บัญชุสา พุทธพรมงคล “ความสำเร็จเกิดจากการสร้างทีม”

แม้จะทราบลึก ๆ อยู่ว่าวันหนึ่งคงต้องมาช่วยธุรกิจของครอบครัว แต่กระนั้น ไม้ต่อธุรกิจแทบทุกคนคงอยากที่จะหาประสบการณ์ข้างนอกก่อน อยากทำงานในสิ่งที่ตัวเองร่ำเรียนมา และอยากทำตามความฝันของตัวเอง

แต่กระนั้นจะมีสักกี่คนที่ทำเช่นนั้นได้ ?

“บัญชุสา พุทธพรมงคล”รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลด์สตาร์เมททอล จำกัด เองก็เช่นกัน เพราะหลังจากที่เธอเรียนจบปริญญาตรีทางด้านเศรษฐศาสตร์จาก University College London ประเทศอังกฤษ เธอเลือกทำงานกับองค์การอิสระที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ และการค้ามนุษย์ก่อนจากนั้นจึงผันตัวเองไปอยู่ห้องค้าหลักทรัพย์ให้กับธนาคารกสิกรไทย ก่อนที่จะไปหาประสบการณ์ใหม่ทางด้านธุรกิจที่ปรึกษา ทั้งนั้น เพราะระหว่างนั้น เธอไปเรียนปริญญาโททางด้านบริหารธุรกิจ และบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

จึงทำให้เธอเกิดมุมมองในเรื่องการบริหาร “คน”

เพียงแต่ขณะนั้นยังไม่ได้นำมาปรับใช้ เพราะธุรกิจครอบครัวของที่บ้านถูกผลกระทบของวิกฤตลดค่าเงินบาท เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2540 เธอจึงต้องเข้ามาช่วยเหลือที่บ้าน เนื่องจากก่อนหน้านั้น น้องสาวของเธอ คือ “ชญานี พินิจโสภณพรรณ” รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลด์สตาร์เมททอล จำกัด ในวันนี้มาช่วยเหลือที่บ้านก่อนแล้วทั้ง ๆ ที่เธอยังเรียนไม่จบ

“เมื่อก่อน คุณพ่อ (ประสิทธิ์ พินิจโสภณพรรณ) ทำธุรกิจอะลูมิเนียมแบบซื้อมาขายไป ก่อนที่จะผันตัวเองมาทำโรงงาน โดยทำกับหุ้นส่วน และตอนนั้นเราคิดว่าฝั่งของหุ้นส่วนมีลูกผู้ชายทั้งหมด เราคงไม่ต้องมายุ่ง แต่พอเกิดวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง หนี้สินเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ กอปรกับคุณพ่อไม่สบายด้วย ที่สำคัญ น้องสาวที่เข้ามาช่วยก่อนเริ่มจะไม่ไหว เพราะปัญหาเยอะมาก”

“เราจึงเข้ามาช่วย โดยมีหน้าที่หลัก ๆ คือไปส่งของ เก็บเช็คจากลูกค้าทุก ๆ วัน พูดง่าย ๆ คือทำอย่างไรถึงจะให้เหตุการณ์ครั้งนี้ผ่านไปให้ได้ ที่สุดก็ไม่มีสต๊อกสินค้าค้างอยู่ในโรงงานเลย ตอนนั้นเป็นอะไรที่ยุ่งมาก ๆ แต่เราสามารถทำให้ยอดหมุนลูกหนี้ ยอดคงค้างอะไรไม่มีเลย เพราะเราไม่เคยมองว่าเรื่องนี้เป็นปัญหา แต่มองว่าเป็นสิ่งที่เราต้องทำ”

