม ทำให้มั่นใจได้ว่า ร่างกฎหมายนี้จะผ่านความเห็นชอบด้วยเสียงของสมาชิกสภาฝ่ายรัฐบาลในที่สุด

กระทรวงที่มีบทบาทฟื้นฟูเศรษฐกิจของพรรคภูมิใจไทย ได้แก่ คมนาคมได้งบฯ 180,502 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก งบฯปี 2565 คิดเป็น 4.2% สาธารณสุขได้ 156,408.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.5% และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 5,330.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.7%

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ กระทรวงเกษตรฯได้เพิ่ม 14.8% เป็น 126,067.1 ล้านบาท และกระทรวงพาณิชย์ได้เพิ่มขึ้น 2.3% เป็น 6,489.5 ล้านบาท เป็นต้น

อีกจุดสำคัญที่พรรคฝ่ายค้านติติงมาก มาจากการที่รัฐบาลตั้งงบฯกลางปี 2566 สูงถึง 590,470 ล้านบาท หรือคิดเป็น 18.5% ของงบประมาณรวมทั้งหมด ถือว่าสูงที่สุดในโครงสร้างงบประมาณ ทั้งที่ถูกโจมตีมาทุกครั้งว่า งบฯกลางคล้ายกับการตีเช็คเปล่า ทำให้ฝ่ายนิติบัญญัติไม่มีโอกาสตรวจสอบและกลั่นกรองฝ่ายบริหาร

ด้านสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี แม้รัฐบาลชี้แจงว่าปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อย และยังอยู่ในกรอบที่ขยายเพดานออกไปแล้ว ไม่เกิน 70% ของจีดีพี แต่มูลค่าที่สูงถึง 9.9 ล้านล้านบาท เป็นตัวเลขที่ไม่น่าจะสบายใจได้เลยว่าจะช่วยเอื้อให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวอย่างไรในภาวะที่โลกเผชิญภาวะเงินเฟ้อ สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังไม่มีวี่แววยุติ

สถานการณ์เศรษฐกิจของไตรมาส 1 บ่งบอกว่า อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรามีส่วนทำให้ไทยประสบภาวะขาดดุลการค้า 944 ล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะการนำเข้าสินค้าหมวดยุทธปัจจัย 1,042 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นถึง 1,965.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า หรือหมวดเชื้อเพลิง 14,267 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 86.3%

คำชี้แจงของรัฐบาลว่า งบประมาณปี 2566 ต้องเพิ่มจากปีก่อนหน้า 85,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.74% มาจากความจำเป็นต้องใช้ในมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ และต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่จุดที่ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งคือ การจัดงบฯ 80% เป็นงบฯบำเหน็จ บำนาญ และงบฯรักษาพยาบาลของข้าราชการ ไม่สอดคล้องกับเหตุผลที่เอ่ยมา

ดังนั้น เรื่องนี้ไม่ใช่เกมการเมืองสำหรับประชาชน แต่เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องอธิบายให้ชัดว่า จะหาเงินให้สมดุลกับรายจ่ายและหนี้ก้อนมหึมาอย่างไร