โลกบริหารวันเปลี่ยนผ่าน “คนคือหัวใจสำคัญขององค์กร”

เป็นประจำทุกปีที่สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) เชิญผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ เข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และนำเสนอมุมมองที่น่าสนใจในงาน TMA DAY สำหรับล่าสุด TMA DAY 2017 : Business Context in the Speedy World เป็นการให้ความสำคัญกับ business disruption
โดยชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงขององค์กรทั้งปัจจุบัน และที่กำลังจะมาถึงในอนาคต ซึ่งมีวิทยากรต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น “เคน ลี” ซีอีโอ และผู้ก่อตั้งบริษัท เบลล์วิว รีเสิร์ช สปีกเกอร์ชื่อดังด้านการสำรวจ และวิเคราะห์เทรนด์ธุรกิจจากประเทศสิงคโปร์ มาบรรยายในหัวข้อ “The Future Landscape, the Insight and Action”

“กานติมา เลอเลิศยุติธรรม” หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (AIS) มาร่วมแชร์แนวคิดเรื่อง “Talent Mobility : Changing Workforce Demographics and Dynamics” และ “นพปฎล เดชอุดม” รองประธาน สำนักบริหารความยั่งยืน ธรรมาภิบาล และสื่อสารองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อ “Emerging Leaders : How Do We Steer & Harness the Global Disruption & Change”

ความท้าทายยุคมิลเลนเนียล

“เคน ลี” กล่าวในเบื้องต้นว่า อนาคตอันใกล้ คนยุคมิลเลนเนียลจะมีบทบาทสำคัญ และเป็นผู้กำหนดทิศทางใหม่ ๆ โดยจะครองสัดส่วน 75% ของประชากรทั่วโลก ซึ่งคนยุคนี้จะมีความเชื่อมโยงกับเทคโนโลยี โดยเฉพาะเรื่องของอินเทอร์เน็ต และโซเชียลมีเดีย

“ดังนั้น องค์กรต้องปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมให้สอดคล้องกับพฤติกรรมพนักงานของกลุ่มมิลเลนเนียล โดยต้องบริหารจัดการให้น้อยลง แต่ต้องสร้างการทำงานแบบยืดหยุ่น ทำงานที่ไหนก็ได้ ไม่เคร่งครัดว่าเวลาทำงานต้องเข้า 08.00 น. ออก 17.00 น. เพราะคนรุ่นใหม่ชอบความคล่องตัวในการทำงาน และบริหารจัดการเวลาทำงานของตัวเอง เพราะการจัดเวลาทำงานแบบยืดหยุ่นจะช่วยเพิ่มผลผลิตที่ดีให้กับงานมากกว่า”

“นอกจากนั้น องค์กรต้องมอบสิทธิในการตัดสินใจให้พนักงานมากขึ้น สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานเหมือนเล่นเกม ไม่แบ่งพาร์ทิชั่น เพื่อให้ทุกคนสามารถโต้ตอบ และเชื่อมโยงกันได้ เพราะถึงแม้เงินและรายได้จะเป็นเรื่องสำคัญ แต่ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่สุดของการทำงานของคนรุ่นใหม่ที่ให้ความหมายของงานว่าเป็นเรื่องของความสุขในการทำ และสิ่งที่ได้ทำงานที่ท้าทายเป็นองค์ประกอบสำคัญของการทำงานในปัจจุบัน”

“โดยปี 2018 ดิจิทัลจะมีผลกระทบระดับบุคคลมากขึ้น เพราะจากการเข้ามาของบิ๊กดาต้า เอไอ และไอโอที (internet of things) ทำให้คนเสมอภาคกัน ดังนั้น ผู้นำองค์กรจะต้องมีวิสัยทัศน์ด้านกลยุทธ์องค์กร เพื่อก้าวทันต่อความเปลี่ยนแปลง และจำเป็นต้องหา business model ของตัวเอง ในขณะที่ภาครัฐจะต้องมีบทบาทสำคัญในความสำเร็จของสังคมและเศรษฐกิจ ต้องสอนคนรุ่นใหม่ให้รู้จักคิด และใช้เทคโนโลยีให้เป็น ไม่ใช่สอนด้วยวิธีการเดิม ๆ ด้วยการท่องจำ”

HR รุกเปลี่ยนผ่านองค์กร

“กานติมา” กล่าวว่า การบริหารจัดการด้านธุรกิจเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ด้วยเทคโนโลยีที่เข้ามารุกล้ำ และแทรกแซงในกระบวนการทำงาน ส่งผลให้องค์กรไทยต้องปรับตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง HR (human resource) ในยุคนี้จะต้องตื่นตัว และเป็นกำลังสำคัญในการเปลี่ยนผ่านองค์กร เพราะ digital disrupt เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งความถี่ของการเปลี่ยนแปลงจะเร็วขึ้น และมากขึ้น

