ประชาชนถูกปล้นรายวัน

คอลล์เซ็นเตอร์ โทรศัพท์
คอลัมน์ : ชั้น 5 ประชาชาติ
ผู้เขียน : อำนาจ ประชาชาติ

 

ปีที่แล้ว เคยเขียนเกี่ยวกับภัยการเงินที่ระบาดเกลื่อนเมือง ซ้ำเติม คนไทยในยามวิกฤตไปแล้วรอบหนึ่ง

แต่ปัจจุบันรู้สึกว่า ปัญหาจะยังคงอยู่ ไม่มีทีท่าว่าจะเบาลง ทั้งในรูปแบบการส่ง SMS มาหลอกลวง และ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ที่เหิมเกริมขึ้นเรื่อย ๆ

ภาพที่เห็นคือ นอกจากคนไทยที่ถูกหลอกลวงมากขึ้นทุกวันแล้ว แม้แต่ระดับตำรวจใหญ่ก็ยังถูก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” โทร.มาหลอก ซึ่งนายตำรวจผู้นั้นก็มีการอัดคลิปมาลงโซเชียลให้คนอื่นดู จนเป็นข่าวครึกโครมกันไป

เรื่องนี้ออกแนว “ขำขื่น” เพราะขนาดบิ๊กตำรวจยังโดน แล้วประชาชนตาดำ ๆ จะรอดไปได้อย่างไร

จะบอกแต่ว่า ต้องให้ความรู้กับประชาชน เพื่อจะได้ไม่หลงกลบรรดามิจฉาชีพเหล่านี้ แค่นี้คงไม่พอ เพราะทุกวันนี้ กลวิธีการหลอกลวงก็มีการปรับเปลี่ยนไปทุกวัน

อ้างเป็นพนักงานแบงก์ อ้างเป็นตำรวจ อ้างเป็นบริษัทขนส่ง อ้างเป็นไปรษณีย์ อ้างเป็นสายด่วน

สารพัดจะอ้าง ล่าสุดผู้เขียนเจอ อ้างเป็น กสทช. ขู่จะปิดเบอร์ โทร.ภายใน 2 วัน !!

แต่สิ่งที่จะบอกก็คือ การหลอกลวงลักษณะแบบนี้ ไม่ว่าจะอ้างเป็นใครก็ตาม มีมานานแล้ว

เมื่อ 12 ปีที่แล้ว เพื่อนผู้เขียนที่เรียนจบปริญญาก็ถูกหลอก อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร มาตามทวงหนี้บัตรเครดิตที่ค้าง โดยแม้ว่าทีแรกเพื่อนคนนี้จะรู้สึกว่าอาจจะถูกหลอก เพราะตัวเองไม่เคยมีบัตรเครดิตกับแบงก์ที่ว่านี้เลย แต่พวกมิจฉาชีพเหล่านี้ก็มีอุบายวิธีหลอกต่ออย่างแนบเนียน จนเพื่อนผู้เขียนหลงเชื่อ ต้องสูญเงินไป 6 หมื่นบาท

ขนาดเพื่อนผู้เขียนขับรถไปหาเจ้าหน้าที่ DSI แล้วเล่าว่า ตัวเองถูกหลอก และมิจฉาชีพก็ยังติดต่อได้อยู่ จะให้เจ้าหน้าที่ช่วยดำเนินการเอาผิด แต่ก็ได้รับคำตอบว่า เอาผิดยาก เพราะแก๊งมิจฉาชีพเหล่านี้อยู่ต่างประเทศ

นั่นคือเรื่องเมื่อ 12 ปีที่แล้ว ถึงขณะนี้ก็แทบจะไม่ต่างไปจากเดิม เหมือนฉายหนังซ้ำวนไปเรื่อย ๆ

ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ หรือใครจะมาจบหนังอุบาทว์เรื่องนี้ได้สักที ถ้าไม่แก้ตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง ก็อาจจะลำบาก

และต้องอย่าลืมว่า การไม่แก้ปัญหาให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดเสียที ก็ไม่ต่างกับการปล่อยให้ประชาชนถูกปล้นรายวันนั่นเอง