“ศุภชัย”เผย 3 สิ่งขับเคลื่อนสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน สำคัญที่สุดคือลดความเหลื่อมล้ำ

เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ และประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวเสวนาพิเศษ CSR 360 องศา ในหัวข้อ “รวมใจ นำไทยยั่งยืน” จัดโดย หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ว่า ซี.พี.เป็นบริษัทที่มีการลงทุนใน 19 ประเทศ และลงทุนในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก แต่ก็มีความเป็นห่วงว่า ประเทศไทยมีชุมชนกว่า 350,000 ชุมชน จะทำอย่างไรให้เกิดความเข้มเเข็งและเติบโตอย่างยั่งยืน โดยซี.พี.มองว่า นั่นคือ 3 สิ่งที่สำคัญ คือ 1.การสร้างคอร์แวลู (Core Value) ขององค์กรที่จะนำไปสู่การปฏิบัติ เช่น ศาสนาพุทธ มีศีล 5 ประกอบกับ ซี.พี.มีนโยบาย 6 คุณค่า และความสำคัญของผู้นำที่ไม่ใช่มีเพียง performance แต่ต้องมี value สร้างคุณค่าการพัฒนาบุคลากร ที่จะนำไปสู่การขับเคลื่อนตลาด และการสร้างนวัตกรรม (Innovation) เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

“ถ้าองค์กรไม่บริหารศักยภาพของคน ถ้าองค์กรไม่สร้างผู้นำที่มีศักยภาพ และมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ มีคุณธรรม ก็มีปัญหาอยู่ องค์กรนั้นคงไม่ยั่งยืน ถ้าผู้นำคิดแต่เรื่องระะสั้น เราก็มองว่าไม่ได้ ถ้าเราวัดตัวผู้นำ เราไม่ได้วัดในมิติของ performance แต่เราวัดในมิติของแวลูด้วยว่า แวลูที่จะทำให่้เกิดการทำงานเป็นทีม ทำให้เกิดการมองระยะยาว คำนึงถึงคุณประโยชน์ หรือที่มาร์เก็ตพีเพิล มองตลาดเป็นหลัก ผมมองว่ายุคนี้เป็นยุคของมาร์เก็ตพีเพิลอย่างแท้จริง” ศุภชัยกล่าว

โดยที่ผ่านมา ซี.พี.ได้จัดทำยุทธศาสตร์ความยั่งยืน 12 ด้านตามนโยบาย “Sustainability Policy” โดยให้ความสำคัญกับ 6 คุณค่าและคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศและประชาชนในประเทศที่เข้าไปลงทุนทำธุรกิจ ไม่ใช่เพียงหวังเฉพาะผลกำไรในการประกอบธุรกิจเท่านั้น

ขณะเดียวกัน สิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างความยั่งยืนนั้นจะต้องลดความเหลื่อมล้ำ รวมถึงสร้างบุคคลากรที่มีคุณภาพ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันขององค์กร ซึ่งทางซี.พี.ได้มีส่วนร่วมในการจัดทำโครงการประชารัฐ ตอบโจทย์การสร้างความยั่งยืนลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ทั้งการพัฒนาด้านการศึกษา สร้างวิชาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการให้เกษตรกรมีส่วนร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่อนำไปประกอบอาหารให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนกว่า 700 โรง สร้างอาชีพคนพิการ สร้างเศรษฐกิจระดับชุมชน ร่วมกับมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ

รวมทั้งคำนึงถึงการตรวจสอบย้อนกลับสินค้าที่ผลิตได้ (Traceability) และการรักษาสภาพแวดล้อม เช่น การรณรงค์หยุดกินปลาเล็ก โดย ซี.พี.จะดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิด ดังที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงตรัสว่า “หากมีความพอเพียงก็มีความสุขได้” และการทำธุรกิจต้องมีหลักแนวคิดตามศาสตร์พระราชา 3 ข้อ 1.”เข้าใจ” เนื้องาน 2.”เข้าถึง” ชุมชน และ 3.”พัฒนา” เรียนรู้ร่วมกันซึ่งกันและกัน และพัฒนาความยั่งยืนที่ยึดหลักที่ว่า จะทำอย่างไรที่จะทำให้เกิดความไว้วางใจต่อกันและอยู่ร่วมกันได้ นั่นคือเป้าหมายสูงสุด

นอกจากนี้เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังให้ความร่วมมือกับภาครัฐภายใต้นโยบายสานพลังประชารัฐซึ่งนับว่าเป็นมิติใหม่ที่จะร่วมกันลดความเหลื่อมล้ำ สร้างบุคลากร และพัฒนาศักยภาพ โดยได้เข้าไปพัฒนาด้านการศึกษา 4 ข้อ และให้โอกาสเยาวชนได้กล้าแสดงออกให้สร้างความมั่นใจในสังคม และลบล้างทัศนคติเดิมที่ว่า ผิดเป็นครู เพราะปัจจุบันในทางปฏิบัติครู อาจจะบอกหรือสอนในวิธีที่ผิดก็ย่อมได้ ซึ่งในข้อนี้อยากให้เรียนรู้จากความผิดพลาดเพื่อให้เกิดการพัฒนา จะทำให้เยาวชนมีความมั่นใจในศักยภาพมากกว่า

นายศุภชัย สรุปทิ้งท้ายว่า กุญแจสำคัญที่จะขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความยั่งยืนมาจากองค์ประกอบ 3 ส่วน ความรัก ความฝัน และความมั่นคง


“ถ้าเราเอาความกลัวหรือความเกลียดชังเป็นตัวนำ ความมั่นคงของสังคมจะไม่มีจริง ถ้าเป็นครอบครัวจะแตกเป็นเสี่ยง ถ้าเราเอาความกลัวหรือความเกลียดชังเป็นตัวนำ ความฝันของเราจะไม่มีทางให้เรามีความสุขได้เลย ดังนั้นผมถือว่ามันเป็นสัจธรรม เป็นเรื่องจริง ที่ถ้าเรามีตรงนี้เป็นตัวนำ เท่ากับเรามีเข็มทิศที่ถูกต้องเสมอ ไม่เพี้ยน เป็นจริงตามธรรมชาติของการอยู่ร่วมกันเป็นหมวดหมู่ ไม่ว่าเราจะเรียกว่าสังคมเศรษฐกิจ และความสมดุลกับสิ่งแวดล้อม ที่เราอยู่ก็จะเกิดความยั่งยืน”