“เอสซีจี” ชวนจิตอาสาสร้างบ้านปลา คืนความสมบูรณ์สู่ชายฝั่งทะเลตะวันออก

นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่ได้เห็นความร่วมมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติจากทุกภาคส่วน กับกิจกรรม “รักษ์น้ำ จากภูผา สู่มหานที… จิตอาสาสร้างบ้านปลาเอสซีจี” ที่ผู้จัดงานอย่างเอสซีจี ได้เชิญชวนจิตอาสาจากทั่วประเทศกว่า 900 คนมาร่วมประกอบสร้างบ้านปลาจำนวน 50 หลัง ก่อนจะนำไปวางใต้ทะเลบริเวณใกล้ชายฝั่งเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับสัตว์น้ำ ช่วยฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ให้กับทรัพยากรทางทะเล พร้อมกับยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวประมงพื้นบ้านอย่างยั่งยืน ณ สวนสาธารณะแหลมเจริญ จังหวัดระยอง

ที่ผ่านมาโครงการบ้านปลาเอสซีจีดำเนินมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 โดยเอสซีจีได้นำท่อ PE 100 ที่เหลือจากการขึ้นรูปสำหรับทดสอบเม็ดพลาสติกภายในโรงงานมาผลิตเป็นวัสดุสำหรับสร้างบ้านปลา ภายใต้แนวทางการนำสิ่งของเหลือใช้มารีไซเคิลให้เกิดประโยชน์ (Waste to Value) ตามหลักการ Circular Economy โดยท่อ PE100 ดังกล่าวได้รับการทดสอบแล้วว่ามีความแข็งแรง ทนทาน อายุการใช้งานยาวนานกว่า 50 ปี และไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม

“ชลณัฐ ญาณารณพ” กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี กล่าวว่า เอสซีจียึดมั่นในหลักการความรับผิดชอบต่อสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เราได้เข้ามามีบทบาทช่วยเหลือและสนับสนุนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำในหลายพื้นที่ของประเทศตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

สำหรับโครงการ ‘รักษ์น้ำ จากภูผา สู่มหานที’ ในจังหวัดระยอง เอสซีจีได้ร่วมมือกับภาครัฐและชุมชนเข้าไปสร้างฝายชะลอน้ำในพื้นที่เขายายดา และดำเนินการเรื่อยมาจนมาถึงโครงการบ้านปลาซึ่งอยู่ในพื้นที่ปลายน้ำ ปัจจุบันเอสซีจีและจิตอาสาได้ร่วมกันวางบ้านปลาไปแล้วทั้งหมด 1,400 หลัง เกิดเป็นพื้นที่อนุรักษ์กว่า 35 ตร.กม. ครอบคลุมพื้นที่ชายฝั่งในจังหวัดระยอง ชลบุรี และจันทบุรี

ชลณัฐ ญาณารณพ – ไมตรี รอดพ้น

“ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่เราดำเนินโครงการ ทรัพยากรทางทะเลบริเวณชายฝั่งมีความอุดมสมบูรณ์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดพบว่ามีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ในบริเวณที่วางบ้านปลาถึง 172 ชนิด อย่างไรก็ตาม กิจกรรมบ้านปลาของเราจะสำเร็จไม่ได้เลยหากไม่ได้รับความร่วมมือร่วมใจจากภาครัฐ กลุ่มประมงพื้นบ้าน ชุมชน และจิตอาสาจากทุกภาคส่วน ที่ช่วยกันปลูกฝังจิตสำนึกอนุรักษ์ และร่วมสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อทรัพยากรร่วมกัน”

“ไมตรี รอดพ้น” ประธานวิสาหกิจชุมชนชมรมประมงเรือเล็กพื้นบ้าน อ.เมือง และ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง กล่าวว่า เดิมทีประมงเรือเล็กชายฝั่งประสบปัญหาความลำบากในการจับสัตว์น้ำ ต้องออกเรือไปไกล 5-10 ไมล์ทะเล และใช้ต้นทุนในการออกเรือสูงกว่าจะได้จับปลากลับมาขาย

โดยบ้านปลาให้ประโยชน์แก่อาชีพประมงพื้นบ้านอย่างมากมายมหาศาล เพราะเป็นที่อยู่อาศัยให้กับสัตว์น้ำวัยอ่อน และเป็นแหล่งอาหารที่ดึงดูดสัตว์น้ำในบริเวณใกล้เคียงให้มาวนเวียนอยู่อาศัย เมื่อจำนวนพืชและสัตว์ทะเลที่อยู่ในบริเวณบ้านปลาชุกชุมขึ้น ชาวประมงเองก็มีรายได้มากขึ้น อีกทั้งไม่ต้องออกไปจับปลาไกลชายฝั่ง ไม่ต้องเสี่ยงชีวิตกับคลื่นลมทะเลในหน้ามรสุม

“ที่สำคัญที่สุดคือบ้านปลาไม่ได้เป็นแค่ที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลเท่านั้น แต่ยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยสานสัมพันธ์และความสามัคคีในกลุ่มประมง กระตุ้นจิตสำนึกหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ และส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและตั้งกติกาชุมชนร่วมกันในการดูแลบ้านปลาอย่างยั่งยืน”

“ส่วนลูกหลานก็มีความภาคภูมิใจในอาชีพและทรัพยากรทะเลชายฝั่งหน้าบ้านของพวกเขาที่ไม่มีวันหมด และหันกลับมาสืบทอดอาชีพประมงพื้นบ้าน ไม่ต้องออกไปหางานในเมือง”