ออมเพื่อให้ตามรอยพ่อ กระปุกทรงงานสร้างตึกนวมินทรฯ

ดั่งที่ทราบโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ (SiPH) ดำเนินโครงการ “ออมเพื่อให้ ตามรอยพ่อ” โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 3 สิงหาคม-20 ตุลาคม 2560

จนถึงวันนี้ปิดโครงการเป็นที่เรียบร้อยแล้วอย่างงดงามเพราะมีผู้สนใจเข้าโครงการออมเงินในกระปุกส่วนตัวเพื่อนำเงินออมมาแลกกระปุกที่ระลึกสัญลักษณ์อุปกรณ์ทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทั้งหมด 3 แบบ คือ กระปุกวิทยุสื่อสาร, กระปุกกล้องถ่ายภาพคู่พระหัตถ์ และกระปุกพระราชพาหนะทรงงาน เพื่อร่วมสมทบทุนสร้างอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา จำนวน 139,071 คน โดยมียอดกระปุกออมสินที่ส่งมอบไปแล้วทั้งสิ้น 297,137 กระปุก รวมเป็นเงินทั้งหมด 111 ล้านบาท

ที่ปัจจุบันมีการส่งมอบเงินดังกล่าวให้กับ “ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา” คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ เพื่อสมทบทุนสร้างอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษาอย่างที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้ว

สำหรับกระปุกที่ระลึกสัญลักษณ์อุปกรณ์ทรงงานที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือกระปุกพระราชพาหนะทรงงาน รองลงมาคือกระปุกกล้องถ่ายภาพคู่พระหัตถ์ และกระปุกวิทยุสื่อสารตามลำดับ

“ศาสตราจารย์คลินิกนายแพทย์ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ (SiPH) เล่าให้ฟังว่า ตอนที่คิดทำโครงการออมเพื่อให้ ตามรอยพ่อ เราต้องการปลูกฝังทัศนคติ การสร้างวินัยให้สังคมตระหนัก และเกิดการปฏิบัติตามเรื่องการออมตามรอยพระจริยวัตรของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมัยทรงพระเยาว์ ที่สมเด็จย่าทรงปลูกฝังให้พระธิดา และพระโอรสทรงสนพระทัยในเรื่องของการออมเงิน เพื่อนำเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

“ตรงนี้จึงเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์ในการทำกระปุกที่ระลึกสัญลักษณ์อุปกรณ์ทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งผ่านมาเราดำเนินโครงการผ่านหลายช่องทาง ทั้งการจองผ่านช่องทางออนไลน์ และการดำเนินการผ่านบูทกิจกรรมภายนอกโรงพยาบาล และภายในโรงพยาบาล ซึ่งถึงตอนนี้กระปุกทั้งหมดได้ส่งมอบให้กับผู้สนใจทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว”

“ผมต้องยอมรับว่าตอนที่เราเริ่มทำโครงการใหม่ ๆ รู้สึกหวั่น ๆ อยู่เหมือนกันว่าจะมีใครสนใจไหม เพราะตอนนั้นเราคิดทำเพียง 2 หมื่นกระปุกเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงกลับมีประชาชนสนใจอยากได้กระปุกที่ระลึกสัญลักษณ์อุปกรณ์ทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 จำนวนมาก พวกเขายอมต่อแถวยาวเหยียด คิวรอนานมาก โดยที่พวกเขาไม่บ่นสักคำ ตรงนี้เป็นสิ่งที่ผมประทับใจอย่างมาก”

“บางคนนำกระปุกเก่า ๆ เหรียญเก่า ๆ มาให้เรา แสดงว่าเขาไม่ใช่เพิ่งเก็บ แต่เขาเก็บมานานแล้ว แต่เขาอยากมีส่วนร่วมกับโครงการของเรา เพราะอย่างที่บอกโครงการนี้ชื่อออมเพื่อให้ตามรอยพ่อ ทั้งเรายังมีแนวทางในการทำกิจกรรมเพื่อสังคม เพื่อให้เกิดการปรับพฤติกรรม สร้างจิตสำนึกทางสังคม กระทั่งเกิดการแบ่งปันตามแนวทางของ SiPH ที่ต้องการเป็นผู้รับ และผู้ให้ไปในคราวเดียวกัน จึงทำให้เราพบว่ามีคนมากมายประมาณ 50% ที่นำกระปุกเก่า ๆ และเหรียญเก่า ๆ มาให้เรา”

