วิกฤตภาวะผู้นำ

คอลัมน์ HR Corner

โดย กัลยา แก้วประเสริฐ บริษัท M.I.S.S. CONSULT 

 

คุณเคยรู้ไหมว่า…ผู้บริหารรุ่น baby boomer มีอัตราเฉลี่ยลาออกวันละ 10,000 รายทั่วโลก และภายในปี 2020 ผู้ทำงานเกือบ 50% จะเป็นกลุ่มเด็กรุ่นใหม่ หรือรุ่น millennial

63% ของผู้ทำงานรุ่น millennial เปลี่ยนงานบ่อย และสำหรับคนที่ตัดสินใจทำงานที่เดิมมากกว่า 91% วางแผนจะอยู่ที่เดิมไม่เกิน 3 ปี ส่งผลทำให้ภายในปี 2025 องค์กรต่าง ๆ จะประสบปัญหาขาดผู้ทำงานที่มีความสามารถในการแข่งขัน

56% ขององค์กรยังไม่มีการเตรียมความพร้อมในการสร้างสภาวะผู้นำที่ตอบสนองต่อความต้องการขององค์กรอย่างแท้จริง (พบว่า มีเพียง 7% ที่มีโปรแกรมการพัฒนาสภาวะผู้นำของผู้ทำงานอย่างเป็นรูปธรรม)

83% ขององค์กรเห็นความสำคัญของการพัฒนาสภาวะผู้นำ และใช้เงินเพื่อการพัฒนาด้านโปรแกรมการสร้างสภาวะผู้นำ หากพบว่ามีเพียง 5% ที่มีการลงทุนพัฒนาทุกระดับ ขณะที่เหลือเลือกพัฒนาเฉพาะตำแหน่งบริหารระดับสูง ซึ่งสรุปโดยภาพรวมพบว่า จาก 83%

ดังกล่าว ปรากฏผล 71% ขององค์กรยังคงล้มเหลวต่อการสร้างผู้นำตามที่ต้องการ (อ้างอิง Washington Post ในปี 2014 และผลสำรวจของ Deloitte-Global Human Capital Trends 2016)

นักสำรวจ 2 ท่าน คือ “Marrison” and “Black” ได้สำรวจความสำเร็จในการสร้างสภาวะผู้นำระดับโลก และมีการเขียนลงในหนังสือชื่อ The Global Leadership Challenge ซึ่งเป็นข้อมูลเชิงผลสำรวจที่เก็บมามากกว่า 20 ปี มากกว่า 100 องค์กร พบผลที่น่าสนใจ ดังนี้

หนึ่ง พบว่ามีเพียง 18% ขององค์กรเท่านั้นที่มีสภาวะผู้นำระดับโลกที่มีความพร้อมและประสิทธิภาพอย่างแท้จริง

สอง 82% ขององค์กรยังคงเป็นผู้ทำงานที่ขาดศักยภาพสภาวะผู้นำระดับโลก เพื่อตอบสนองต่อการทำงานที่แข่งขันปัจจุบัน และอนาคต

ทั้งนนั้นเพราะมี 4 เหตุผลสำคัญที่ทำให้เกิดการขาดแคลนสภาวะผู้นำที่สร้างการแข่งขัน (ที่มีมากถึง 82%) ดังนี้

หนึ่ง ตลาดการทำงาน เกิดความต้องการผู้ทำงานที่มีสภาวะผู้นำระดับโลกมากขึ้น และรวดเร็ว (การถูกซื้อตัวทำได้ง่ายขึ้น)

สอง ผู้ทำงานที่มีสภาวะผู้นำระดับโลกส่วนใหญ่ถูกส่งไปยังตลาดกำลังพัฒนาเพื่อสร้างการแข่งขันได้

สาม ความล้มเหลวขององค์กรในการสร้าง และวิเคราะห์คุณสมบัติที่ต้องมีของผู้นำในองค์กรตนเอง ทำให้พัฒนาผู้นำแบบไม่มีแบบแผน หรือพัฒนาตามกระแส ขาดความเข้าใจ

สี่ ตัวผู้ทำงาน หรือผู้บริหารที่ส่วนใหญ่ไม่ชอบการเรียนรู้ ไม่ให้เวลาต่อการฝึกอบรม การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการสร้างสภาวะผู้นำ ตลอดทั้งขาดแรงกระตุ้นจูงใจที่มีประสิทธิภาพ