“HR จึงต้องเปลี่ยน mindset ของตัวเอง เพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และผู้นำองค์กรจะต้องสามารถสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทุกมิติ เพื่อให้ทุกคนในองค์กรเห็นภาพของกระบวนการปรับตัวอย่างชัดเจน เอไอเอสจึงให้ความสำคัญกับเรื่องทรัพยากรมนุษย์มาก เราเริ่มไม่ใช้การปกครองแบบลำดับขั้น หรือ hierarchy ที่ในอดีตนิยมใช้ปฏิบัติกันมานาน โดยเรายกเลิกตำแหน่งต่าง ๆ ภายในฝ่าย เช่น SVP, AVP และอื่น ๆ เพื่อให้ผู้บริหารระดับสูงลดอัตตาของตัวเองเวลาเจอผู้ปฏิบัติงาน”

“ถึงแม้รูปแบบ hierarchy จะเคยเป็นสิ่งดี แต่กลับไม่เข้ากับการบริหารคนรุ่นใหม่แล้ว ดังนั้น เราต้องยอมรับความสามารถของคนรุ่นใหม่ และเปิดโอกาสให้พวกเขาแสดงความคิดเห็น และตัดสินใจ โดยมีพี่ ๆ ให้คำแนะนำ สิ่งสำคัญคือการเคารพการเป็นปัจเจกของบุคคลมากขึ้น ซึ่งเอไอเอสให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ นอกจากนี้ ยังให้พนักงานรับผิดชอบอนาคตการเรียนรู้ของตัวเองด้วยการเรียนรู้ผ่าน e-Learning อีกด้วย”

“คน” คือหัวใจขององค์กร

“นพปฎล” เล่าถึงปรากฏการณ์ business disruption ที่ส่งผลกระทบก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจบริการ และอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั่วโลกว่า ปัจจุบันเป็นยุคที่ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ค้าปลีก หรืออาหาร สามารถนำหุ่นยนต์มาช่วยแทนแรงงานคน

“ดังนั้น ทางเครือเจริญโภคภัณฑ์ต้องปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงการบริหารจัดการให้เข้ากับยุคดิจิทัล แต่เรายังคงเชื่อว่าเรื่องบริหารจัดการคนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทั้งยังเป็นหัวใจของทั้งหมด ไม่ใช่เทคโนโลยี หรืออินเทอร์เน็ต เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงเปลือกนอกของ disruption นอกจากนั้น องค์กรจะต้องมีระบบการบริหารจัดการคนเก่งที่ดี (talent management) ต้องมีหลักธรรมาภิบาลในองค์กร (good governance) รวมถึงมีนวัตกรรม (innovation) อันเป็นปัจจัยสำคัญในการทำธุรกิจยุคนี้ที่จะทำให้องค์กรมีความยั่งยืน”

“ส่วนการทำธุรกิจ ผู้นำอย่ามัวยึดติดกับการเป็นเจ้าตลาด แล้วยืดระยะเวลาออกไปให้นานที่สุด เพราะจะทำให้เกิดผลเสียแก่องค์กร แต่ควรเร่งวางกลยุทธ์แนวทางการรับมือกับสิ่งที่เข้ามาใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด หากล่าช้าเกินไป ขีดความสามารถทางการแข่งขันขององค์กรจะลดน้อยลง แล้วจะนำพาปัญหามาสู่องค์กรได้เช่นกัน”

จึงนับว่า TMA DAY คืองานสัมมนาใหญ่ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่ออัพเดตเทรนด์ด้านการบริหารจัดการอันทันสมัย เพราะการดำเนินธุรกิจปัจจุบัน แตกต่างไปจากเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก ทั้งยังมีอีกหลายปัจจัยเข้ามาแทรกแซงการทำธุรกิจ โดยเฉพาะเรื่องของเทคโนโลยีที่ปรับเปลี่ยน และอัพเดตเทรนด์กันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาจจะสร้างทั้งโอกาสที่สามารถเหนือคู่แข่ง

ขณะเดียวกัน อาจสร้างอุปสรรคจนทำให้กลายเป็นผู้แพ้ในตลาดได้

ดังนั้น องค์กรไทยจึงจำเป็นต้องเร่งปรับตัวให้เข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 และต้องตื่นตัวกับเรื่องการปฏิวัติองค์กรสู่การตลาดแบบดิจิทัลมากขึ้น เพื่อยกระดับความสามารถขององค์กรและประเทศ

 

ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat

สามารถดาวน์โหลด ประชาชาติธุรกิจ ฉบับ e-Newspaper
หรือ e-Book ได้ที่แอปพลิเคชั่น Ookbee เลือก “ประชาชาติ”