ซีพี ออลล์ เดินหน้าธรรมสู่เยาวชน จัด ‘เรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ’ สัญจรปี 2560

บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เดินหน้าโครงการเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ สัญจร “ธรรมสู่เยาวชน” ปี 2560 พร้อมจัดบรรยายธรรมภายใต้หัวข้อ “สถาบันครอบครัวกับเยาวชนในยุคดิจิทัล” มุ่งเน้นให้เยาวชนได้เรียนรู้หลักธรรมคำสั่งสอนทางพระพุทธศาสนา ตลอดจนนำคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปปฏิบัติในการดำรงชีวิต ต่อครอบครัว รวมถึงการทำงานในอนาคต

“ธานินทร์ บูรณมานิต” กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น กล่าวว่า เยาวชนในยุคดิจิทัลเติบโตมาท่ามกลางความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เยาวชนจะต้องมีภูมิคุ้มกันที่ดี

การสร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชนเติบโตอย่างเข้มแข็งในสังคม ตลอดจนประสบความสำเร็จในอนาคต สามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่ครอบครัวและตัวเยาวชนเอง โดยครอบครัวต้องปลูกฝังเรื่องคุณธรรม – จริยธรรม ให้ตั้งแต่ในวัยเยาว์ ตลอดจนตัวเยาวชนหากนำธรรมะมาปรับใช้ในการดำรงชีวิตก็ช่วยทำให้มีจิตใจพื้นฐานที่โอบอ้อมอารี มีเมตตากรุณา และมีคุณธรรม ย่อมส่งผลให้เด็กและเยาวชนมีพื้นฐานที่เป็นคนดี

โดยบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) มองเห็นความสำคัญและตระหนักถึงในเรื่องดังกล่าว ตลอดจนเชื่อว่าการที่จะสร้างคนดี คนเก่ง ให้ประสบความสำเร็จได้ต้องส่งเสริมด้านจริยธรรมและคุณธรรมควบคู่กันไปด้วยถึงจะเหมาะสม ด้วยเหตุนี้จึงได้จัดตั้งโครงการเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ สัญจร “ธรรมสู่เยาวชน”

กิจกรรมบรรยายธรรมะให้แก่นักเรียนระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษาทั่วประเทศ เพื่อเป็นการขยายโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้หลักธรรมคำสั่งสอนทางพระพุทธศาสนา ตลอดจนนำคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปปฏิบัติในการดำรงชีวิต ต่อครอบครัว รวมถึงการทำงานในอนาคต

“ล่าสุดได้ยกโครงการเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ สัญจร ไปยังโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ภายใต้หัวข้อ สถาบันครอบครัวกับเยาวชนในยุคดิจิทัล โดยนิมนต์ พระครูปลัดสุวัฒนวชิรคุณ (วีรพล) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดยานนาวา มาบรรยายธรรมให้แก่เด็กเรียนกว่า 500 คน เพื่อมุ่งเน้นให้เยาวชนในยุคดิจิทัลเข้าใจตนเอง และการปฎิบัติตนต่อสถาบันครอบครัวมากขึ้น ตลอดจนนำหลักธรรมะที่ได้รับไปปรับใช้กับชีวิตให้เกิดประโยชน์สูงสุด”

“พระครูปลัดสุวัฒนวชิรคุณ (วีรพล)” กล่าวว่า การที่เยาวชนในยุคดิจิทัลจะมีคุณค่า รวมถึงประสบความสำเร็จได้ ต้องประกอบด้วย 3 คุณ ได้แก่ คุณวุฒิ คือต้องมีความรู้เฉพาะทาง ตามมาด้วย คุณภาพคือความสามารถที่มี เวลาจะทำอะไรก็ตาม ต้องทำอย่างตั้งใจและเต็มที่กับสิ่งที่ทำ สุดท้ายคือ คุณธรรม แม้จะเป็นคนที่มีคุณวุฒิ มีคุณภาพมากแค่ไหน แต่สุดท้ายไม่มีคุณธรรมในจิตใจควบคู่กันไปก็ไม่อาจทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จได้

“สอดคล้องกับหนึ่งในหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา คือโยนิโสมนสิการที่หมายถึงการคิดพิจารณาอย่างรอบคอบถี่ถ้วนโดยเยาวชนที่ถือเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต ต้องรู้จักการดําเนินชีวิตอย่าง มีสติ ปัญญา รู้เท่าทัน และสามารถแยกแยะสิ่งถูกผิด ไม่ว่าจะเป็นต่อตนเอง ครอบครัว สังคม สภาพแวดล้อม รวมทั้งเทคโนโลยีต่างๆหากสามารถปฎิบัติได้ก็จะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้ชีวิตได้พบเจอแต่สิ่งที่ดีงาม”

“นราวิชญ์ มโนมยางกูร” นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กล่าวว่า จากโครงการนี้ได้สอนให้ตนรู้จักการใช้โลกโซเชียลแบบมีสติ คือการใช้โลกออนไลน์แบบพอประมาณ แบ่งเวลาให้กับกิจกรรมต่างๆ มากกว่าการที่เราสนใจแต่โซเชียลออนไลน์อย่างเดียว

ไม่ว่าจะเป็นการทำการบ้าน รวมถึงทบทวนบทเรียน เพื่ออนาคตของตัวเราเอง ตลอดจนการทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ อย่างเช่นเตะฟุตบอล เพื่อสุขภาพ และการช่วยคุณพ่อ คุณแม่ ด้วยการช่วยงานบ้านที่เราสามารถทำได้ อย่างเช่นการกรอกน้ำเข้าตู้เย็น การกวาดบ้าน ถูบ้าน หรือซักถุงเท้าเอง เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองในการเลี้ยงดูเรามาด้วยความเหนื่อยยาก ก็จะทำให้ชีวิตมีแต่ความเจริญ