“บิ๊กอู๋” รับ 14 ข้อเรียกร้องประมง ลั่น 1 เดือนได้ข้อยุติ ก่อนยื่น C188 30 ม.ค.62

“พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังเป็นประธานในการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาและทบทวนกฎหมายในกิจการประมง โดยมีผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน และผู้แทนสมาคมประมง 22 จังหวัดชายทะเล เข้าร่วมในครั้งนี้ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาถึงข้อเรียกร้องของสมาคมประมง 22 จังหวัดชายทะเล จำนวน 14 ข้อ ได้แก่

1) การจ่ายเงินเดือนผ่านตู้เอทีเอ็มซึ่งเป็นปัญหาและสร้างภาระให้กับนายจ้าง/ลูกจ้าง และการแก้ไขกฎหมายให้สามารถจ่ายค่าจ้างล่วงหน้าได้

2) นิยามของเรือประมงเพื่อยังชีพยังไม่ชัดเจน เรือประมงพื้นบ้านจะต้องถูกบังคับใช้ตามกฎหมายด้วยหรือไม่

3) การเปิดโอกาสให้สามารถซื้อประกันสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุขควบคู่กับประกันของภาคเอกชน ทดแทนการเข้าอยู่ในระบบประกันสังคม

4) อัตราการส่งเงินสมทบเข้ากองทุนเงินทดแทน และการเรียกเงินคืนจากกองทุนฯ กรณีลูกจ้างอยู่ไม่ครบปี

5) การจัดที่พักอาศัยบนเรือประมง จะบังคับใช้กับเรือต่อใหม่ที่มีดาดฟ้าและมีขนาด 300 ตันกรอสขึ้นไปเท่านั้น

6) แนวทางและประเภทเรือที่ต้องขอใบรับรองการตรวจสภาพเรือ

7) ความเหมาะสมเกี่ยวกับปริมาณและคุณภาพของอาหารและเครื่องดื่ม

8) การเปิดโอกาสให้บุคคลอายุ 16 ปีขึ้นไป สามารถฝึกงานในเรือประมงได้

9) การกำหนดเงื่อนไขการส่งตัวแรงงานกลับประเทศต้นทาง โดยเฉพาะกรณีที่ลูกจ้างเป็นฝ่ายผิด นายจ้างไม่ควรต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย

10) การนำเข้าแรงงานตาม MOU ใช้เวลานาน มีภาระค่าใช้จ่าย ขอให้ควบคุมปัญหาแรงงานต่างด้าวหลบหนีจากนายจ้า

11) แรงงานตรวจสุขภาพประจำปีอยู่แล้ว ไม่เห็นด้วยหากกระทรวงสาธารณสุขจะมีการเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มในการตรวจสายตา และการได้ยิน และขอให้จัดทำคู่มือ/แนวปฏิบัติในการส่งต่อผู้ป่วย

12) การนับชั่วโมงพักและการกำหนดชั่วโมงพักให้สอดคล้องกับสภาพการทำงานบนเรือประมงแต่ละประเภท

13) ขอให้แก้ไขความซ้ำซ้อนของกฎหมายเกี่ยวกับบัญชีรายชื่อลูกเรือ

และ 14) การกำหนดอัตรากำลังในเรือ ควรกำหนดเป็นอัตรากำลังขั้นสูงสุดที่สามารถออกไปทำการประมงได้

ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ตั้งคณะทำงานชุดเล็กขึ้นมาโดยได้มอบหมายให้ นายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานคณะทำงาน และให้ นายวิวัฒน์ จิระพันธุ์วานิช รองปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นเลขานุการ คณะทำงานชุดเล็กเพื่อประชุมพิจารณาตอบข้อเรียกร้องของสมาคมประมง 22 จังหวัดชายทะเลทั้ง 14 ข้อ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้แทนทุกกรมในสังกัดกระทรวงแรงงาน กรมประมง กรมเจ้าท่า กรมการแพทย์ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และผู้แทนสมาคมประมงจาก 22 จังหวัด ให้ได้ข้อสรุปเป็นรูปธรรมภายใน 1 เดือน ส่วนการยื่นรับรองอนุสัญญา C188 นั้น คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในปลายเดือนมกราคม 2562 นี้

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาตอบข้อเรียกร้องสมาคมประมงแล้ว มีเพียง 4 ข้อที่เพิ่มเติมมา เกี่ยวข้องกับอนุสัญญาฉบับที่ 188 ได้แก่ 1) การตรวจสุขภาพประจำปีของลูกจ้าง 2) การส่งแรงงานประมงกลับจากท่าเรือต่างประเทศ 3) การประกันสังคม และ 4) การปฏิบัติและการใช้บังคับที่จะต้องมีใบรับรองการตรวจเรือ สภาพความเป็นอยู่ และสภาพการทำงานบนเรือ

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!