“จนทำให้คิดมาถึงทุกวันนี้ว่า หากไม่มีวิกฤตครั้งนั้น คงทำให้เราเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อแน่ เพราะคุณพ่อ-คุณแม่ (พักตร์พิมล นิรันดร) ค่อนข้างตามใจ ไปเรียนเมืองนอกก็ให้เรียนโรงเรียนดี ๆ เงินก็ส่งไปให้ ทุกอย่างไม่มีอะไรเดือดร้อนเลย แต่พอเกิดวิกฤตกับที่บ้าน ชีวิตเปลี่ยนไปทุกอย่าง รถยนต์ก็ขายทิ้ง หันไปใช้รถเก่า ๆ แทน และรถยนต์คันนี้เราใช้วิ่งหมุนเงินทุกวัน จนทำให้เราเข้าใจปัญหาต่าง ๆ มากขึ้น”

สำคัญไปกว่านั้น ยังทำให้ “บัญชุสา” เริ่มเข้าใจในธุรกิจอะลูมิเนียมมากขึ้นด้วย เพราะทุกครั้งที่เธอออกไปพบลูกค้า ส่งของ เก็บเช็ค เธอมีโอกาสคุยกับลูกค้าทุกวัน เธอเริ่มมองเห็นแล้วว่า วิกฤตครั้งนี้น่าจะผ่านไปได้ไม่ยาก ซึ่งตรงกับความคิดของ “คุณพ่อ” และ “น้องสาว” ของเธอเช่นกัน

“ครอบครัวเราถือเป็น good mix หรือส่วนผสมที่ลงตัว เพราะคุณพ่อมีลูกค้าอยู่ในมือ น้องสาวก็เรียนทางด้านวิศวกร และเราเองเรียนทางด้านบริหารมา จึงทำให้เราแก้ปัญหาอย่างตรงจุด อีกอย่างอาจเป็นความเชื่อส่วนตัวด้วยที่ว่า เมื่อถึงจุดต่ำสุดแล้ว ทุกอย่างจะค่อย ๆ ดีขึ้น ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ”

“จนที่สุดยอดออร์เดอร์ผลิตสินค้าเริ่มเข้ามามากขึ้น จนชนกันบ้าง ทับซ้อนกันบ้าง ตรงนี้จึงทำให้เราหันมาให้ความสำคัญกับการวางระบบอย่างจริงจัง เพราะภายนอกเราเริ่มมีลูกค้ามากขึ้นแล้ว แต่ภายในเราต้องมาแก้ปัญหาทุกอย่างให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น ที่สำคัญ คุณแม่เตือนว่าคุณพ่อขายของเก่ง แต่ระบบบัญชีจะรั่ว เราจึงต้องเข้ามาแก้ไขตรงนี้ด้วย”

กระทั่งทุกอย่างผ่านไปด้วยดี

แต่กระนั้น การจะทำให้ธุรกิจเดินต่อไปในวันข้างหน้าอย่างยั่งยืนจะต้องสร้างองค์กรให้แข็งแรง ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เธอหันมามองเรื่องการสร้างแบรนด์ และเริ่มให้ความสำคัญกับ “คน” มากขึ้น

เพราะ “คน” ถือเป็น “สินทรัพย์” ที่สำคัญของบริษัท

“จริง ๆ เรื่องของการสร้างแบรนด์ต้องขอบคุณเอเย่นต์ของเราที่เป็นคนกระจายสินค้าให้ เพราะก่อนหน้านั้น เราผลิตเพื่อขายอย่างเดียว พอมียอดลูกค้าสั่งเพิ่ม เราพยายามหาของมาส่งให้ลูกค้า แต่ในตลาดอะลูมิเนียมมีคู่แข่งเยอะ ถ้าเราทำอย่างที่เคยทำ จะไม่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ เราจึงหันมาคิดเรื่องการพัฒนาสินค้าให้มากขึ้น ตรงนี้จึงเป็นเหตุผลที่เราเริ่มสร้างแบรนด์ขึ้นมา”

