ผลักดันธุรกิจสตาร์ตอัพ ศศินทร์+SCG ยกระดับ นศ.สู่เวทีโลก

จัดขึ้นเป็นประจำต่อเนื่องทุกปี สำหรับงาน Bangkok Business Challenge @ Sasin การแข่งขันสตาร์ตอัพ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลกของนักศึกษาบัณฑิตศึกษาที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2545 โดยมีผู้เข้าแข่งขันเพียง 12 ทีมในวันนั้น จนสามารถเติบโตไปสู่ระดับภูมิภาคเอเชีย และกลายเป็นการแข่งขันในระดับโลกในวันนี้

ตลอดระยะเวลากว่า 16 ปีของการจัดการแข่งขัน มีทีมผู้เข้าแข่งขันจากทั่วโลกทั้งสิ้น 771 ทีม จาก 237 สถาบันการศึกษาชั้นนำ 46 ประเทศ จาก 6 ทวีปทั่วโลก และทีมผู้แข่งขันยังสามารถนำแผนธุรกิจที่นำเสนอจากการแข่งขันไปต่อยอดในการดำเนินธุรกิจจนประสบความสำเร็จ ทั้งในระดับประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นการแข่งขันแผนธุรกิจระดับโลกเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย จนในปี 2560 ที่ผ่านมามีการเปลี่ยนชื่อการแข่งขันเป็น SCG Bangkok Business Challenge @ Sasin

สำหรับล่าสุดในปีนี้ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเอสซีจี จึงร่วมกันแถลงข่าวจัดการแข่งขันแผนธุรกิจสตาร์ตอัพ SCG Bangkok Business Challenge @ Sasin 2019 ภายใต้แนวคิด “Scaling Impact Through Innovation”

โดยในรอบคัดเลือกมีทีมที่ส่งแผนธุรกิจเข้าร่วมแข่งขันจำนวน 71 ทีม จาก 40 สถาบันการศึกษา ใน 19 ประเทศทั่วโลก และอีก 14 ทีม จาก 10 สถาบันการศึกษาในประเทศไทย และผู้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศทั้งสิ้น 19 ทีม ซึ่งจะมีการแข่งรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ ระหว่างวันที่ 21-23 กุมภาพันธ์ 2562 ณ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

สำหรับรางวัลชนะเลิศ H.M. The King”s Cup จะได้รับรางวัลเกียรติคุณพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และรางวัลชนะเลิศ H.R.H. Princess Maha Chakri Sirindhorn”s Sustainability Award จะได้รับรางวัลเกียรติคุณพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัลมูลค่ากว่า 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2 ล้านบาท

“คงพันธุ์ ปราโมช ณ อยุธยา” ผู้ร่วมก่อตั้ง และผู้อำนวยการ SCG Bangkok Business Challenge @ Sasin กล่าวว่า การที่ศศินทร์เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการแข่งขันแผนธุรกิจสตาร์ตอัพในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง ecosystem ให้เกิดขึ้นแห่งวงการสตาร์ตอัพไทย ซึ่งที่ผ่านมาเราร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในการอบรมคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วประเทศเพื่อพัฒนา และยกระดับสตาร์ตอัพ

“ทั้งยังร่วมกับเอสซีจีในการบ่มเพาะเหล่าสตาร์ตอัพรุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นการแบ่งปันความรู้ (knowledge sharing) ในระดับต้นน้ำ เพื่อมุ่งสร้าง ecosystem ให้เกิดขึ้นแก่วงการสตาร์ตอัพไทย โดยปีนี้มีผู้เข้าร่วมโครงการแบ่งความรู้ ส่งผลงาน และผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ SCG Bangkok Business Challenge @ Sasin 2019 หลายทีมด้วยกัน จึงถือเป็นความภาคภูมิใจ และเป็นความสำเร็จในการพัฒนาวงการสตาร์ตอัพของไทย”

“ส่วนรูปแบบการแข่งขัน SCG Bangkok Business Challenge @ Sasin 2019 ครั้งนี้ จะเน้นแผนธุรกิจที่ทำให้เกิดนวัตกรรมจริง และจะต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อทำให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งสตาร์ตอัพจะต้องเป็นผู้คิดค้นวิธีการในการแก้ไขปัญหาของธุรกิจ หรือพัฒนาธุรกิจเหล่านั้นให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และผู้ลงทุน”

