เดินหน้ามาแล้วถึง 14 ปี กับโครงการ “ฮอนด้า ซูเปอร์ ไอเดีย คอนเทสต์” (Honda Super Idea Contest) ของ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ในการทำหน้าที่จุดประกายความคิดใหม่ ๆ
และสร้างเป็นภาพบนกระดาษ จากความเชื่อมั่นของฮอนด้าที่ว่า ความรู้ทำให้เด็กฉลาด แต่ถ้ามีจินตนาการด้วย เด็กในวันนี้อาจจะกลายเป็นผู้สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ในอนาคต เหมือนอย่างที่อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังของโลก บอกไว้ว่า “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้”
โครงการดังกล่าว เริ่มมาตั้งแต่ปี 2005 คัดเลือกจากเด็กทั่วประเทศที่มีอายุไม่เกิน 12 ปี และศึกษาอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ส่งผลงานที่เกิดจากความคิดและจินตนาการแบบไม่มีผิดหรือถูก ออกแบบสิ่งประดิษฐ์ลงบนกระดาษ จินตนาการที่เข้าตา 30 คน จะได้เข้าร่วมค่ายเวิร์กช็อป “Honda Super Idea…Super Camp” ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ว่า “คิด(ส์) กระหึ่มนา จินตนาการวิถีไทย”
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
- สงกรานต์ 2567 ทางด่วนฟรี มอเตอร์เวย์ฟรี สายไหนบ้าง ฟรีถึงวันไหน
“พิทักษ์ พฤทธิสาริกร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า ความฝันและจินตนาการมีอยู่ในตัวของทุกคน ซึ่งหากได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนก็จะทำให้เกิดพลังแห่งการสร้างสรรค์ตามมาด้วย โดยในปีนี้โครงการฮอนด้า ซูเปอร์ ไอเดีย คอนเทสต์ ได้รับความสนใจอย่างมาก มีเด็กที่ส่งผลงานเข้าร่วมมากถึง 21,793 ผลงาน
ทางคณะกรรมการโครงการได้คัดเลือกผลงานรวม 100 ผลงาน ในรูปแบบคลิปวิดีโอ จากนั้นคัดเลือกเหลือเพียง 30 คน เพื่อร่วมกิจกรรมเวิร์กช็อป ในการเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่การแข่งขันรอบสุดท้าย เพื่อชิง
รางวัลโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมทุนการศึกษารวมมูลค่ากว่า 150,000 บาท รวมถึงโอกาสในการเดินทางไปทัศนศึกษา พร้อมนำเสนอผลงานที่ประเทศญี่ปุ่น
“สำหรับปีนี้เป็นปีแรกที่เราจัดค่ายเวิร์กช็อปแบบค้างคืน โดยสถานที่จัดเราเลือกบ้านครูธานี ซึ่งตรงกับแนวคิด คิด(ส์) กระหึ่มนา จินตนาการวิถีไทย เพราะเราอยากให้เด็ก ๆ ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในบรรยากาศความเป็นอยู่แบบวิถีไทย เพื่อเป็นแรงบันดาลใจสร้างสรรค์ผลงานสิ่งประดิษฐ์นำเสนอในการแข่งขันรอบ 6 คนสุดท้าย”
“พิทักษ์” ได้เล่าถึงกิจกรรมภายในค่ายครั้งนี้ว่า จะมีการสอนทักษะต่าง ๆ ผ่านกิจกรรมหลากหลาย ทั้งการสอนให้เด็ก ๆ ต่อยอดผลงานความคิดสร้างสรรค์ให้ออกมาเป็นสิ่งประดิษฐ์ รวมถึงเรียนรู้ทักษะการนำเสนอผลงาน การนำหลักวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้กับวิถีชีวิตไทยในห้องเรียนธรรมชาติ และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับรุ่นพี่ที่เข้าร่วมการแข่งขันในปีที่ผ่านมา
ด้าน “ธานี หอมชื่น” วิทยากรและเจ้าของศูนย์การเรียนรู้บ้านครูธานี กล่าวว่า ศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ตำบลบ่อเงิน อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ในอดีตตัวเองเป็นครูในเมือง แต่พบว่าเด็กไทยส่วนใหญ่ขาดทักษะการใช้ชีวิตตามวิถีไทย จึงกลับมาสร้างที่นา 25 ไร่ ให้กลายเป็นศูนย์เรียนรู้ เพื่อปลูกฝังเด็กให้รู้จักและสัมผัสประสบการณ์ในแบบวิถีชีวิตไทยสมัยโบราณ เช่น การทำนา การสีข้าว ตำข้าว ฝัดข้าว โม่ข้าว ขูดมะพร้าวด้วยกระต่ายขูดมะพร้าว ขี่ควาย นั่งเกวียน เก็บไข่ไก่ รวมไปจนถึงการปลูกผัก
“การเรียนรู้ในศูนย์เน้นรูปแบบการออกมาเล่น (active play) ที่ช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์และเปิดโลกจินตนาการเด็ก ๆ เพราะการเล่นจะช่วยดึงดูดความสนใจเด็ก และทำให้ไม่เบื่อ ซึ่งเด็กจะได้รับทั้งความสนุกสนานและเกิดการเรียนรู้โดยที่ไม่รู้ตัว โดยน้อง ๆ ของค่ายเวิร์กช็อป Honda Super Idea…Super Camp จะได้ใช้ชีวิตที่ศูนย์เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน เพื่อทำกิจกรรมการประดิษฐ์ของเล่นจากกะลามะพร้าว ทำให้ได้เรียนรู้เรื่องการหมุนของฟันเฟืองต่าง ๆ หรือกิจกรรมกีฬาสีในบ่อโคลน ทำให้ได้เรียนรู้เรื่องความสามัคคี จากการทำกิจกรรมเป็นทีมร่วมกับเพื่อน ๆ เป็นต้น”
ทั้งนี้ฮอนด้าเชื่อว่าทุกกิจกรรมภายในค่ายเวิร์กช็อป “Honda Super Idea…Super Camp 2018” จะช่วยเปิดโอกาสให้เด็กไทยได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ และมีแรงบันดาลใจในการสานต่อความฝันของตนเองให้เป็นจริง และฮอนด้ายังมองไกลไปถึงชนิดที่ว่า สิ่งที่เด็กคิดในวันนี้ อาจจะนำไปต่อยอดสร้างเป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ ในอนาคตอีกด้วย
