“adidas” For The Oceans กลยุทธ์การเติบโตที่ยั่งยืน

จากข้อมูลของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme-UNEP) ระบุว่า แต่ละปีทั่วโลกมีการใช้ถุงพลาสติกมากกว่า 5 แสนล้านใบ และจำนวนครึ่งหนึ่งของพลาสติกที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ผลิตเป็นพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง เช่น ช้อน, ส้อม, แก้วน้ำพลาสติก

เพราะแต่ละปีมีปริมาณขยะพลาสติกกว่า 13 ล้านตันที่ไหลลงสู่ทะเล ที่สำคัญ ประเทศไทยยังติดอันดับ 6 จาก 10 ประเทศ ที่ทิ้งขยะพลาสติกในทะเลมากที่สุดของโลกตรงนี้จึงเกิดคำถามจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และคนในสังคมทั่วโลกว่าจะจัดการแก้ไขกับปัญหาดังกล่าวอย่างไร แม้ว่าที่ผ่านมาหลายหน่วยงาน หลายองค์กร ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ในเรื่องดังกล่าวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม แคมเปญการรณรงค์ในการลด-ละ-เลิกการใช้ถุงพลาสติก การคัดแยกขยะก่อนทิ้ง หรือการนำขยะมาเปลี่ยนเป็นข้าวของเครื่องใช้ และอื่น ๆ

เช่นเดียวกับ “อาดิดาส (adidas)” ที่ร่วมมือกับ “พาร์ลีย์ ฟอร์ ดิโอเชียนส์ (Parley for the Oceans)” องค์กรด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล ในปี 2547 เพื่อร่วมกันรณรงค์ และลดจำนวนขยะพลาสติกในท้องทะเล ด้วยการคิดค้นวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่นำเอาขยะพลาสติกในท้องทะเลมารีไซเคิล เพื่อเปลี่ยนเป็นวัตถุดิบในการผลิตอุปกรณ์กีฬา ภายใต้ชื่อ Parley Ocean Plastic?

ไม่เพียงเท่านี้ อาดิดาสยังจัดกิจกรรม “วิ่งเพื่อมหาสมุทร (Run For The Oceans)” ขึ้นในปี 2560 ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นพร้อมกันทั่วโลก เพื่อใช้พลังของกีฬาในการสร้างความตระหนักถึงปัญหาขยะพลาสติกในท้องทะเล ทั้งยังเป็นการแสดงพลังในการอนุรักษ์ และปกป้องท้องทะเล โดยเปิดโอกาสให้นักวิ่งทั่วโลกเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุด ด้วยการเก็บระยะทางผ่านแอปพลิเคชั่น Runtastic

ล่าสุดสำหรับปีนี้ อาดิดาสมีการจัดกิจกรรมวิ่งเพื่อมหาสมุทรพร้อมกันทั่วโลกอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งรวมถึงประเทศไทยที่จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นเป็นครั้งแรก เนื่องในวันมหาสมุทรโลก (World Oceans Day) โดยเชิญชวนนักวิ่งชาวไทยมาร่วมแสดงพลังแห่งการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล ด้วยการวิ่งบนชายหาดพร้อมเก็บขยะพลาสติกและอื่น ๆ ที่หาดเจ้าสำราญ จ.เพชรบุรี

“เทพฤทธิ์ ไรวินท์” ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาด บริษัท อาดิดาส (ประเทศไทย) กล่าวว่า สำหรับการจัดกิจกรรม Run For The Oceans ครั้งแรกของประเทศไทยครั้งนี้ถือเป็นการตอบรับเจตนารมณ์ของอาดิดาสทั่วโลกในการปกป้องท้องทะเลจากขยะพลาสติก โดยในส่วนของประเทศไทยต่างประสบปัญหาเกี่ยวกับขยะพลาสติกในท้องทะเลเช่นกัน

