บริษัทจดทะเบียนไทย การดำเนินงานด้านความยั่งยืน

คอลัมน์ CSR Talk

โดย วรางคณา ภัทรเสน

 

ในปี 2561 ผ่านมา บริษัทจดทะเบียนไทยมีความโดดเด่นในการพัฒนาด้านความยั่งยืนเพิ่มขึ้นอย่างมาก เห็นได้จากผลการประเมินการจัดอันดับความยั่งยืนจากองค์กรทั้งในและต่างประเทศ ผลงานเหล่านี้ไม่เพียงแค่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนไทยที่ได้แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และการเติบโตขององค์กรอย่างมั่นคงต่อเนื่องในระยะยาวเท่านั้น

แต่ผลงานเหล่านี้ยังสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุน และเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุน ตามแนวคิดการลงทุนอย่างยั่งยืนที่นำประเด็นด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และการกำกับดูแลกิจการ (ESG) มาเป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจลงทุนควบคู่ไปกับการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินของบริษัท

บทความนี้ จึงขอสรุปรวบรวมผลความก้าวหน้าด้านการพัฒนาความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนไทย ในรอบปี 2561 มาเพื่อทราบอีกครั้ง

การประเมินการรายงานด้านการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนไทย (Corporate Governance Report of Thai Listed Companies-CGR) ดำเนินการประเมินโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ซึ่งจะประเมินภาพรวมของการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนไทย โดยดูจากข้อมูลที่บริษัทเปิดเผยต่อสาธารณชนใน 5 หมวด คือ สิทธิของผู้ถือหุ้น, การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน, ความรับผิดชอบของคณะกรรมการ, การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส และการคำนึงถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

จากผลการสำรวจบริษัทจดทะเบียนในปี 2561 ทั้งสิ้น 657 บริษัท พบว่ามีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 81 เปอร์เซ็นต์ สูงที่สุดตั้งแต่เริ่มทำการประเมินคะแนน CGR ในปี 2544

ASEAN CG Scorecard เป็นการประเมินที่ริเริ่มโดย ASEAN Capital Markets Forum ซึ่งเกิดจากการสนับสนุนของ ก.ล.ต.ในภูมิภาคอาเซียน เพื่อทำการประเมินการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนมีมูลค่าตามราคาตลาดสูงสุด 100 อันดับแรกของกลุ่มประเทศอาเซียน 6 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, เวียดนาม และไทย ณ วันที่ 31 มีนาคม ของปีที่ทำการประเมิน

จากผลการสำรวจในปี 2561 บริษัทจดทะเบียนไทยยังคงเป็นผู้นำโดยมีคะแนนเฉลี่ยสูงสุด เท่ากับ 85.73 คะแนน

“หุ้นยั่งยืน” (Thailand Sustainability Investment-THSI) การประเมินความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนที่สมัครใจเข้าร่วม การประเมินความยั่งยืนที่จัดทำโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยการประเมินครอบคลุมคำถามในมิติ ESG ซึ่งบริษัทที่ผ่านการคัดเลือกในรายชื่อหุ้นยั่งยืน ต้องมีคะแนนจากการตอบแบบประเมินความยั่งยืน อย่างน้อย 50% ในแต่ละมิติ ESG หรือเป็นบริษัทที่ได้รับการคัดเลือก ให้เป็นสมาชิกของ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) รวมทั้งมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด เช่น การประเมินคุณภาพรายงานด้านบรรษัทภิบาล ผลประกอบการ ด้านกำไรสุทธิและส่วนของผู้ถือหุ้น การกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของบริษัทจดทะเบียน การไม่สร้างผลกระทบด้าน ESG เป็นต้น

ปี 2561 มีบริษัทจดทะเบียนอยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืนจำนวน 75 บริษัท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มี 60 บริษัท

“ดัชนีความยั่งยืน” (SETTHSI Index) ตลาดหลักทรัพย์ฯจัดทำดัชนีความยั่งยืน SETTHSI Index ในปี 2561 ซึ่งเป็นครั้งแรกในตลาดทุนไทย โดยคัดเลือกหุ้นจากหุ้นยั่งยืน (THSI) ปีล่าสุดที่ทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ไม่น้อยกว่า 6 เดือน ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท สัดส่วน
ผู้ถือหลักทรัพย์รายย่อยไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของทุนชำระแล้ว และจำนวนหุ้นซื้อขายไม่น้อยกว่าร้อยละ 0.5 ของจำนวนหุ้นจดทะเบียนของบริษัท เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 9 ใน 12 เดือน