“เพราะผ่านมาเราเป็นผู้บุกเบิก และคิดค้นผลิตภัณฑ์ประตู หน้าต่างอะลูมิเนียมในตลาดมานานมาก แต่ไม่เคยสร้างแบรนด์เองเลย ดังนั้นเมื่อถึงเวลา เราจึงสร้างแบรนด์พรีเมียร์ขึ้นมา ทั้งยังนำระบบของยุโรปเข้ามาปรับใช้เป็นรายแรกด้วย เพราะทุกโรงงานประตู หน้าต่าง มีรูปแบบเหมือน ๆ กัน เราจึงต้องสร้างความแตกต่างในตลาด”

“แต่การจะทำเช่นนั้นให้ประสบความสำเร็จ เราต้องควบคุมสเป็ก หรือรายละเอียดต่าง ๆ ให้มีคุณภาพ ที่สำคัญ เราต้องพยายามหาคนที่จบเฉพาะทาง เพื่อมาช่วยต่อยอดผลิตภัณฑ์ในเรื่องของการควบคุมคุณภาพ และการทำงานให้ตรงตามสเป็กของลูกค้า โดยเฉพาะเรื่องของงานรีด”

“บัญชุสา” บอกว่า ในส่วนของการสร้าง “คน” จริง ๆ แล้วเป็นการเสริมส่งธุรกิจไปในทางเดียวกัน ซึ่งถือเป็นความโชคดีของเรื่องนี้ เพราะทักษะในการผลิตประตู หน้าต่างอะลูมิเนียมเป็นทักษะเฉพาะ ไม่มีโรงเรียนใด ๆ สอน ส่วนใหญ่จะถ่ายทอดมาจากบุคลากรรุ่นเก่า ๆ ดังนั้นที่บอกว่าโชคดี เพราะเราได้ลูกน้องเก่าของคุณพ่อเข้ามาช่วยตรงนี้ด้วย

“เราไปชักชวนด้วยตัวเอง แม้ตอนนี้เขาจะเกษียณไปแล้ว แต่ยังพบปะเจอะเจอกันอยู่เสมอ ดิฉันถือว่าแกมีบุญคุณ และมีความเมตตามากที่ให้วิชาความรู้ ทั้งยังช่วยสร้างทีมขึ้นมาอีกด้วย จนทำให้โรงงานของเรามีพนักงานที่มีคุณภาพ กระทั่งตอนหลังพวกเขาลงลึกไปถึงเรื่องโลหวิทยาแล้ว ก็ล้วนมาจากการสร้างทีมของแกทั้งสิ้น”

“ดิฉันจึงเชื่อว่าการสร้างทีมเป็นเรื่องสำคัญมาก และความสำเร็จของธุรกิจในวันนี้ ล้วนมาจากการสร้างทีมที่ดี เราจึงแบ่งทีมออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ หนึ่งสายปฏิบัติการที่มีโรงงาน ฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด และพัฒนาผลิตภัณฑ์ ส่วนนี้ถือว่ามีความสำคัญมาก แม้แรก ๆ จะใช้วิธี learning by doing แต่หลัง ๆ เราลงลึกมากขึ้น โดยเฉพาะในฝ่าย R&D เราจะให้ความสำคัญอย่างมาก ส่วนที่สอง คือ สายสนับสนุน ก็จะซัพพอร์ตส่วนแรกทั้งหมด เพื่อให้งานทั้งระบบเดินไปข้างหน้าอย่างไม่สะดุด”

“ปัจจุบันเรามีพนักงาน 530 กว่าคนในบริษัทแม่ที่ จ.สมุทรสาคร ขณะเดียวกัน เราก็ไปซื้อโรงงานอีก 1 แห่งที่นิคมอุตสาหกรรมนวนครที่ จ.ปทุมธานี โดยเราไปลงทุนกับหุ้นส่วนชาวไต้หวัน กับอีกส่วนหนึ่งเราไปลงทุนกับอีกหุ้นส่วน โดยตั้งโรงงานอยู่แถวพุทธมณฑลสาย 5 จ.นครปฐม รวม ๆ แล้วตอนนี้เรามีทั้งหมด 4 โรงงาน”

