ผู้นำในตัวฉัน ทรานส์ฟอร์มการศึกษารับโลกเปลี่ยน

ผู้นำ

ผู้บริหารจากสถาบันการศึกษาในไทย และภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกกว่า 300 คน ต่างให้ความสนใจร่วมงานสัมมนา “The Asia-Pacific Education Symposium 2022-Leading School Transformation” โดยมี “แพคริม เอ็ดดูเคชั่น” ร่วมกับ “แฟรงคลินโควีย์ เอ็ดดูเคชั่น” จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อ 5-6 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา

ที่ไม่เพียงจะมี “เมอเรียล ซัมเมอร์” อดีตครูใหญ่โรงเรียนดังในสหรัฐที่เป็นต้นตำรับ หรือแม่แบบในการทรานส์ฟอร์มสถาบันการศึกษาทั่วโลก และผู้ร่วมประพันธ์หนังสือขายดี “Leader in Me” มาร่วมงาน หากยังมีผู้บริหารจากกลุ่มแพคริม แฟรงคลินโควีย์ ตลอดจนผู้อำนวยการโรงเรียน นักเรียน และผู้ปกครองมาร่วมแบ่งปัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์การปรับเปลี่ยนสถาบันการศึกษา เพื่อรับมือกับโลกในศตวรรษที่ 21 ทั้งในระดับนานาชาติและในไทย

“เมอเรียล ซัมเมอร์” กล่าวว่า Leader In Me หรือกระบวนการผู้นำในตัวฉัน อันเป็นกระบวนการที่ใช้เครื่องมือทรงพลังจากหลักการ 7 อุปนิสัยของผู้มีประสิทธิผลสูง (The 7 Habits of Highly Effective People) ที่ค้นพบโดย “ดร.สตีเฟน อาร์. โควีย์” โดยเป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่ครอบคลุมทั้งสถาบันการศึกษา ครู อาจารย์ และผู้เรียน ซึ่งจะได้รับการพัฒนาแบบองค์รวม (Whole-Person Paradigm) ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา และจิตวิญญาณ เพื่อให้เยาวชนมีความพร้อมรับมือกับโลกที่กำลังหมุนเร็ว และไม่อาจคาดเดาได้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต

“กระบวนการ Leader in Me พิสูจน์แล้วถึงผลลัพธ์ และที่สำคัญคือทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในเยาวชน เพราะกระบวนการ Leader in Me ได้รับการรับรองโดย The Collaborative for Academic Social & Emotional Learning (CASEL) รวมทั้งยังได้รับการยืนยันจากผลการวิจัยด้วยทุนสนับสนุนจากมูลนิธิบิล และเมลินดา เกตส์ ว่าเป็นหนึ่งในกระบวนการเรียนการสอนด้าน Social & Emotional Learning (SEL) ดีที่สุด”

“พรทิพย์ อัยยิมาพันธ์” ผู้ก่อตั้งและประธานบริหารกลุ่มบริษัทแพคริมกล่าวว่า แฟรงคลินโควีย์และแพคริมมีประสบการณ์ให้คำปรึกษาแก่องค์กรในระดับ Fortune 500 และ Top 1000 บริษัทในไทยมากว่า 30 ปี ตระหนักดีว่าปัจจุบันคงไม่มีองค์กรใดที่จะไม่เปลี่ยนแปลงแล้วจะสามารถอยู่รอดได้ รวมถึงสถาบันการศึกษาก็ไม่เป็นข้อยกเว้น เนื่องจากเรากำลังอยู่ในโลกยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง

“เป็นเรื่องน่ายินดีที่เยาวชนในวันนี้ไม่ต้องรอจนเป็นผู้ใหญ่ในองค์กรชั้นนำ แล้วถึงจะมีโอกาสบ่มเพาะหลักการ 7 Habits ซึ่งจะเป็นเสมือนเมล็ดพันธุ์ที่จะช่วยให้พวกเขาเติบโตในวันข้างหน้า ไม่ใช่แค่ด้วยความเก่ง แต่ด้วยความเป็นคนดี มีความมั่นคง และวุฒิภาวะ ทั้งยังสามารถปรับตัวและอยู่รอดได้ในวันข้างหน้าอย่างแน่นอน”

“วิลเลี่ยม แมคอินไตย์” รองผู้จัดการใหญ่สายงานต่างประเทศ แฟรงคลินโควีย์ เอ็ดดูเคชั่น กล่าวว่า Leader in Me เป็นกระบวนการพัฒนาสถาบันการศึกษา และหลักสูตรทักษะชีวิตที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วมากที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

โดยปัจจุบันมีสถาบันการศึกษากว่า 6,000 แห่ง กว่า 50 ประเทศทั่วโลกนำกระบวนการนี้ไปใช้ และเห็นการเปลี่ยนแปลงที่สามารถวัดผลได้ ทั้งในด้านของทักษะความเป็นผู้นำ วัฒนธรรมในโรงเรียน และความเป็นเลิศทางวิชาการ