“ศาสตราจารย์คลินิกนายแพทย์ประดิษฐ์” บอกว่าตรงนี้เป็นสิ่งที่ผมประทับใจอย่างมาก เพราะหมายความว่ากระปุก และเหรียญเก่า ๆ เขาต้องเก็บมาก่อนหน้านี้นานมาก ซึ่งเขาไม่ได้เอาไปทำอะไร แค่เก็บไว้เฉย ๆ แต่พอเรามีโครงการนี้ ปรากฏว่าพวกเขากลับนำสิ่งเหล่านี้มาให้เรา หรือบางคนไม่มีกระปุก แต่กลับนำเหรียญใหม่ ๆ ใส่ถุงมาให้เราก็มี เราจึงต้องมีน้ำใจกลับไปด้วยการให้กระปุกเขาเช่นกัน

“เพราะเขาต้องการทำความดีถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 อีกอย่างอาจเป็นเพราะกระปุกสัญลักษณ์ทรงงานของพระองค์เปรียบเสมือนเครื่องเตือนใจอย่างหนึ่งที่ทำให้ประชาชนคนไทยระลึกถึงพระจริยวัตรของพระองค์ท่าน หรือต้องการเห็นกระปุกสัญลักษณ์ทรงงานเพื่อบอกตัวเองว่าต่อไปเราจะต้องทำความดีอย่างที่พระองค์ท่านทรงทำมาตลอดพระชนม์ชีพ”

“ดังนั้น ตลอดการทำโครงการผ่านมา เราสังเกตเห็นว่าจะมีกลุ่มผู้ร่วมกิจกรรม 3 ประเภทด้วยกัน คือ กลุ่มที่ออมโดยนิสัย คนเหล่านี้จะหยอดกระปุกเป็นประจำ แต่อาจไม่มีวัตถุประสงค์ในการออมชัดเจน พอเรามีกิจกรรมนี้ พวกเขาจึงนำกระปุกที่เก็บไว้มาร่วมโครงการทันที ส่วนอีกกลุ่มเป็นพวกรับรู้ข่าวสารจากกิจกรรม พวกนี้จะตั้งเป้าหมายชัดเจน และจะออมตามช่วงเวลา พอถึงเวลาจะนำกระปุกมาให้เรา ซึ่งกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มครอบครัวที่พ่อแม่สอนให้ลูกรู้จักการออมเงิน”

“ส่วนกลุ่มสุดท้ายเป็นพวกไม่ได้เก็บออมผ่านกระปุก แต่มีความประสงค์จะเข้าร่วมโครงการ คนกลุ่มนี้ต้องการอยากได้กระปุกทรงงานเพื่อเป็นเครื่องเตือนใจตัวเองให้นึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 คนกลุ่มนี้มีมากอยู่พอสมควร แต่กระนั้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนก็ตาม ที่สุดเราปิดโครงการอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด จนทำให้เราคิดต่อว่าจากคอนเซ็ปต์ผู้รับ และผู้ให้ที่เราดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมตลอดมา จนถึงปี 2561 เราจะทำโครงการอะไรกันต่อ”

เพราะโครงการ “ออมเพื่อให้ ตามรอยพ่อ” ประสบความสำเร็จอย่างสูงที่สุดแล้ว

ดังนั้น จึงต้องติดตามกันต่อว่าในปี 2561 “SiPH” จะทำโครงการกิจกรรมเพื่อสังคมอะไรต่อไป แต่ทุกโครงการจะต้องอยู่บนคอนเซ็ปต์ของ “ผู้รับ” และ “ผู้ให้” ทั้งสิ้น