“เคแบงก์” ลดต้นทุน-ร่นเวลา อัพเกรดคนด้วยคอร์สออนไลน์

เมื่อการอบรมพนักงานในรูปแบบห้องเรียน กลายเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและงบประมาณมาก หลายองค์กรจึงต้องหาเครื่องมือใหม่ ๆ มาใช้ อย่างเช่น ธนาคารกสิกรไทย ที่ปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 26,000 คน ทั้งยังต้องการพัฒนาพนักงานให้ก้าวทันเทคโนโลยี และมีความรู้ด้านดิจิทัลมากขึ้น จึงเลือกใช้รูปแบบการเรียนผ่านระบบออนไลน์ของ “SkillLane” สตาร์ตอัพเจ้าของ digital training platform ที่มีหลักสูตรการอบรมผ่านระบบออนไลน์มากกว่า 400 คอร์ส จนพนักงานสามารถเข้าถึงได้ด้วยโทรศัพท์มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ตลอด 24 ชั่วโมงตามความพร้อมของแต่ละคน

“ขัตติยา อินทรวิชัย” กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย กล่าวถึงเป้าหมายขององค์กรว่าต้องการเป็นผู้นำธุรกิจการเงินในภูมิภาคนี้ และสิ่งสำคัญที่จะพาองค์กรไปสู่เป้าหมายดังกล่าวก็คือ คน และคนในแบบของกสิกรไทยจะต้องเข้าถึงและเข้าใจเทคโนโลยีดิจิทัลต่าง ๆ โดยเฉพาะสำหรับคอร์สของ SkillLane ที่ทำให้เชื่อมั่นว่าจะสามารถเข้ามาช่วยเสริมทักษะและเพิ่มศักยภาพให้พนักงานของกสิกรไทยได้

• ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
• อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
• แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด

“เพราะเรามีผู้เชี่ยวชาญและพันธมิตรที่ซัพพอร์ตข้อมูลเนื้อหาที่ทันสมัยตลอดเวลา ที่สำคัญไม่ได้มีเพียงแค่คอร์สพัฒนาพนักงานเฉพาะในสายงานที่รับผิดชอบเท่านั้น แต่ยังมีคอร์สที่ให้ความรู้เรื่องของไลฟ์สไตล์ ซึ่งมองว่าจะช่วยทำให้พนักงานสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น นอกจากนี้ การเรียนผ่านระบบออนไลน์ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายการฝึกอบรมขององค์กรได้ถึง 10 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับรูปแบบเดิม ทั้งยังร่นระยะเวลาที่ใช้เพื่อการฝึกอบรมได้อีกด้วย เพราะภายหลังจากที่เริ่มดำเนินการในช่วง 2 เดือนผ่านมา ปรากฏว่ามีพนักงานเข้ามาเรียนผ่านระบบออนไลน์มากกว่า 10,000 ครั้ง ถือว่าเกินเป้าหมายที่วางไว้มาก”

“เรามีงบประมาณสำหรับการพัฒนาคนประมาณ 400-500 ล้านบาท ถือว่าไม่มากเมื่อเปรียบเทียบกับองค์กรอื่น ๆ เราไม่ต้องการให้พนักงานที่คุยกับลูกค้าได้แค่เรื่องโปรดักต์สินเชื่อของแบงก์เท่านั้น แต่เราต้องการคนที่คุยกับลูกค้าในเรื่องอื่น ๆ ที่อยู่ในความสนใจด้วย”

“นอกจากนี้ ในอนาคตเรายังมีแพลนว่าลูกค้าของเราจะไปที่ไหนก็จะมีกสิกรไทยตามไปให้บริการทุกที่ ฉะนั้น จึงอัพเกรดทักษะคนทำงานให้รองรับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ซึ่งแม้เราจะร่วมมือกับ SkillLane แล้ว แต่การฝึกอบรมยังมีทั้งรูปแบบของ classroom และ e-Learning ประมาณ 9 หลักสูตร/คน/ปี และการนำ digital learning platform เข้ามาเพิ่มเติมจะเป็นช่องทางการเรียนรู้ให้กับพนักงานอย่างไม่จำกัด โดยพนักงานบางคนอาจจะเรียนได้มากกว่า 100 คอร์สได้”

