“เทสโก้ โลตัส” อัพเกรด SMEs ชูเนยถั่วคุณภาพ-คืนกำไรสู่ชุมชน

เพราะ “ความใส่ใจแม้เพียงเล็กน้อย สร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่” หรือ “Every little help makes a big difference” อันเป็นหนึ่งในคุณค่าขององค์กร ที่ “เทสโก้ โลตัส” ให้ความสำคัญ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ความมุ่งมั่นที่จะให้บริการลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นในทุก ๆ วัน ด้วยการส่งมอบสินค้าคุณภาพดี ในราคาที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ แต่ยังรวมถึงการสร้างประโยชน์ให้กับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ผ่านกิจกรรม โครงการ หรือการช่วยเหลือในรูปแบบต่าง ๆ ภายใต้แผนงาน “Little Helps Plan” เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนใน 3 มิติหลัก อันได้แก่ เพื่อนพนักงาน, ผลิตภัณฑ์ และชุมชน

โดยเฉพาะเรื่องผลิตภัณฑ์ เทสโก้ โลตัส ได้ดำเนินโครงการรับซื้อตรงจากเกษตรกรมาตั้งแต่ปี 2553 และในแต่ละปีมีการเพิ่มปริมาณในการรับซื้อผลผลิตอย่างต่อเนื่อง อย่างในปี 2561 ที่ผ่านมามีการรับซื้อตรงจากเกษตรกรกว่า 240,000 ตัน ทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่เป็นธรรม ยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเกษตรกรไทย

อีกทั้งยังพัฒนาสินค้าที่ดีต่อสุขภาพ ภายใต้แนวคิด Healthy@Heart ใส่ใจให้คนไทยสุขภาพดี รวมถึงการร่วมกับคู่ค้าในการจัดหาสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม “green products” ตลอดจนการประกาศเจตนารมณ์ไม่ทิ้งอาหารที่ยังรับประทานได้ ภายใต้โครงการกินได้ ไม่ทิ้งกัน ด้วยการบริจาคอาหารที่จำหน่ายไม่หมด แต่ยังมีคุณภาพดี สามารถรับประทานได้ให้กับมูลนิธิและผู้ยากไร้ ซึ่งถือเป็นค้าปลีกรายแรกของไทยที่ประกาศเจตนารมณ์นี้

ไม่เพียงเท่านี้ เทสโก้ โลตัส ยังให้การช่วยเหลือ สนับสนุนเอสเอ็มอีและโอท็อป ปัจจุบันมีกว่า 90% ที่เข้ามาเป็นคู่ค้า และนอกจากการเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ของผู้ประกอบการแล้ว เทสโก้ โลตัส ยังทำงานร่วมกับเอสเอ็มอี ในการผลิตสินค้าแบรนด์เทสโก้ที่ได้มาตรฐาน คุณภาพและความปลอดภัยในระดับสากล พร้อมกับการส่งเสริมโอกาสให้สินค้าไทยส่งออกไปยังต่างประเทศผ่านเครือข่ายกลุ่มเทสโก้

สำหรับล่าสุด เทสโก้ โลตัส เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “เนยถั่ว” สินค้าชุมชนภายใต้แบรนด์เทสโก้ ซึ่งเป็นผลผลิตจากกลุ่มชาวบ้าน ต.สบเปิง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ที่ได้คัดสรรถั่วลิสงคุณภาพสูง ปลูกโดยชาวบ้านในพื้นที่ และนำมาผลิตเป็นเนยถั่วรสชาติดั้งเดิมตามสูตรของมิชชันนารีชาวอเมริกัน ภายใต้การนำของ “พอลร์ ผู้พิชิตไพร” กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีเอยูแอลเทรดดิ้ง จำกัด ผู้นำกลุ่มชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง ที่พิการทางสายตา ซึ่งสามารถยกระดับมาตรฐานการผลิต จากโรงงานเล็ก ๆ สู่มาตรฐานสากล เป็นผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายในเทสโก้ โลตัส ทั่วประเทศ

