โตโยต้าเมืองสีเขียว ผุดศูนย์เรียนรู้ สวล.ที่อยุธยา

DCIM100MEDIADJI_0016.JPG

จากพันธสัญญาด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้า 2050 (Toyota Environmental Challenge 2050) ของบริษัทโตโยต้าทั่วโลกในการลดผลกระทบเชิงลบด้านสิ่งแวดล้อมให้เป็นศูนย์ และเพิ่มผลกระทบเชิงบวก เพื่อมุ่งไปสู่การพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน ด้วยเหตุนี้ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จึงมุ่งมั่นในการดำเนินงานในทุกกระบวนการอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

รวมถึงการเผยแพร่องค์ความรู้ สร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมแก่สังคมไทย ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้โครงการโตโยต้า เมืองสีเขียว เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เมืองสีเขียว เพื่อธรรมชาติ เพื่อทุกชีวิต สะท้อนการใช้ชีวิตในเมืองอย่างมีคุณภาพร่วมกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

โดยหนึ่งในกิจกรรมสำคัญของโตโยต้าเมืองสีเขียวคือการนำองค์ความรู้ในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้ามาประยุกต์ใช้ เพื่อพัฒนาสิ่งแวดล้อมของชุมชนเมือง ส่งเสริมให้คนในชุมชนท้องถิ่น และนักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างเป็นรูปธรรม โดยร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าและชุมชน ในการออกแบบกิจกรรมให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตของแต่ละพื้นที่ และที่ผ่านมาดำเนินการไปแล้ว 3 พื้นที่ ได้แก่ จังหวัดเชียงราย, กระบี่ และ อ.เชียงคาน จ.เลย

ล่าสุด บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมกับเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา, เรือนจำกลางพระนครศรีอยุธยา, สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดงานแนะนำโครงการโตโยต้าเมืองสีเขียว อยุธยา ซึ่งถือเป็นการสร้างศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมแห่งแรกนอกโรงงาน ภายใต้แนวคิดเพื่อธรรมชาติ เพื่อทุกชีวิต

“วุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า โครงการโตโยต้าเมืองสีเขียว อยุธยา ถือเป็นจังหวัดที่ 4 ที่โตโยต้านำองค์ความรู้ในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้ามาประยุกต์ใช้ ทั้งยังเป็นจังหวัดแรกที่ต่อยอดองค์ความรู้ โดยร่วมมือกับเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ในการบูรณะเรือนจำเก่า หน้าตลาดหัวรอ พื้นที่ขนาด 8 ไร่ ให้กลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมแห่งแรกนอกโรงงาน ต่อจากศูนย์การเรียนรู้ความหลากหลายทางชีวภาพและความยั่งยืน ชีวพนาเวศ ที่ในโรงงานโตโยต้าบ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา

“ด้วยการนำองค์ความรู้ด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม 5 ด้านของโตโยต้ามาประยุกต์ใช้ และนำเสนอเป็นแนวทางให้เกิดขึ้นภายในพื้นที่เมืองสีเขียว อันได้แก่ การเพิ่มพื้นที่สีเขียว (increasing green area), การจัดการขยะ (waste management), การอนุรักษ์น้ำ (water management), การลดการใช้พลังงานและการใช้พลังงานทางเลือก (renewable energy) และการเดินทางอย่างยั่งยืน (sustainable transportation)”

“ตอนนี้โครงการโตโยต้าเมืองสีเขียว อยุธยา กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 14 เดือน และมีกำหนดเสร็จสมบูรณ์พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน 2561 ซึ่งระหว่างการก่อสร้าง โตโยต้าจะเปิดพื้นที่บางส่วนสำหรับการจัดกิจกรรมร่วมกับคนในพื้นที่ อาทิ การจัดกิจกรรมออกกำลังกายในสวน การจัดตลาดขายสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมถึงการให้ชุมชนและนักเรียนมีส่วนร่วมในการพัฒนาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่แห่งนี้เพื่อปลูกฝังการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและหวงแหนพื้นที่ของชุมชน”

“วุฒิกร” กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ยังมีการเปิดตัวเยาวชนโตโยต้าเมืองสีเขียว โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ในการคัดสรรเยาวชนที่เป็นตัวแทนของ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อมาเรียนรู้การจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของโตโยต้า ทั้งยังทำหน้าที่เป็นผู้บรรยายองค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมในศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้แก่ชุมชนท้องถิ่น เพื่อเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่เยาวชนอย่างยั่งยืน

“การจัดโครงการโตโยต้าเมืองสีเขียว อยุธยา ครั้งนี้ เป็นความตั้งใจของโตโยต้าที่จะนำเสนอการใช้ชีวิตในเมืองอย่างมีคุณภาพ โดยอยู่ร่วมกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งยังเป็นแหล่งส่งเสริมการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมนอกห้องเรียนให้กับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ละแวกใกล้เคียงด้วย”

“สำหรับอนาคตต่อไป เราคาดหวังว่าสถานที่แห่งนี้จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเยี่ยมเยือน จ.พระนครศรีอยุธยา ตลอดจนสามารถจุดประกายให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมเกิดจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปสู่การลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง”

อันจะเป็นการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นเมืองสีเขียว เพื่อให้เกิดความยั่งยืนทางด้านสิ่งแวดล้อมต่อไป