เพราะตอนหลัง “บัญชุสา” บอกว่า เราสร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมาอีกแบรนด์หนึ่ง คือ “AB & W Innovation” ซึ่ง “A” มาจากชื่อเล่นน้องสาว “ANT” ส่วน “B” มาจากชื่อเรา “บัญชุสา” จึงนำมารวมกันเพื่อสร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมา

“AB & W Innovation” ไม่เพียงจะเป็นประตู หน้าต่าง รุ่นใหม่ที่เสริมความหรูหราให้บ้านอย่างมีระดับ หากยังช่วยทำให้ไม่บดบังการมองวิว และทัศนียภาพรอบบ้าน เพราะมีการออกแบบให้มีความบาง ซึ่งเหมาะกับบ้านแบบโมเดิร์นลักเซอรี่เป็นอย่างมากที่ถึง ณ วันนี้ บริษัท โกลด์สตาร์เมททอล จำกัด ไม่เพียงจับตลาดเฉพาะในประเทศไทย หากยังขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศ CLMV สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลียอีกด้วย

ทั้งปัจจุบัน บริษัท โกลด์สตาร์เมททอล จำกัด ยังถือเป็น 1 ใน 5 ที่ครองส่วนแบ่งทางการตลาดของงานประตู หน้าต่างอะลูมิเนียมของโครงการบ้านจัดสรรชั้นนำต่าง ๆ อีกด้วย

ถามว่าความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นจากอะไร ?

“บัญชุสา” บอกว่า เกิดขึ้นจากทีมล้วน ๆ และอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ คุณพ่อ เพราะท่านเป็นพี่เลี้ยง (mentors) ที่ดีมาก บางทีเราอาจท้อบ้าง เหนื่อยบ้าง แต่พอเวลาไปคุยกับแก กลับมีพลังบวกกลับคืนมา ทั้ง ๆ ที่แกไม่ได้พูดอะไรมากเลย และแกก็ไม่ได้บอกด้วยว่าจะต้องทำอะไร

“คุณพ่อชอบพูดเสมอว่า ทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมดา มีปัญหาค่อย ๆ แก้กันไป และแกก็ปล่อยให้เราทำมาตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ร่วม 20-21 ปีแล้ว โดยมีเรากับน้องสาวช่วยกันบริหารงาน ส่วนคุณพ่อตอนนี้ไม่ค่อยได้เข้ามาแล้ว เพราะแกไปเป็นนายกสมาคมหมากรุกเซี่ยงฉีแห่งประเทศไทย แกชอบเรื่องนี้ ก็ถือเป็นความสุขอย่างหนึ่งของแก”

“ฉะนั้น ถ้าถามว่าเป้าหมายของบริษัทในยุคของเราจะเป็นอย่างไรต่อไป คงต้องตอบว่าเรามีแผนที่จะขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในอนาคต แม้ตอนนี้จะติดอยู่ 1 ใน 5 อันดับ โดยมียอดขายรวมประมาณ 1,500 ล้านบาท แต่เชื่อแน่ว่าอนาคตจะเติบโตมากกว่านี้”

“อีกส่วนหนึ่งอาจเพราะสไตล์การบริหารงานของเรา แม้อดีตจะเป็นคนชอบสั่งการ เพราะเราเข้ามาในช่วงวิกฤต จึงจำเป็นต้องทำอย่างนั้น แต่ตอนนี้สไตล์การบริหารต้องเปลี่ยน เราต้องทำงานเป็นทีม และเราเองในฐานะผู้บริหารต้องช่วยโค้ชเขาบางเรื่อง เพราะบางแอเรีย เขาย่อมรู้ดีกว่าเรา เนื่องจากเขาทำงานอยู่ตรงนั้น เราแค่เปิดโอกาสให้เขาคิด ทำ และแสดงออก ที่สุดเขาจะจุดประกายอะไรใหม่ ๆ ออกมา”

อันเป็นคำตอบของ “บัญชุสา” ที่เชื่อมั่นตลอดเวลาว่า “ทีม” เป็นสิ่งสำคัญ