ดังนั้น ในครึ่งปีแรกของปี 2562 มี 57 บริษัทจดทะเบียนเป็นสมาชิกของดัชนี SETTHSI

การประเมินความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนที่ได้รับการเชิญให้เข้าร่วมตอบแบบประเมินความยั่งยืน ที่จัดทำโดย RobecoSAM เพื่อคัดเลือกเข้าสู่ดัชนี DJSI ซึ่งบริษัทที่ได้รับเชิญจะต้องเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดปรับด้วยการกระจายการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อย (free-float adjusted market capitalization) ไม่ต่ำกว่า US$ 500 million และผ่านเกณฑ์การประเมินความยั่งยืนทางธุรกิจ (corporate sustainability assessment) ใน 3 มิติ ESG ซึ่งแบบประเมินความยั่งยืนของ DJSI นั้นถูกออกแบบเฉพาะ ตามกลุ่มอุตสาหกรรม 60 กลุ่มที่ RobecoSAM จัดทำขึ้นอ้างอิงจากมาตรฐาน GICS (Global Industry Classification Standard) โดยคัดกรองบริษัทที่มีคะแนนการประเมินสูงที่สุด 10% ของแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม (best-in-class)

ในปี 2561 มี 19 บริษัทจดทะเบียนไทยเป็นสมาชิกของดัชนี DJSI Emerging Market และ 8 บริษัทจดทะเบียนเป็นสมาชิกของดัชนี DJSI World ซึ่งประเทศไทยยังคงมีจำนวนบริษัทสูงสุดในอาเซียน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 นับตั้งแต่ปี 2557 โดยในจำนวนนี้ มี 5 บริษัทจดทะเบียนได้รับคะแนนสูงสุดเป็นที่หนึ่งของโลก ด้านความยั่งยืนใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรม (ปี 2560 มี 16 บริษัทจดทะเบียนเป็นสมาชิกของดัชนี DJSI Emerging Market และ 5 บริษัทจดทะเบียนเป็นสมาชิกของดัชนี DJSI World)

“MSCI ESG Index” การประเมินความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนโดย MSCI ESG Research เป็นผู้รวบรวมข้อมูลด้านความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ภายใต้ MSCI All Country World Index และไม่เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, การพนัน, ยาสูบ, พลังงานนิวเคลียร์ และอาวุธจากแหล่งต่าง ๆ โดยรวบรวมจากข้อมูลเผยแพร่ของบริษัท ข้อมูลของหน่วยงานรัฐ งานวิจัยจากสถาบันการศึกษา ฐานข้อมูลออนไลน์ ข่าวจากสื่อต่างประเทศ และสื่อท้องถิ่น รวมถึงรายงานและบทสัมภาษณ์จากกลุ่ม NGO

ในปี 2561 มี 32 บริษัทจดทะเบียนเป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืน MSCI AC ASEAN ESG UNIVERSAL

“FTSE4Good Index” การประเมินความยั่งยืนของบริษัทจดทะเบียน โดย FTSE Russell รวบรวมข้อมูลผลการดำเนินงานด้าน ESG ของบริษัทที่อยู่ใน FTSE Index และไม่เป็นบริษัทที่ผลิตสินค้าประเภทยาสูบ อาวุธหรือส่วนประกอบอาวุธ และถ่านหิน โดยรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่บริษัทมีการเผยแพร่ เช่น รายงานประจำปี เว็บไซต์ของบริษัท เป็นต้น

ในปี 2561 มี 34 บริษัทจดทะเบียนเป็น สมาชิกของดัชนีความยั่งยืน FTSE4 Good Emerging Indexes

รางวัล “United Nations Sustainable Stock Exchanges Market Transparency Award” จึงเป็นรางวัลที่มอบให้แก่ตลาดหลักทรัพย์ที่มีบริษัทจดทะเบียนเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนโดดเด่นและมีคุณภาพมากที่สุด

โดยสำรวจจากบริษัทจดทะเบียนทั่วโลก 4,300 แห่ง ที่อยู่ในฐานข้อมูลของ FTSE Russell ESG Research ซึ่งเป็นผู้จัดทำดัชนี FTSE โดยพิจารณาตัวชี้วัดด้านความยั่งยืน 7 ประเด็น ได้แก่

1) การจัดการก๊าซเรือนกระจก 2) การใช้พลังงาน 3) การใช้น้ำ 4) การจัดการของเสีย 5) อัตราการบาดเจ็บจากการทำงาน 6) อัตราการลาออกของพนักงาน และ 7) สัดส่วนจำนวนพนักงานชั่วคราวต่อพนักงานทั้งหมด การจัดอันดับนี้ได้เปิดเผยในรายงาน Sustainable Stock Exchanges Initiative “2018 Report on Progress” เรื่อง Measuring Sustainability Disclosure

จากผลการสำรวจปี 2561 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอยู่อันดับที่ 7 จากตลาดหลักทรัพย์ 35 แห่งทั่วโลก (ในปี 2560 เป็นอันดับ 10) โดยเป็นที่หนึ่งในกลุ่มตลาดหลักทรัพย์เกิดใหม่ (emerging markets) และเป็นตลาดหลักทรัพย์เอเชียเพียงแห่งเดียวที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ที่มีบริษัทจดทะเบียนเปิดเผยข้อมูลด้านความยั่งยืนโดดเด่นทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทยที่บริษัทจดทะเบียนไทยแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ และขีดความสามารถในการพัฒนาธุรกิจให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล และเติบโตได้อย่างมั่นคง ยั่งยืน 

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลยพิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat 

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!