โตโยต้า ลดเมืองร้อน ด้วยมือเรา ขยายความรู้สิ่งแวดล้อมสู่เมืองสีเขียวที่ยั่งยืน

“บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ประเทศไทย จำกัด” ร่วมกับ “มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย” จัดงาน “วันลดเมืองร้อน ด้วยมือเรา” เพื่อมอบถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และโล่ประกาศเกียรติคุณแก่โรงเรียน ชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดโครงการด้านสิ่งแวดล้อมภายใต้กิจกรรม “ลดเมืองร้อน ด้วยมือเรา” พร้อมทั้งส่งมอบองค์ความรู้ในการใช้ชีวิตแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการจัดนิทรรศการจาก 20 โรงเรียน และ 20 ชุมชนทั่วประเทศ ที่เข้าร่วมกิจกรรม

กิจกรรมลดเมืองร้อน ด้วยมือเรา เป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้โครงการ “โตโยต้าเมืองสีเขียว” ที่ได้ดำเนินงานอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2548 จากความร่วมมือกับมูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เพื่อสร้างจิตสำนึกให้สังคมไทยได้ตระหนักถึงปัญหาด้านภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน พร้อมทั้งแนวทางแก้ไข โดยการเปิดโอกาสให้โรงเรียน ชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากทั่วประเทศ จัดทำโครงการส่งเข้าประกวด เพื่อช่วยสนับสนุนการลดภาวะโลกร้อนภายในพื้นที่ของตน ภายใต้แนวทางในการทำกิจกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม 5 ด้าน ที่ประกอบด้วย การประหยัดพลังงานไฟฟ้า, การจัดการขยะ, การเดินทางอย่างยั่งยืน, การเพิ่มพื้นที่สีเขียว และการอนุรักษ์น้ำ

“สุรภูมิ อุดมวงศ์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ โตโยต้า มอเตอร์ประเทศไทย กล่าวว่า การดำเนินกิจกรรมลดเมืองร้อน ด้วยมือเรา ในครั้งที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่ 12 ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยมีผู้ให้ความสนใจส่งผลงานเข้าร่วมการประกวดถึง 286 โครงการ และได้ทำการคัดเลือกจนได้ผู้ชนะในโครงการ ทั้งในประเภทโรงเรียน และประเภทชุมชน รวมทั้งสิ้น 6 ทีม ที่ประกอบด้วย

ประเภทโรงเรียน

รางวัลชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้แก่ โรงเรียนกันตังพิทยากร อ.กันตัง จ.ตรัง “โครงการกันตังพิทยากร ลดเมืองร้อนด้วยมือเรา” ที่มีการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อลดเมืองร้อนในทุกด้าน มีเครือข่ายร่วมดำเนินการจนบรรลุเป้าหมายและโดดเด่นในด้านการจัดการขยะในหลากหลายมิติ

รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้แก่ โรงเรียนวชิรวิทย์ เชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ “โครงการวชิรวิทย์ ร่วมใจประหยัดพลังงาน” มุ่งเน้นในการลดการใช้ไฟฟ้าภายในโรงเรียน โดยกิจกรรมเด่นคือการจัดตารางเรียนให้สอดคล้องกับการปิดการใช้กระแสไฟฟ้าในห้องเรียน

รางวัลรองชนะเลิศอันดับสอง ได้แก่ โรงเรียนศรีโคตรบูรณ์ อ.เมือง จ.นครพนม “โครงการลดเมืองร้อน ด้วยมือเราชาวศรีโคตรบูรณ์” โดดเด่นในการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ในการลดภาวะโลกร้อนในแง่มุมต่างๆ

ประเภทชุมชน

ชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้แก่ ชุมชนบ้านม่อนแก้ว เทศบาลตำบลบ้านสาง อ.เมือง จ.พะเยา “โครงการชุมชนบ้านม่อนแก้วร่วมใจ ลดโลกร้อนด้วยวิถีพอเพียง เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน” เพื่อแก้ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมในชุมชน โดดเด่นในการจัดการขยะที่ครัวเรือนต้องจัดการด้วยตนเอง และการอนุรักษ์พื้นที่สีเขียวและแหล่งน้ำอย่างยั่งยืน

รองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ได้แก่ ชุมชนบ้านดอนแยง เทศบาลตำบลหงาว อ.เถิง จ.เชียงราย “โครงการลดขยะ ลดเมืองร้อนอย่างยั่งยืนที่ดอนแยง” ที่มุ่งเน้นในการลดขยะที่เกิดขึ้นในพื้นที่ให้เป็นศูนย์หรือเหลือน้อยที่สุด

รองชนะเลิศอันดับสอง ได้แก่ ชุมชนบ้านดงมะปินหวาน เทศบาลตำบลศรีเตี้ย อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน“โครงการดงมะปินหวานกินอยู่รู้ค่า เพิ่มป่าในบ้าน ให้ลูกหลานอยู่เย็นเป็นสุข” มุ่งเน้นการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ในการเพิ่มแหล่งอาหาร ลดขยะ และสร้างรายได้

อย่างไรก็ตาม สำหรับผลงานของทั้ง 6 ทีมที่ชนะการประกวดในปีที่ผ่านมา ถือว่ามีความโดดเด่นและสามารถดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยทางโตโยต้ายังได้นำผู้ชนะทั้ง 6 ทีม เดินทางไปศึกษาดูงานเพิ่มเติมที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา เพื่อเปิดประสบการณ์ความรู้ แนวความคิดสร้างสรรค์ ด้านนวัตกรรมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

ทั้งยังนำเอาองค์ความรู้ที่ได้กลับมาต่อยอดการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในพื้นที่ของตนในรูปแบบต่างๆ อาทิ การส่งเสริมการคัดแยกขยะแบ่งประเภทอย่างละเอียดเพื่อให้คัดแยกได้อย่างมีประสิทธิภาพ การลดการใช้ถังขยะเพื่อส่งเสริมให้เกิดการคัดแยกขยะในครัวเรือน การกำหนดวันเก็บขยะ การจัดทำข้อตกลงในการดูแลและอนุรักษ์พื้นที่สีเขียวในโรงเรียนและชุมชน

“สุรภูมิ” กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานวันลดเมืองร้อน ด้วยมือเราในครั้งนี้ นอกจากจะจัดขึ้นเพื่อมอบถ้วยรางวัลพระราชทานและโล่ประกาศเกียรติคุณให้แก่ผู้ชนะการประกวดในปีที่12 แล้ว ยังถือการเปิดตัวผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมแข่งขันกิจกรรมในปีที่ 13 อีกด้วย

พร้อมกันนี้ยังได้มีการนำเสนอถึงที่มา ตลอดจนการถ่ายทอดองค์ความรู้และแนวทางในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และ นิทรรศการโตโยต้าเมืองสีเขียว เพื่อเล่าถึงแนวคิดและข้อมูลการดำเนินกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญของโตโยต้า

ตลอดระยะเวลา 13 ปี ที่ดำเนินกิจกรรมมา โตโยต้าได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ และสนับสนุนงบประมาณให้แก่โรงเรียนทั้งสิ้น 286 แห่ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 225 แห่ง และชุมชนกว่า 140 แห่งทั่วประเทศ เกิดเป็นแผนงานกว่า 3,440 โครงการ ซึ่งสามารถช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้มากถึง 20,000 ตัน


โตโยต้ามีความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนความสุขสู่สังคมไทย ด้วยการเป็นองค์กรที่ดี มีจิตสำนึกรับผิดชอบและร่วมพัฒนาสังคมไทย พร้อมทั้งเผยแพร่องค์ความรู้ สร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้แก่สังคมไทยต่อไป โดยมีความคาดหวังว่าการจัดงานในครั้งนี้จะมีส่วนช่วยจุดประกายให้เกิดการนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะก่อให้เกิดการพัฒนาทางด้านสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นเมืองสีเขียว อย่างแท้จริงในอนาคต