“เพราะอาดิดาสมีความเชื่อว่า กีฬามีพลังในการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งให้ดีขึ้นได้เสมอ รวมไปถึงทะเล และมหาสมุทร ที่ทุกคนต่างรู้ดีว่าปัญหาขยะพลาสติกกำลังทำลายสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิต และนี่จึงเป็นที่มาของความร่วมมือระดับโลกระหว่างอาดิดาส และองค์กรพาร์ลีย์ ฟอร์ ดิ โอเชียนส์ เพื่อมุ่งมั่นรณรงค์เรื่องของความสวยงามและความเปราะบางของท้องทะเล รวมไปถึงการกำจัดขยะพลาสติกในท้องทะเล”

“การจัดกิจกรรมในปีนี้ อาดิดาสขยายการจัดงานให้กว้างขวางมากขึ้น โดยมีการจัดกิจกรรมขึ้นในหัวเมืองใหญ่ ๆ ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงประเทศไทยที่มีการจัดกิจกรรม Run For The Oceans ในระยะทาง 5 กิโลเมตร ที่หาดเจ้าสำราญ จ.เพชรบุรี ซึ่งถือเป็นหนึ่งในชายหาดยอดนิยมของนักท่องเที่ยว โดยมีนักวิ่งจิตอาสา ทีมอาดิดาส รันเนอร์ส แบงค็อก และเซเลบริตี้ชื่อดังมาร่วมกันวิ่ง และเก็บขยะพลาสติก และขยะอื่น ๆ แม้ว่ากิจกรรมครั้งนี้จะเป็นจุดเล็ก ๆ แต่ผมเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นจิตสำนึก สร้างความรู้ สร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับผู้คนในสังคมได้”

นอกจากนั้นในปีนี้ อาดิดาสยังร่วมบริจาคเงินจำนวน 1 เหรียญสหรัฐ จากการวิ่ง 1 กิโลเมตร โดยเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 1 ล้านกิโลเมตร ผ่านการเก็บระยะวิ่งบนแอปพลิเคชั่นRuntastic เพื่อร่วมสนับสนุนโครงการ Parley Ocean School ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มุ่งเน้นให้ความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบของขยะพลาสติกในท้องทะเล พร้อมนำเสนอแนวคิด และร่วมสร้างแรงบันดาลใจในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่คนรุ่นใหม่ ซึ่งในตอนนี้ยอดสะสมระยะการวิ่งทะลุไปถึง 5 ล้านกิโลเมตรแล้ว

“เทพฤทธิ์” กล่าวอีกว่า ไม่เพียงแต่กิจกรรม Run For The Oceans ที่อาดิดาสมุ่งสร้างความตระหนักถึงปัญหาขยะพลาสติกในท้องทะเลให้กับผู้คนเท่านั้น แต่ในกระบวนการธุรกิจ อาดิดาสยังมีการปรับนโยบายให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์การลดขยะพลาสติกอย่างยั่งยืน โดยการงดใช้ถุงพลาสติกในร้านอาดิดาส ที่เริ่มมาตั้งแต่วันคุ้มครองโลกในปี 2559 ทั้งยังทยอยลดการใช้ขวดพลาสติกในกิจกรรมต่าง ๆ ของอาดิดาส

นอกจากนี้ในกระบวนการผลิตที่อาดิดาส ร่วมกับพาร์ลีย์ ฟอร์ ดิโอเชียนส์ ในการคิดค้นวิจัย และพัฒนานวัตกรรมที่นำขยะพลาสติกจากท้องทะเลมารีไซเคิล เพื่อเปลี่ยนเป็นวัตถุดิบในการผลิต โดยในปี 2559 อาดิดาสเริ่มใช้ Parley Ocean Plastic? ที่นำเอาขวดพลาสติกจากท้องทะเลมารีไซเคิล และแปลงสภาพเป็นเส้นใย เพื่อนำมาผลิตชุดกีฬาและรองเท้ากีฬา

