เปิดใจบอสใหญ่ “นิสสัน” เลิกสงครามราคาดึงแบรนด์กลับมาแข็งแกร่ง

อิซาโอะ เซคิกุจิ นิสสัน
อิซาโอะ เซคิกุจิ
สัมภาษณ์

 

ถือว่ามาได้ถูกที่ถูกเวลา “อิซาโอะ เซคิกุจิ” ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เข้ามารับหน้าเสื่อดูแลตลาดนิสสันเมืองไทยในช่วงวิกฤต ทั้งจากโรคภัยที่สั่นสะเทือนไปทั่วโลกกับโควิด-19 และวิกฤตภายในองค์กร

วันนี้ครบ 1 ขวบปีที่กุมบังเหียนนิสสันไทยแลนด์พอดิบพอดี “ประชาชาติธุรกิจ” มีโอกาสร่วมพูดคุยถึงการปรับองค์กร แผนการขับเคลื่อนธุรกิจ การนำเสนอรถยนต์ใหม่และการทำตลาดของนิสสัน และที่ประกาศชัดเจนคือ ต้องการดึงแบรนด์นิสสันให้กลับมาแข็งแกร่งและตอกย้ำการสกัดกั้นสงครามราคา

ยันไม่ทำสงครามราคา

ก่อนหน้านี้นิสสันได้ประกาศชัดเจนว่าจะใช้นโยบายขาย “ราคาเดียว” ในการดำเนินธุรกิจ และมีการวางกลยุทธ์ในด้านต่าง ๆ เพื่อให้ประเทศไทยแบรนด์นิสสันกลับมาแข็งแกร่งและเข้ามาอยู่ในใจลูกค้าชาวไทยอย่างเหนียวแน่นอีกครั้ง สำหรับนิสสัน คิกส์ e-POWER นั้น ที่เราทำราคารถยนต์ลงมาได้ราว ๆ 150,000-190,000 บาทนั้น

เหตุผลสำคัญคือ การที่นิสสันได้เพิ่มการใช้โลคอลคอนเทนต์ภายในประเทศมากขึ้น โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้เราเพิ่มเปิดไลน์ประกอบแบตเตอรี่ สำหรับนิสสัน คิกส์ e-POWER ที่โรงงานนิสสัน พาวเวอร์เทรน ประเทศไทย (NPT) จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นสายการประกอบแห่งแรกนอกประเทศญี่ปุ่น

และเป็น 1 ในโรงงานนิสสัน 4 แห่งทั่วโลกที่มีศักยภาพในการประกอบแบตเตอรี่สำหรับระบบขับเคลื่อน e-POWER ในช่วงเดือนเมษายน ทำให้ต้นทุนในการผลิตลดลง เราจึงสามารถทำราคาของนิสสัน คิกส์ออกมาได้ค่อนข้างดี เรายืนยันว่านิสสันไม่มีนโยบายทุบราคาจำหน่าย หรือใช้สงครามราคาแน่นอน

นิสสัน

ลุยเจาะตลาดกลุ่มวัยรุ่น

เรามั่นใจว่า ราคานิสสัน คิกส์ e-POWER รุ่นเดิม ลูกค้าที่ซื้อไปก่อนหน้านี้พึงพอใจกับเงื่อนไขโปรโมชั่นที่เรานำเสนอ และไม่ได้รู้สึกว่าเกิดความไม่เท่าเทียม นิสสันใช้เวลาแค่ 10 วันหลังเปิดตัว ลูกค้าจองไปแล้วถึง 1,000 คัน ซึ่งแน่นอนว่าเราจะพยายามส่งมอบรถให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง การปรับราคานั้นส่วนหนึ่งเราต้องการทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น เท่าที่ดูจากอายุลูกค้าต่ำลงอย่างเห็นได้ชัดเจน

ลั่นพร้อมตรึงราคา

ทุกค่ายรถยนต์กำลังเผชิญกันอยู่คือ ปัญหาการผลิต และการขาดแคลนชิ้นส่วน รวมทั้งเซมิคอนดักเตอร์ (ชิป) อีกทั้งอัตราค่าขนส่งที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ทุกคนต้องบริหารจัดการให้ดี และนิสสันเองต้องดูตลาดจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เราได้หวังว่าคงราคานี้ไว้ให้นานที่สุด

ลุยต่อตลาดอีวี

สำหรับนโยบายรถยนต์ไฟฟ้าหรืออีวี นิสสัน ได้มีการนำเข้านิสสัน ลีฟมาตั้งแต่ปี 2018 และต้องยอมรับว่า “อัตราภาษีนั้นไม่ค่อยน่ารักเท่าไรนัก” อย่างไรก็ตาม นิสสันมีกลยุทธ์ในการโปรโมตนิสสัน ลีฟในประเทศไทย ด้วยความพยายามสร้างอีโคซิสเต็ม ด้วยความร่วมมือกับหลายส่วนงาน ทั้งภาครัฐ เอกชน รวมไปถึงสถาบันการศึกษา เมื่อนิสสันมีความชัดเจนเกี่ยวกับรถอีวี เราจะมีการประกาศให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง

จากการศึกษาเราต้องเรียนรู้ว่า กลุ่มลูกค้าชาวไทยมีการปรับตัวสำหรับรถอีวีได้มากน้อยแค่ไหน อย่างในญี่ปุ่นเอง ยอดขายอีวีมีเพียง 1% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมด แม้ว่าสถานีชาร์จไฟฟ้าจะมีมากกว่าสถานีบริการน้ำมัน

เพิ่มความแข็งแกร่งแบรนด์

นิสสัน ประเทศไทยนั้น ยังไม่มี “แบรนด์อิมเมจ” ที่แข็งแรง เราต้องยอมรับว่า คนไทยจะรู้จักนิสสันแค่การเป็น “แบรนด์” ที่เอื้อมถึงเท่านั้น หลายปีที่ผ่านมา นิสสันพยายามที่จะขายให้ได้จำนวนมากที่สุด และมีการให้ส่วนลดมากกว่าแบรนด์อื่น ๆ ซึ่งตรงนี้ทำให้แบรนด์ของเราไม่สามารถสร้างความแข็งแกร่งได้เลย คนมองว่านิสสันเป็นแบรนด์ราคาถูก…

แน่นอนว่า เราต้องการเปลี่ยนการรับรู้นี้ รวมถึงวิธีดำเนินธุรกิจและการตลาด ล่าสุด เราได้มีการเลือกใช้ “แบรนด์แอมบาสซาเดอร์” เข้ามาช่วย ทั้ง ณเดชน์ คูกิมิยะ สำหรับรถยนต์นิสสัน นาวารา และ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก กับนิสสัน คิกส์ e-POWER ซึ่งเราหวังว่า “แบรนด์แอมบาสซาเดอร์” น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนใหม่ และจากนี้จะได้เห็นสิ่งที่ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงของนิสสัน ประเทศไทย และเชื่อว่าขณะนี้เราเริ่มเดินมาถูกทางแล้ว