อีกทั้งทุกโครงการที่เสนอมาทั้งหมดจะเป็นโครงการอิสระ (independent) และเป็นสตาร์ตอัพที่ระดมทุนระดับ seed stage ซึ่งในปีนี้มีผลงานที่ผ่านการคัดเลือกในรอบแรกเพื่อเข้าสู่รอบรองชนะเลิศจำนวน 19 ทีม จากทั้งหมด 71 ทีม ที่มาจากทั้งสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, สิงคโปร์, อินเดีย, แคนาดา, ตุรกี และประเทศไทย

ส่วนการแข่งรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ จะมีคณะกรรมการตัดสินที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เชี่ยวชาญในด้านธุรกิจสตาร์ตอัพที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละรอบ เนื่องจากมีการแข่งขันกว่า 30 คน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมการแข่งขันรับฟังมุมมอง ความเห็นที่หลากหลาย และนำข้อเสนอแนะไปพัฒนาต่อยอดธุรกิจต่อไปด้วย

“ดร.สุรชา อุดมศักดิ์” R&D Director and Emerging Business Director ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี กล่าวเสริมว่า ในฐานะภาคเอกชนที่เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการแข่ง SCG Bangkok Business Challenge @ Sasin 2019 ถือเป็นอีกหนึ่งเวทีที่เปิดโอกาสให้ผลงานด้านการวิจัย และพัฒนาที่คิดค้นขึ้นภายในศูนย์วิจัยของมหาวิทยาลัยสามารถต่อยอดสู่ธุรกิจได้ โดยการแข่งขันปีนี้ให้ความสำคัญกับผลงานของนักคิดรุ่นใหม่ที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานด้วยการผสานนวัตกรรมเข้ากับโมเดลธุรกิจที่สามารถขยายตัวได้เร็ว เพื่อสร้างสรรค์โลกที่ดีกว่า

“จากประสบการณ์ของตัวเอง สิ่งที่สำคัญของการเป็นสตาร์ตอัพ คือpassion ที่จะต้องรักในสิ่งที่ทำ ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญมาก และต้องมองหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดยเฉพาะสตาร์ตอัพที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ซึ่งในประเทศไทยเองถือว่ามีความต้องการมาก และเชื่อว่าการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง ecosystem ตลอดจนยกระดับ และเพิ่มศักยภาพให้กับวงการสตาร์ตอัพไทย เพื่อให้เกิดการตื่นตัวในสังคมวงกว้างต่อไป”

“พิรชัย เบญจรงคกุล” Investment Director บริษัท บีซีเอช เวนเจอร์ส จำกัด ในกลุ่มบริษัท เบญจจินดา โฮลดิ้ง หนึ่งในผู้สนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้ กล่าวว่า การแข่งขัน SCG Bangkok Business Challenge @ Sasin เป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนจากมหาวิทยาลัยทั่วโลกร่วมแข่งขันนำเสนอโครงการต่าง ๆ ที่มีศักยภาพ เพื่อพัฒนาต่อยอดในอนาคต พร้อมกับโชว์เคสให้กับผู้สนใจ ทั้งนักลงทุน, องค์กร venture capitals ที่จะเข้ามาช่วยส่งเสริมกลยุทธ์ทางธุรกิจให้แข็งแกร่งมากขึ้น

“โดยที่ผ่านมา BCH Ventures มองหาพันธมิตรที่จะเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพของ digital infrastructure และ digital solution ตามเป้าหมายกลุ่มบริษัท เบญจจินดา โฮลดิ้ง เพื่อเป็นผู้นำการให้บริการทั้งในประเทศไทย และอาเซียน ทั้งยังเปิดกว้างกับทุกธุรกิจ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ที่สามารถผนึกกำลังยกระดับธุรกิจหลักของบริษัทได้ ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ ไม่เพียงเปิดโอกาสให้เราเข้าถึงไอเดียใหม่ ๆ จากทั่วโลก หากยังเป็นการสร้างโอกาสให้เยาวชนไทยเข้าสู่เวทีการแข่งขันระดับสากลด้วย”


จึงนับว่าการแข่งขันครั้งนี้เป็นการสร้างเครือข่ายแพลตฟอร์มสตาร์ตอัพในระดับโลกที่เป็นประโยชน์ต่อนักศึกษาระดับปริญญาโทในการพัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ ทั้งยังเป็นการร่วมกันยกระดับวงการสตาร์ตอัพไทยตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำให้ทัดเทียมในระดับสากลอีกทางหนึ่งด้วย