“พรเพ็ญ นาถพิริยรัตน์” รองประธานกรรมการฝ่ายกำกับดูแลคุณภาพสินค้า เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า นอกจากความมุ่งมั่นที่จะให้บริการลูกค้าให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นทุกวัน ผ่านสาขาที่มีอยู่กว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศไทย รวมถึงบนแพลตฟอร์มดิจิทัลแล้ว เทสโก้ โลตัส ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมเกษตรกรและผู้ประกอบการทั้งในระดับชุมชนและเอสเอ็มอี ให้สามารถต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ ด้วยการยกระดับการผลิตสู่มาตรฐานสากล

“โครงการรับซื้อตรงจากเกษตรกร ถือเป็นหนึ่งในนโยบายด้านการจัดหาอย่างยั่งยืน (sustainable sourcing policy) ของเทสโก้ โลตัส ในการสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นกับสังคม และโครงการดังกล่าวไม่ได้หมายถึงการรับซื้อสินค้าเกษตรเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสินค้าเกษตรแปรรูปเพื่อจำหน่ายอีกด้วย

เพราะการรับซื้อตรงจากเกษตรกรของเทสโก้ โลตัส มี 2 แนวทาง คือในรูปแบบที่เป็นอาหารสด ที่ทำควบคู่ไปกับการแปรรูป และในรูปแบบที่เข้าไปถึงต้นน้ำของกระบวนการผลิต ที่นำเอาผลผลิตที่ได้มาแปรรูปขาย”

“ซึ่งโครงการสนับสนุน ช่วยเหลือเอสเอ็มอีและโอท็อปที่เราทำอยู่ ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เนื่องจากเทสโก้ โลตัส มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการตลาด ว่าต้องการอย่างไร ปริมาณเท่าไหร่ ฉะนั้นเราจึงต้องกลับไปมองที่ต้นน้ำ โดยจะเน้นที่ตัวผู้ประกอบการเป็นหลัก อย่างผลิตภัณฑ์เนยถั่วที่เปิดตัวครั้งนี้ อย่างแรกที่เราเห็นคือ ความต้องการของผู้บริโภคที่มีปริมาณสูงมาก และผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะนำเข้ามาจากต่างประเทศ ทำให้เทสโก้ โลตัสมองหาต้นน้ำที่เป็นผู้ผลิต ยอมรับว่าตอนนั้นคิดกันหนักมาก”

“จนในที่สุดเรามาเจอบริษัท พีเอยูแอล เทรดดิ้ง จำกัด ภายใต้การนำของคุณพอลร์ ผู้พิชิตไพร ซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตา ที่รวบรวมกลุ่มเกษตรกรปลูกถั่วลิสงคุณภาพสูงปลอดสาร ใน ต.สบเปิง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อนำมาผลิตเป็นเนยถั่วในสูตรดั้งเดิมของมิชชันนารี ที่เคยเข้ามาเผยแผ่ศาสนาในชุมชน”

“พรเพ็ญ” กล่าวอีกว่า เมื่อได้ฟังเรื่องราวของ “คุณพอลร์ พิชิตไพร” ในการต่อสู้และฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคของชีวิต และการทำงาน รวมถึงตัวผลิตภัณฑ์ที่ทำอยู่ จึงเหมือนเป็นการเจอเพชรเม็ดงาม ที่พร้อมยอมทุ่มสรรพกำลังที่มีในการเข้าไปช่วยพัฒนา ด้วยการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปประเมินศักยภาพ กระบวนการ วิธีการ และขั้นตอนการผลิต ซึ่งโรงงานมีกำลังการผลิตได้ถึง 50 ตัน

“หลังจากการประเมินศักยภาพการผลิตแล้ว เราคิดว่าเคสนี้ไม่ยากมาก เพราะด้วยทัศนคติและการต่อสู้ของคุณพอลร์ที่อยากจะพัฒนา ยกระดับสิ่งเหล่านี้ถือว่ามีความสำคัญ ที่สำคัญในส่วนที่เป็นโรงงาน ตลอดจนเครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ ที่เป็น hard ware ถือว่ามีความพร้อม ซึ่งได้ปฏิบัติตามกฎหมายและความปลอดภัย ทั้งยังได้รับมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับ ทั้ง GMP, HACCP, ฮาลาล ที่สำคัญเขายังได้ส่งผลิตภัณฑ์เนยถั่วไปตรวจสอบหาสารแอฟลาทอกซิน ซึ่งเรารู้สึกภูมิใจที่ผู้ผลิตใส่ใจต่อผู้บริโภค”