ปัจจุบันรองเท้า adidas x Parley ผลิตออกมาในรุ่นต่าง ๆ และมีการวางจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง อาทิ UltraBoost, UltraBoost X, UltraBoost Laceless, UltraBoost Uncaged, Adizero Prime LTD และ adidas Original Deerupt โดยรองเท้า 1 คู่ จะใช้ขวดพลาสติกจากท้องทะเลในการผลิตประมาณ 11 ขวด

และล่าสุดมีการนำมาผลิตเป็นชุดกีฬาฟุตบอล อย่างเสื้อทีมสโมสร ชุดเหย้าของสโมสรเรอัล มาดริด และบาเยิร์น มิวนิกอีกด้วย

“จะเห็นได้ว่าเมื่อก่อน adidas x Parley จะมีแค่รองเท้า แต่ด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย และเปลี่ยนแปลงไป ทำให้สินค้าของอาดิดาสที่ผลิตจากขยะพลาสติกจากทะเลในปีนี้เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้ากีฬา รวมถึงยังเป็นส่วนหนึ่งของเสื้อแจ็กเกตอีกด้วย เพราะกระแสความนิยมของผู้บริโภคที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาดิดาสเองในฐานะผู้ผลิตจะต้องมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงโลก และเชื่อว่าต่อไปผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จะใช้นวัตกรรมพาร์ลีย์เพิ่มมากขึ้น จนกลายเป็นแมสสเกลมากขึ้น”

“อย่างปีที่ผ่านมา รองเท้า adidas x Parley เข้ามาไม่เยอะมาก แต่ตอนนี้สเกลถือว่าเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคเข้าใจเรื่องเหล่านี้เพิ่มขึ้น หรืออย่างกิจกรรม Run For The Oceans ที่เริ่มเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งไม่ได้เป็นแคมเปญที่ใหญ่มาก ทำให้การรับรู้ยังไม่เยอะ แต่ในปีนี้เพียงแค่ 1 เดือน มีคนวิ่งสะสมระยะทางไปแล้วกว่า 5 ล้านกิโลเมตร ตรงนี้สะท้อนให้เห็นพลังและกระแสของผู้คนที่สนใจเรื่องเหล่านี้”

“เทพฤทธิ์” กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากในการผลิต อาดิดาสยังให้ความสำคัญกับการลดใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างการใช้น้ำ โดยมีการใช้เทคโนโลยีแบบซีโรดราย ที่ไม่ได้ใช้น้ำในการย้อม จนทำให้สีออกมาเป็นธรรมชาติ ขณะที่ภายในองค์กรยังให้ความสำคัญกับการลดใช้พลาสติก โดยพนักงานทุกคนจะมีแก้วเป็นของตัวเอง และมีถุงผ้าแจกให้ใช้

“เรื่องการใส่ใจต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผมเชื่อว่ามีอิทธิพลกับคนรุ่นใหม่แน่นอน ซึ่งจะเห็นจากกระแสในปัจจุบัน แต่สิ่งที่จะต้องทำต่อไป คือ การสร้างความรู้ความเข้าให้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งจะสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกในวงกว้างได้ ที่สำคัญ จะต้องสร้างพฤติกรรมใหม่ให้กับผู้บริโภคโดยเฉพาะการเลือกใช้ถุงผ้า การใช้แก้วน้ำส่วนตัว ซึ่งต้องทำซ้ำ ๆ ให้เกิดความเคยชินจนติดเป็นนิสัย”

“อีกทั้งในช็อปของอาดิดาสเองรวมถึงพาร์ตเนอร์ของเรา ทั้งซูเปอร์สปอร์ต อาริ จะมีป้ายอธิบายบอกเล่าถึงสินค้า adidas x Parley และพนักงานจะอธิบายคุณสมบัติการผลิตแตกต่างจากทั่วไปอย่างไร รวมถึงในช่องทางโซเชียลมีเดียจะมีการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และการสร้างจิตสำนึกในการร่วมกันปกป้องท้องทะเลจากขยะพลาสติก เพื่อให้ท้องทะเลปลอดขยะพลาสติกให้มากที่สุดเท่าจะทำได้”

อันถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของอาดิดาส