2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว ภาคต่อ “ก้าวคนละก้าว”

ภารกิจของโครงการ “ก้าวคนละก้าว” ยังไม่จบ ภาพของ “ตูน บอดี้สแลม” หรือ “อาทิวราห์ คงมาลัย” ที่วิ่งจากใต้คืออำเภอเบตง จังหวัดยะลาไปจดเหนือที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พร้อมทั้งขอรับเงิน

บริจาคเพื่อนำเงินไปช่วยเหลือ 11 โรงพยาบาลที่จบไปแล้วนั้น กำลังกลับมามีชีวิตอีกครั้งในรูปแบบ “ภาพยนตร์สารคดี” ที่ชื่อว่า “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” รวมความยาว 90 นาที เพื่อถ่ายทอดเบื้องหลังการวิ่งของตูนในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

เพราะตลอดระยะทางกว่า 2,215 กิโลเมตร มีเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย และเรื่องราวเหล่านั้นจะชักชวนให้ผู้สนใจมาเข้าชมฟรีตั้งแต่วันที่ 6-16 กันยายน 2561 โดยมีการขอรับเงินบริจาคจากผู้ชมเพื่อสมทบทุนในการสร้างอาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา โรงพยาบาลศิริราช

แม้จะมีผู้สนับสนุนหลักในการสร้างภาพยนตร์ครั้งนี้คือบริษัทคิง เพาเวอร์ จำกัด ส่วนผู้สร้างสรรค์ภาพยนตร์ครั้งนี้คือ บริษัท GDH ที่มี “เก้ง” จิระ มะลิกุล เป็นโปรดิวเซอร์ และมีผู้กำกับคือ “ไก่” ณฐพล บุญประกอบ ที่เชี่ยวชาญด้านภาพยนตร์สารคดีมาร่วมสร้างสรรค์ภาพยนตร์ในครั้งนี้โดยเฉพาะ”จิระ มะลิกุล” โปรดิวเซอร์บอกว่าในภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ จะได้เห็นเบื้องหลังการเตรียมตัว ระหว่างวิ่ง และหลังจากการวิ่งในแต่ละวันของตูนว่าเป็นอย่างไรรวมถึงเพลงที่ใช้ประกอบภาพยนตร์ครั้งนี้จะใช้เพลงของบอดี้สแลมทั้งหมด

“ต้องบอกว่านอกจากจะได้เห็นภาพพิเศษจากตูนแล้ว เพลงของบอดี้สแลมในทุกซีนต้องบอกว่าโดนกว่าทุกครั้งที่เคยฟังมา และใครที่มีความพร้อมพอก็อาจจะช่วยกันบริจาคเพื่อนำเงินไปสานต่อการสร้างอาคารเพื่อผู้ป่วยยากไร้ ซึ่งเป็นเป้าหมายในการทำภาพยนตร์ครั้งนี้”

“อาทิวราห์ คงมาลัย” กล่าวเสริมว่าเป้าหมายในการวิ่งในโครงการก้าวคนละก้าว นอกจากจะได้ช่วยเหลือโรงพยาบาลให้มีความพร้อมในการรักษาผู้ป่วย ซึ่งตัวผมเองก็ไม่รู้ว่าวันใดวันหนึ่งอาจจะเป็นคนในครอบครัว หรือแม้กระทั่งตัวผมเองที่อาจจะต้องเข้ามารักษาก็ได้ ผมจึงอยากให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่น ๆ ในการทำความดีต่อไป

“แม้ว่าในตอนแรกผมจะรู้สึกว่าภาพยนตร์ให้น้ำหนักมาที่ผมมากเกินไปจากที่ผมคาดหวังไว้ เพราะผมอยากให้ผู้ชมได้เห็นในมุมอื่น ๆ ที่เป็นส่วนต่าง ๆ ที่รวมแล้วออกมาเป็นโครงการก้าวคนละก้าวในวันนี้ การออกวิ่งครั้งนี้มีการวางแผนมาอย่างดีกว่าจะสรุปลงที่การวิ่งจากใต้ไปสู่เหนือ เราลองคำนวณเส้นทางอื่นด้วย เช่น จากตะวันออกมาตะวันตก และอื่น ๆ จะเป็นอย่างไร สุดท้ายก็เลือกเส้นทางจากใต้ขึ้นเหนือ ใช้เวลาประมาณ 55 วัน วันละ 5 เซต ที่ผมคิดว่าเราไหว”

สำหรับกำหนดการฉายภาพยนตร์และขอรับการบริจาคจะเริ่มอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 6-16 กันยายน 2561 นี้ ส่วนผู้ใดสนใจสามารถบริจาคได้ที่เคาน์เตอร์โรงภาพยนตร์ และโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาศิริราช 016-3-04556-7 กระแสรายวัน ชื่อบัญชี เพื่อการรักษาโรงพยาบาลผู้ป่วย อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา โรงพยาบาลศิริราช หรือผ่านคิวอาร์โค้ด ผ่าน mobile banking และ SMS บริจาคครั้งละ 10 บาท โดยพิมพ์ T แล้วตาม 454099 (เริ่มบริจาค SMS ได้ตั้งแต่วันนี้)