ซีเอสอาร์ฉบับ “เมอร์ค” พนักงานจิตอาสาเติมฝันให้สังคม

บริษัท เมอร์ค จำกัด สาขาประเทศไทย มีปณิธานในการสร้างสรรค์สิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้เกิดขึ้น ด้วยการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการจาก 3 ธุรกิจสำคัญเช่นเดียวกับเมอร์คทั่วโลก ได้แก่ ยา และสุขภาพ (Healthcare) วิทยาศาสตร์เพื่อสิ่งมีชีวิต (Life Science) และวัสดุและเทคโนโลยีเพื่อประสิทธิภาพ (Performance Materials)

ขณะเดียวกัน ยังให้ความสำคัญกับการสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนให้แก่สังคม โดยตระหนักว่าหนึ่งในกำลังสำคัญที่จะเป็นผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงคือ พนักงานขององค์กร จึงส่งเสริมให้พนักงานคิดโครงการเพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดความร่วมมือของพนักงานทำให้เกิดกิจกรรม “WE RUN WE FUND วิ่งเติมฝัน”

“ปัญญา กิจเจริญการกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมอร์ค จำกัด สาขาประเทศไทย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่เมอร์คก่อตั้งขึ้นในประเทศไทย บริษัทพยายามผลักดันให้บุคลากรทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างทั่วถึง ทั้งเรื่องการพัฒนาสิ่งแวดล้อม และชีวิตมนุษย์ ในพื้นที่ที่ห่างไกล และในพื้นที่ใกล้เคียง โดยเราวางโครงสร้างของกิจกรรมซีเอสอาร์ว่าต้องเป็นกิจกรรมเพื่อสังคมที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทเสมอ

“การมีส่วนร่วมของพนักงานต่อความรับผิดชอบต่อสังคมถือเป็นส่วนสำคัญในการช่วยปลูกจิตสำนึกของการเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ ซึ่งตามแนวทางของเมอร์คเองให้การสนับสนุนพนักงานอย่างเต็มที่ เพราะเรามองเห็นว่าการสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ หรือการทำสิ่งดีให้เกิดขึ้นในสังคมเป็นหนึ่งในหน้าที่ของเราทุกคน จึงได้มีกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างหลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ หรือความสนใจของพนักงาน โดยกิจกรรมเหล่านี้ส่งเสริมให้เกิดความผูกพันกับองค์กร (Engagement) ขณะเดียวกัน พนักงานเองจะรู้สึกภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยเหลือสังคมอีกด้วย”

“ในช่วงแรก ๆ ของกิจกรรมเพื่อสังคม เราทำในรูปแบบร่วมมือกับเอ็นจีโอ อย่างเช่นมูลนิธิรักษ์ไทย ซึ่งมีความถนัด และความเข้าใจในการช่วยเหลือสังคม และผู้ด้อยโอกาส เพื่อทำโครงการพัฒนาทักษะอาชีพเยาวชนในชนบท และโครงการส่งเสริมอาชีพทางเลือกของหญิงชุมชนพื้นที่สูง จนเราพบว่าพนักงานมีความกระตือรือร้นที่จะเข้าร่วม รวมไปถึงสนใจเสนอรูปแบบกิจกรรมเพื่อสังคมใหม่ ๆ เรื่องจิตอาสาจึงกลายเป็นส่วนสำคัญขององค์กรในปัจจุบัน และหลายต่อหลายกิจกรรมเกิดมาจากการรับฟังความคิดเห็นของพนักงาน เพื่อนำมาทำให้เกิดขึ้นจริง

“ปัญญา” อธิบายเพิ่มเติมว่า จนถึงวันนี้บุคลากรเข้ามามีส่วนร่วมในการคิดโครงการเพื่อสังคมปีละกว่า 20 โครงการ เช่น โครงการครูอาสา ซึ่งเกิดขึ้นเป็นปีแรกในปี 2554 โดยพนักงานเข้าไปสอนหนังสือกับเด็กนักเรียนในพื้นที่ทางภาคเหนือและภาคอีสาน ที่ยังขาดโอกาสในการศึกษา

“โครงการ The Amazing Raise Fund เป็นอีกหนึ่งโครงการที่พนักงานของเมอร์คจัดขึ้นในปี 2556 โดยผู้เข้าแข่งขันไม่ได้ชิงรางวัลเพื่อตัวเอง แต่เป็นการชิงรางวัลเพื่อนำรางวัลไปสมทบทุนแก่มูลนิธิที่ผู้เข้าแข่งขันเป็นผู้เลือก โดยให้มูลนิธินำไปใช้ช่วยเหลือผู้ที่ขาดโอกาสอย่างแท้จริง และโครงการ Merck Giving Day : Happiness for Kids ที่โรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพฯ ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากความต้องการเข้าใจคนตาบอด พนักงานกลุ่มหนึ่งจึงนำผ้ามาปิดตาตนเอง และเดินทางไปที่ต่าง ๆ โดยมีเพื่อนพนักงานร่วมดูแลไปด้วย ตรงนี้ทำให้พวกเขาตระหนักว่าชีวิตของคนตาบอดมีอุปสรรคเช่นไร จึงเกิดเป็นโครงการมอบความสุขให้คนกลุ่มนี้ขึ้นมา”