“ด้วยงบประมาณที่น้อยกว่ามาก Leader in Me สามารถช่วยให้สถาบันการศึกษาส่งมอบกระบวนการศึกษาระดับโลก และสามารถเข้าถึงเครือข่ายระดับโลกได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสถาบันการศึกษาจากต่างประเทศ หรือเก็บค่าเรียนแพง ๆ

และเร็ว ๆ นี้จะมีการเปิดตัว Global Connect 1.0 แพลตฟอร์มที่จะช่วยให้ห้องเรียน หรือสถาบันการศึกษาสามารถเชื่อมโยงกับห้องเรียน หรือสถาบันอื่น ๆ ทั่วโลก เพื่อสร้างความตระหนักรู้ สำรวจวัฒนธรรม แบ่งปันวิธีการปฏิบัติที่ดี ร่วมมือกันในโครงการต่าง ๆ เพื่อพูดคุย และทำความรู้จักกันในฐานะเพื่อนมนุษย์ เพื่อร่วมทำสิ่งดี ๆ ให้กับชุมชนและโลกใบนี้”

“ดร.นาฎฤดี จิตรรังสรรค์” ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการโรงเรียนสุจิปุลิ กล่าวว่า ผลสำเร็จที่ได้รับหลังจากที่นำกระบวนการ Leader in Me มาใช้ในโรงเรียน คือความเป็นผู้นำ และความโปรแอ็กทีฟของครูและนักเรียนที่ริเริ่มทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องรอรับคำสั่ง รวมทั้งผลคะแนนทางด้านวิชาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องทุก ๆ ปี

“ขณะที่โรงเรียนเองก็ประสบความสำเร็จ ได้รับความเชื่อมั่นไว้วางใจจากผู้ปกครองที่ส่งบุตรหลานมาเรียนเพิ่มขึ้นทุกปี จากที่มีนักเรียน 130 คนเมื่อ 3 ปีก่อน ตอนนี้มี 416 คนในปัจจุบัน ปัจจุบันมีเด็กสมัครเรียนล่วงหน้าถึงปี 2568 อายุน้อยที่สุดคือ 2 วัน นั่นคือความไว้วางใจที่ผู้ปกครองมอบให้กับเราจริง ๆ”

“ยุทธนา มานะไชย” หรือ “คุณพ่อโค้ก” ของ “น้องมิลิน” ชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนสุจิปุลิกล่าวว่า ผมมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็น “Win-Win” ของทุกฝ่าย ทั้งโรงเรียน คุณครู นักเรียน และผู้ปกครอง ที่เห็นลูกไปโรงเรียนทุกวันอย่างมีความสุข พ่อ แม่ ไม่ต้องคอยฉุดลากให้ไปโรงเรียนทุกเช้า ลูกอยากไปโรงเรียน เพราะอยากที่จะไปปลดปล่อยศักยภาพของตัวเอง

“Habit ที่ 1 โปรแอ็กทีฟ สอนให้พูดเพราะ ๆ เมื่อเราพูดไม่เพราะ เขาจะบอกว่าปะป๊าไม่โปรแอ็กทีฟ จึงทำให้เราต้องโปรแอ็กทีฟกับลูกด้วย”

“พรพิมล พิสุทธิพันธ์พงศ์” ผู้อำนวยการโรงเรียนพิมานเด็กเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่กล่าวว่า บนโต๊ะของตนจะมีหนังสือ 7 อุปนิสัยวางอยู่ตั้งแต่ปี 2548 โดยได้เรียนรู้ และนำมาใช้ในการทำงานในโรงเรียน จนกระทั่งปี 2559 มีโอกาสรู้จักกับทีมงานแพคริม ซึ่งได้ช่วยนำกระบวนการ Leader in Me ที่พัฒนาจากหลักการ 7 อุปนิสัยมาใช้พัฒนาโรงเรียนทั้งระบบ ทำให้เป้าหมายของโรงเรียนเป็นเป้าหมายของนักเรียน จนทำให้ความสำเร็จของนักเรียนแต่ละคนรวมกันเป็นความสำเร็จของห้องเรียนแต่ละห้อง และที่สุดก็รวมกันเป็นความสำเร็จของโรงเรียน

“ตั้งแต่ที่เราพัฒนามา 4-5 ปี วันนี้ ผอ.มาร่วมงานได้ แม้โรงเรียนจะโดนน้ำท่วม โรงเรียนของเราอยู่ติดริมแม่น้ำปิง แต่เพราะความไว้วางใจ ที่สำคัญ เรามีทีมคุณครูและเด็ก ๆ ที่มีความเป็นผู้นำ”

“ภาคินัย สุนทรวิภาต” ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตบางนากล่าวว่า เมื่อโลกมีการเปลี่ยนแปลง โรงเรียน ครู และนักเรียนจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน โดยโรงเรียนต้องแสดงให้เห็นและกล้าเปลี่ยน เพราะเด็กที่เข้ามาเรียนไม่ได้เรียนเพื่อวันนี้ แต่เพื่ออนาคตของพวกเขาในอีก 12 ปี หรือ 18 ปีข้างหน้า


นับว่าน่าสนใจทีเดียว