“ฐิติพงศ์ พิสิฐวุฒินันท์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มคอร์สเรียนออนไลน์SkillLane ระบุว่า สำหรับความร่วมมือกับกสิกรไทยจะมีทั้งเนื้อหาที่มาจากกสิกรไทยเอง แล้ว SkillLane จะนำมาปรับการนำเสนอใหม่ และส่วนที่เป็นเนื้อหาของ SkillLane ที่มาจากพันธมิตรมากกว่า 100 คน ทั้งในและต่างประเทศ เช่นทูมอร์โรว์ กรุ๊ป และครูเงาะ รสสุคนธ์”

“ทั้งนี้ สำหรับระยะเวลาในการเรียนอยู่ที่ 5 ชั่วโมง/คอร์ส และในแต่ละคอร์สยังออกแบบให้เป็นบทที่ใช้เวลาในการเรียนประมาณ 15 นาทีเท่านั้น เพราะก่อนหน้านี้ SkillLane สำรวจพบว่ามีคนทำงานที่ต้องการพัฒนาทักษะของตัวเองสูงถึง 97% แต่มีข้อจำกัดเรื่องเวลา เราจึงพัฒนาการเรียนผ่านระบบออนไลน์ที่สามารถเลือกเวลาเรียนเองผ่านโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ได้ นอกจากนี้ ยังสามารถเข้ามาเรียนซ้ำได้อีกด้วย”

นอกจากความร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยแล้ว SkillLane ยังมีความร่วมมือกับองค์กรอื่น ๆ อีกมาก เช่น กลุ่มบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเฉพาะบริษัทด้านพลังงานต่าง ๆ ที่ดำเนินธุรกิจน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ เนื่องจากบางบริษัทมีการขยายสถานีบริการน้ำมันอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากจะให้บริการน้ำมันแล้ว ยังมีธุรกิจเสริมอื่น ๆ เช่น ร้านสะดวกซื้อ และร้านกาแฟ จึงมีปัญหาในการฝึกอบรมพนักงานไม่ทันกับการขยาย

บริษัทเหล่านี้จึงหันมาใช้รูปแบบฝึกอบรมผ่านระบบออนไลน์ของ SkillLane ที่มีความเสถียร ปลอดภัย และใช้งานง่าย โดยฝ่าย HR สามารถตรวจสอบจากระบบได้ว่ามีพนักงานเข้ามาเรียนตามเป้าหมายหรือไม่ด้วย

“ฐิติพงศ์” กล่าวเสริมว่า เพราะคนเปลี่ยน โลกจึงเปลี่ยน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำตลาดในแต่ละปีของแต่ละองค์กรจะมีความแตกต่างกัน ทุกคนต้องเรียนรู้ตลอดเวลา ไม่ใช่แค่องค์ความรู้จะเปลี่ยนเท่านั้น แต่ความรู้ใหม่จะเกิดขึ้นอีกมากมาย อย่างเช่น การทำสตาร์ตอัพ และอื่น ๆ

“นอกจากนั้น ปีนี้เรายังได้ยินเรื่องของบล็อกเชนเพิ่มเติมมาอีก สิ่งเหล่านี้มีองค์ความรู้ที่เราต้องอัพเดตตัวเองเพื่อให้ทันโลกตลอดเวลา ที่สำคัญเนื้อหาของ SkillLane จะต้องครอบคลุมคนทำงานครบทุก generation ด้วย เพราะคอร์สของ SkillLane แบ่งออกเป็น 3 หมวด คือ 1) คอร์สสำหรับทักษะที่ใช้ในการทำงานทั่วไป 2) คอร์สสำหรับเพื่อใช้การทำงานเฉพาะทาง เช่น การตลาด และการเงิน ฯลฯ และ 3) คอร์สสำหรับไลฟ์สไตล์ เช่น การทำอาหาร ดนตรี กีฬา ที่พนักงานสามารถนำข้อมูลไปใช้ดูแลลูกค้า”

ฉะนั้น จึงกล่าวได้ว่าคอร์สของ SkillLane จะทำให้ต้นทุนการเรียนรู้ของพนักงานต่อหัวลดลง เพราะจากเดิมพนักงานเคยเรียนอยู่ที่ 4-5 เรื่อง/ปี แต่หากนำเอาการเรียนด้วยระบบออนไลน์มาใช้ จะทำให้ผู้เรียนมีประสิทธิภาพการเรียนถึง 100 เรื่อง/ปี