ในเรื่องของเงินสำหรับทำกิจกรรมเพื่อสังคม ที่นอกเหนือบริษัทช่วยสนับสนุนแล้ว พนักงานยังเกิดความคิดในการระดมทุนผ่านกิจกรรม Care Bazaar Charity Market ที่พนักงานร่วมกันบริจาคสิ่งของมีค่า เพื่อนำมาจับจ่ายและประมูล รวมไปถึงการออกบูทอาหารเพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้ในโครงการเพื่อสังคมในแต่ละปี เป็นการเปิดโอกาสให้พนักงานทั้งองค์กรมีส่วนร่วมในกิจกรรมเพื่อสังคมอีกด้วย

“จากตัวอย่างกิจกรรมที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 ปีผ่านมา จะเห็นได้ว่า เมอร์ค ประเทศไทยมีความเปลี่ยนแปลงในการก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ริเริ่มโครงการเพื่อสังคมต่าง ๆ มากขึ้น นอกเหนือจากการเป็นพันธมิตรกับมูลนิธิรักษ์ไทยในการเข้าสู่พื้นที่ห่างไกลต่าง ๆ และเนื่องในโอกาสครบรอบ 25 ปีของเมอร์ค ประเทศไทยในปีที่ผ่านมา เราจึงสร้างสรรค์โครงการ Dream ขึ้น โดยพนักงานทั้งบริษัทจับกลุ่ม และร่วมเสนอ 25 ความฝันในการช่วยเหลือสังคม จนสามารถคัดเลือก 3 กิจกรรมเพื่อทำให้เกิดขึ้นจริง ได้แก่ โครงการปล่อยเต่า, โครงการแยกขยะ และโครงการประหยัดพลังงาน”

หนึ่งในกิจกรรมที่เกิดขึ้นภายใต้โครงการ Dream ดังกล่าว ถูกจัดขึ้นในช่วงปลายปี 2559 คือกิจกรรมวิ่งการกุศล Merck Charity Run : Give Me Five…วิ่งเพื่อเต่า โดยกิจกรรมนี้ได้รับการสนับสนุนทั้งจากพนักงาน ลูกค้า พันธมิตรของเมอร์ค รวมไปถึงการเริ่มเข้ามามีส่วนร่วมของประชาชนทั่วไป ซึ่งรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายถูกนำไปอภิบาลเต่า และตะพาบน้ำ และส่งสัตว์น้ำเหล่านี้กลับคืนสู่ธรรมชาติต่อไปตามความตั้งใจของโครงการ

“จากความสำเร็จจากกิจกรรมวิ่งเพื่อการกุศลปีที่แล้ว ทำให้พนักงานของเราเกิดความคิดที่จะจัดขึ้นอีกในปีนี้ ซึ่งเป็นปีที่เมอร์ค ประเทศไทยครบรอบปีที่ 26 แต่เปลี่ยนเป็นการวิ่งเพื่อระดมทุนสนับสนุนการศึกษา WE RUN WE FUND วิ่งเติมฝัน ให้โรงเรียนที่ขาดแคลนหรือยากจน จำนวน 26 โรงเรียนทั่วประเทศ เพราะทุกวันนี้ยังมีเด็กไทยอีกจำนวนมากที่ไม่มีหนังสือให้อ่าน และมีการเล่นกีฬาที่ลดลงเมื่อเทียบกับคนชาติอื่น ๆ ยิ่งเฉพาะโรงเรียนขนาดเล็กในชุมชนห่างไกล อันเนื่องมาจากการขาดแคลนทุนทรัพย์ในการบริหารงานในโรงเรียน”

โดยจะมีการจัดกิจกรรมเดิน-วิ่ง ระยะทาง 5 กิโลเมตร ณ สวนลุมพินี ในวันอาทิตย์ที่ 30 กรกฎาคม 2560 ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถร่วมเปลี่ยนค่าวิ่ง ท่านละ 500 บาท เป็นการทำให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงหนังสือดีที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย และมีอุปกรณ์กีฬาเพื่อสร้างความแข็งแรง โดยตั้งเป้าว่าน่าจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม 1,500 คน และทางบริษัทจะร่วมสมทบทุนเพิ่ม เพื่อช่วยเหลือ 26 โรงเรียนอย่างที่ตั้งใจด้วย

เมอร์คมีความมุ่งหวังที่จะเปิดโอกาสให้คนในสังคม มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคมผ่านกิจกรรมที่จัดขึ้น จึงนับเป็นการสร้างความตระหนักในหน้าที่ความรับผิดชอบต่อสังคมให้เกิดขึ้นในใจของคนทั่วไปอีกด้วย