พนักงานเกรด A

คอลัมน์ เอชอาร์ คอร์เนอร์

โดย อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา สลิงชอท กรุ๊ป

ที่ผ่านมาผมสอนทักษะการบริหารคนให้กับหัวหน้างาน และผู้บริหารจำนวนมาก สัจธรรมหนึ่งที่ได้เรียนรู้คือผู้นำไม่มีทางประสบความสำเร็จ หากขาดผู้ตามที่ดี ในบริบทการทำงาน ไม่ใช่ทุกคนจะมีโอกาสเป็นผู้นำ มีลูกทีมคอยติดสอยห้อยตาม แต่ทุกคนต้องทำหน้าที่ผู้ตาม เพราะไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก ตำแหน่งสูงแค่ไหน ต่างก็มีเจ้านายเสมอ

ดังนั้น การทำหน้าที่ผู้ตามให้ประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องเรียนรู้เคล็ดลับในการเป็นพนักงานเกรดเอ 10 ประการดังต่อไปนี้

1.รู้จักแยกแยะระหว่างสิทธิกับหน้าที่ – พนักงานทุกคนมีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็น จึงควรใช้สิทธิ์นี้ให้เต็มที่ ไม่ใช่นิ่ง ๆ เฉย ๆ ไม่ออกความเห็นอะไรเลย ในขณะเดียวกันพนักงานทุกคนก็มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามมติของที่ประชุมหรือนโยบายขององค์กร แม้ไม่เห็นด้วย หรือแนวทางนั้นอาจไม่สอดคล้องกับความคิดเห็นที่เสนอไปก็ตาม

2.จ้าง 500 ทำ 5,000 – ทำงานให้เกินความคาดหวัง ทำให้มากกว่าหน้าที่ที่กำหนดไว้ใน job description…คนที่ไม่ประสบความสำเร็จ มักคิดว่า “ได้เงินแค่ไหน ก็ทำแค่นั้น ทำมาก ๆ ก็ไม่ได้อะไรเพิ่ม ทำไปทำไม” ส่วนคนที่ประสบความสำเร็จคิดตรงกันข้าม

3.ทำตัวให้เด่นและเป็นคนดี – โบราณบอก จงทำดี แต่อย่าเด่น จะเป็นภัย แต่ผมเห็นตรงกันข้าม ผมว่าต้องเด่นและดีไปพร้อม ๆ กัน…คำว่าเด่นแปลว่าโดดเด่น (ภาษาอังกฤษใช้คำว่า outstanding ซึ่งมาจากคำว่า standing out หมายถึงยืนให้เด่นกว่าคนอื่น) ไม่ใช่หมายถึงการอวดเด่นหรืออวดเก่ง

4.หิวกระหายการเรียนรู้ – ทำตัวเป็นคนน้ำไม่เต็มแก้ว สนใจใฝ่เรียนรู้อยู่เสมอ ท่องให้ขึ้นใจ การเรียนไม่มีวันจบ ที่สำคัญต้องจดบันทึกสิ่งที่ได้เรียนไป จะได้ไม่ต้องถามซ้ำถามซากบ่อย ๆ การลงมือทำ และการสอนคนอื่น ก็เป็นอีกแนวทางในการเรียนรู้ด้วยเช่นกัน จงหมั่นทำอย่างสม่ำเสมอ

5.ฝากตัวกับพี่เลี้ยง – หาใครสักคนที่มีประสบการณ์มากกว่า อาวุโสกว่า และที่สำคัญเป็นคนที่เราศรัทธายกย่อง ฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์เพื่อขอคำแนะนำเรื่องทั่ว ๆ ไปในองค์กร เช่นการวางตัวอย่างไรให้เหมาะสม การวางแผนความก้าวหน้าในชีวิต เป็นต้น

6.ขันอาสาโดยไม่ต้องรอให้ร้องขอ – หากมีงานใหม่ ๆ ที่ยังไม่มีใครรับผิดชอบ รีบอาสาขอช่วยทำ อย่าเพิ่งไปคิดเรื่องเงินทอง หรือสิ่งตอบแทน ให้คิดซะว่าเป็นการสะสมบุญเก่าเอาไว้ใช้ในโอกาสข้างหน้า คนทำงานที่มีอายุงานเท่ากัน ไม่ได้หมายความว่ามีประสบการณ์เท่ากันเสมอไป เช่น คนที่ทำงานมา 5 ปี อาจมีประสบการณ์เท่ากับคนทำงาน 2 ปีก็เป็นไปได้ เพราะอีก 3 ปีที่เหลือทำงานซ้ำ ๆ แบบเดิม ๆ ไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติม

ในทางกลับกัน คนที่ทำงาน 3 ปี อาจมีประสบการณ์เท่ากับคนทำงาน 5 ปีก็ได้เช่นกัน เพราะเป็น 3 ปีที่ได้เรียนรู้มากมาย เป็นต้น

7.รักษาคำพูด – ระมัดระวัง อย่ารับปากซี้ซั้ว เมื่อรับคำแล้วต้องทำให้ได้ตามที่พูดไว้ เช่น บอกว่าพรุ่งนี้จะส่งงาน ก็ต้องส่งตามกำหนดเวลาที่ได้ตกลงกันไว้ ไม่ต้องให้ทวงถามหรือติดตามอีก หรือถ้าบอกว่าจะมาเข้าร่วมประชุม ก็ต้องมาตรงเวลา ไม่ควรให้ใครต้องโทร.ตามอีก เป็นต้น

8.อย่าพูดให้ร้ายหัวหน้าหรือองค์กร – หน้าต่างมีหู ประตูมีตา อย่าคิดว่า เขาไม่รู้ หากไม่ชอบนายหรือไม่สบอารมณ์กับนโยบายบางอย่างขององค์กร อย่าใช้วิธีการพูดลับหลัง ถ้าอยากพูด ให้หาจังหวะและโอกาสดี ๆ พูดคุยกันตรง ๆ ด้วยเหตุและผล (อย่าลืมนำกฎข้อที่ 1 มาใช้ด้วย) แต่หากคิดว่าไม่พูดดีกว่า ก็ไม่ต้องพูดเลย…ไม่ใช่ถึงเวลาให้พูด ไม่พูด แต่พอลับหลัง เอาไปด่าซะยับ แบบนี้รับรองไม่เจริญ

9.รักงานที่ทำและทำงานด้วยใจรัก – หากไม่สามารถหางานที่รักทำได้ ก็ต้องเรียนรู้ที่จะรักงานที่ทำอยู่ ถ้าทำทั้ง ๆ ที่ไม่รัก ทำแบบแกน ๆ ขอให้ผ่านไปวัน ๆ รับรองไม่มีทางประสบความสำเร็จ เพราะฉะนั้นถือคติง่าย ๆ ถ้าไม่ได้ทำงานที่รัก ก็ต้องรักงานที่ทำ…แค่นั้น

10.กล้าแย้งกล้าปฏิเสธ อย่าทำตัวเป็น yes man – การเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องมีจุดยืนที่ชัดเจน อะไรได้ก็บอกว่าได้ อะไรไม่ได้ก็ต้องบอกว่าไม่ได้ ไม่ใช่เป็นไม้หลักปักขี้เลน โอนไปเอียงมา ตามกระแสไปเรื่อยเปื่อย การปฏิเสธคนไม่เป็น ถือเป็นจุดอ่อนร้ายแรงที่ต้องเร่งแก้ไข

หวังว่าไม่น่ายากเกินไป ลองฝึกฝนดู