ลองจินตนาการถึงองค์กรของคุณที่มีโปรแกรมการพัฒนาที่ตอบสนองต่อการสร้างสภาวะผู้นำระดับโลก ที่พร้อมต่อการแข่งขัน ผู้ทำงานที่ไม่ได้เก่งเพียงความเชี่ยวชาญในงาน หากแต่เก่งในเรื่องคน ธุรกิจ พร้อมตอบรับต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างกระตือรือร้น ขยันทุ่มเทต่อการทำงานแบบมืออาชีพ ซื่อสัตย์ และสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวของคนในองค์กร เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนที่แท้จริง หากทำได้ย่อมเป็นเรื่องที่ดีอย่างยอดเยี่ยม

“John Wiley and Sons” ได้ทำการสำรวจสภาวะผู้นำระดับโลก ครอบคลุม และอ้างอิงกับทฤษฎีเกี่ยวกับผู้นำที่ได้รับการยอมรับมากกว่า 300 หัวเรื่อง กับองค์กรทั่วโลกมากกว่า 150 องค์กร เปรียบเทียบกับแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดของกรณีศึกษาทั่วโลก ทำให้เกิดการพัฒนา โปรแกรม Work of Leaders สร้างสภาวะผู้นำระดับโลกที่มีศักยภาพสูงสุด ตามแนวทาง 3 ด้านสำคัญ ดังนี้

หนึ่ง Vision : วิสัยทัศน์ คือสิ่งสำคัญของผู้นำ และสภาวะผู้นำระดับโลก เกี่ยวข้องกับความสามารถทางการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นการมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนทำให้เกิดการร่วมมือ และแนวทางที่ชัดเจนเช่นกัน

สอง alignment : การสร้างแนวทาง แบบแผนให้เกิดความร่วมมือ เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้วิสัยทัศน์เกิดความเป็นจริง ความสามารถที่สำคัญของผู้นำระดับโลกที่จำเป็นต้องมีอย่างโดดเด่น เพื่อให้เกิดความเข้าใจ เห็นคุณค่าต่อวิสัยทัศน์ที่องค์กรกำหนด

สาม execution : รูปแบบ และแนวทางการลงมือปฏิบัติเพื่อให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ทำให้วิสัยทัศน์ส่งออกมาในเชิงผลการกระทำทางการปฏิบัติได้จริง และทำให้เกิดการปฏิบัติที่ตอบสนองต่อความสำเร็จที่ต้องการ

โปรแกรม Work of Leaders มีขั้นตอนการเรียนรู้เพื่อสร้างสภาวะผู้นำระดับโลกให้เกิดขึ้นอย่างโดดเด่น และส่งต่อผลความสำเร็จที่วัดประเมินได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยใช้เครื่องมือ EverythingDiSC เพื่อทราบถึงลักษณะผู้นำ ณ ปัจจุบัน เปรียบเทียบกับสภาวะผู้นำระดับโลก สามารถเปรียบเทียบกันได้ผ่านระบบเทคโนโลยีออนไลน์โดยทันที

ทั้งยังสามารถวางแผนพัฒนาอย่างเป็นระบบ โดยเน้นการสร้าง vision, alignment และ execution ให้เกิดการปฏิบัติจริงในชีวิตของการทำงาน สร้างความเข้าใจรูปแบบผู้นำของแต่ละท่าน ทำให้เกิดการยอมรับ ส่งผลต่อความร่วมมือความเชื่อมั่นของแต่ละบุคคล อย่างเห็นผลสำเร็จ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม หรืออ่านหนังสือเชิงการทำสำรวจดังกล่าว สามารถหาอ่านได้ภายใต้ชื่อ “The Work of Leaders : How Vision, Alignment and Execution will change the way you lead” ซึ่งจะทำให้องค์กรเข้าใจภาพรวมของกระแสสภาวะผู้นำระดับโลกว่าเป็นอย่างไร ? และมีความสำคัญอย่างไร ?


ที่สำคัญ จะเป็นส่วนหนึ่งในการวางแผนพัฒนาสภาวะผู้นำขององค์กรอย่างตอบสนองต่อความต้องการขององค์กรในอนาคตอย่างแท้จริง