“มีแต่เพียงส่วนที่เป็น software ที่บางอย่างต้องพัฒนาเพิ่ม อย่างวัตถุดิบที่เข้ามายังไม่มีการตรวจสอบ หรือยังไม่มีมาตรฐานในการรับซื้อ เพราะด้วยความที่เกษตรกรปลูกอย่างไรก็มาส่งแบบนั้น รวมถึงรายละเอียดต่าง ๆ ของวัตถุดิบที่จะเข้ามาในโรงงาน ซึ่งเมื่อเราได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับคุณพอลร์และกลุ่มเกษตรกรที่ปลูกถั่วลิสงแล้ว ทำให้มีมาตรฐานในการรับซื้อ รู้แหล่งผลิตที่มาของวัตถุดิบที่ใช้ ตลอดจนกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามมาตรฐานของกลุ่มเทสโก้ ซึ่งเรียกได้ว่าจิ๋วแต่แจ๋ว”

“เราใช้เวลาไม่ถึง 3 เดือน ในการพัฒนากระบวนการต่าง ๆ จนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์เนยถั่ว ภายใต้แบรนด์เทสโก้ การทำงานในครั้งนี้จึงถือว่าเป็นความยั่งยืน เพราะถ้าเราพัฒนาต้นน้ำได้แล้ว ปลายน้ำจะสบาย โดยเฉพาะเรื่องการตรวจสอบย้อนกลับ ซึ่งจะทำให้รู้ว่าถั่วกระป๋องมาจากเกษตรกรคนไหนบ้าง รวมถึงสิ่งที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ คือมูลนิธิการศึกษาเพื่อการพัฒนาทักษะชีวิต ที่คุณพอลร์มีความตั้งใจจะนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทมาใช้ในการดูแลเด็กในมูลนิธิแห่งนี้”

“พอลร์ ผู้พิชิตไพร” กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีเอยูแอลเทรดดิ้ง จำกัด กล่าวเสริมว่า เดิมนั้นโรงงานเป็นผู้ผลิตเนยถั่ว น้ำมันและผลิตภัณฑ์จากถั่วงา โดยรวมกลุ่มกับชาวบ้านในพื้นที่ทั้งปลูกถั่วลิสงและช่วยกันผลิตสินค้าส่งขายซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งทั้งในเชียงใหม่และกรุงเทพฯ จนกระทั่งร่วมกันพัฒนาและคิดค้นกับเทสโก้ โลตัส จนออกเป็นผลิตภัณฑ์เนยถั่วภายใต้แบรนด์เทสโก้

“ผมไม่คิดเลยว่าจะมาไกลถึงขนาดนี้ เพราะตอนเข้ามาทำธุรกิจใหม่ ๆ มีปัญหา และอุปสรรคเยอะมาก ซึ่งบางเดือนเงินติดลบ จะตั้งเงินเดือนของตัวเองยังทำไม่ได้เลย และโรงงานของเราก็เริ่มจากคนแค่ 1 คน จนมีกลุ่มแม่บ้าน อายุ 50-60 ปี เข้ามาทำงานหลังช่วงทำนา เรียกได้ว่าล้มลุกคลุกคลานกัน จนในวันนี้สามารถนำสินค้าไปวางขายในเทสโก้ โลตัสที่สาขาทั่วประเทศ”

“รายได้จากการจำหน่ายเนยถั่วส่วนหนึ่ง นอกจากจะสร้างคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้กับเกษตรกรและชาวบ้านแล้ว ยังถูกมอบให้กับมูลนิธิการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต เพื่อฝึกอาชีพให้เด็กด้อยโอกาสในพื้นที่ ที่เป็นชาวเขากว่าอีก 30 ชีวิตอีกด้วย”

จึงนับเป็นการคืนกำไรสู่ชุมชน ตามเจตนารมณ์ของ “พอลร์ ผู้พิชิตไพร” และเป็นการสร้างประโยชน์ให้กับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ภายใต้แผนงาน “Little Helps Plan” ของเทสโก้ โลตัสทางหนึ่งอีกด้วย

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลยพิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!